โฉนดปลอม เขาหน้ายักษ์

โฉนดปลอม เขาหน้ายักษ์

ที่ดินเนื้อที่ 500 ไร่ บริเวณเขาหน้ายักษ์

 อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา บ่งบอกสภาพแท้จริงไม่มีต้นมะพร้าว ไม่มีการทำประโยชน์ ตามที่ เสี่ย ก. ผู้กล่าวอ้างนำมาแสดงเพื่อขอเอกสารสิทธิ์ และยังพบว่า มีเจ้าหน้าที่ที่ดินแถลงต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราช ว่ามีการทำประโยชน์ (สวนมะพร้าว) ทำให้ศาลหลงผิดในข้อเท็จจริง

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยการร้องขอของกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พิสูจน์ทราบและได้สอบสวนชาวบ้านที่โดนแอบอ้างชื่อ ว่าทำกินบริเวณนั้น จนรู้ว่าที่ดินเขาหน้ายักษ์ ไม่เคยมีผู้ครอบครองมาก่อน ชาวบ้านบางคนบอกว่ามีคนมาจ้าง นำชื่อไปขอออกเอกสารสิทธิ์

คำให้การเหล่านี้ คือหลักฐานใหม่ ที่ศาลปกครองนครศรีธรรมราช มีคำสั่งเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2558 ว่า ต้องเพิกถอน นส 3 ก 10 ฉบับ ส่วนอีก 2 แปลง ศาลให้ผู้มีอำนาจเพิกถอนเอกสารสิทธิ์

อธิบดีดีเอสไอ .ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง ลงพื้นที่และพบกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี หาดท้ายเหมือง จ.พังงา มงคล ลิ้ววิริยะกุล ทำให้ดีเอสไอ มีข้อมูลว่าขบวนการบุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐ มีเจ้าหน้าที่ที่ดินสาขาท้ายเหมือง จ.พังงา ชื่อ ‘ธวัชชัย อนุกูล’ มีส่วนรู้เห็น

  ‘ธวัชชัย อนุกูล โดนเด้งมาจากที่ดิน จ.ภูเก็ต ได้ร่วมมือกับนายทุน ภูเก็ต ชื่อ โก ก. วางแผนแอบอ้างชื่อชาวบ้าน 10 ราย ยื่นขอกรมที่ดิน ออกเอกสารสิทธิ์ ด้วยการอ้างว่าชาวบ้าน ทำสวนมะพร้าว 500 ไร่ มาก่อน

ธวัชชัย อนุกูล มีชื่อออกเอกสารสิทธิ์โดยไม่มีอำนาจ การออกเอกสารสิทธิ์ หากทำสำเร็จ จะทำให้รัฐเสียหาย 12,500 ล้านบาท

ย้อนเวลากลับไป ที่จ.ภูเก็ต ดีเอสไอ อ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศ ปี 2510 พบการเปลี่ยนแปลงสภาพของชายหาดเลพัง ที่ค่อยๆ งอกออกไปตามการทับถมของตะกอนทะเล และพบว่าเริ่มมีผู้บุกรุกมาตั้งแต่ปี 2510

ดีเอสไอเตรียมจะรับเป็นคดีพิเศษ เพื่อเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยมิชอบ เพราะ ‘ธวัชชัย อนุกูล’ คือผู้ลงลายมือชื่อให้ออกเอกสารสิทธิ์ โดยที่ตัวเองไม่มีอำนาจ

ปัจจุบันราคาที่ดินหาดเลพัง สูงถึง 14,000 ล้านบาท ไม่แปลกเลย ผลประโยชน์มหาศาล ยั่วยวนให้กระทำผิดกฎหมาย