โอบามาเหยียบลาวครั้งแรก :

โอบามาเหยียบลาวครั้งแรก :

ทุกสายตามุ่งเวียงจันทน์เดือนหน้า

ประธานาธิบดี บารัก โอบามา เหลือเวลานั่งเก้าอี้ทำเนียบขาวอีกเพียงไม่ถึง 6 เดือน แต่ก็จะสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการเป็นผู้นำสหรัฐคนแรกที่มาเยือน สปป. ลาวเพื่อนบ้านของเราอย่างมีสีสันไม่น้อย

เพราะเวียงจันทน์เป็นเจ้าภาพหมุนเวียนอาเซียนประจำปีนี้ และจะจัดงานประชุมประจำปี ที่ระดมผู้นำจากอาเซียนและเอเชีย รวมไปถึงผู้นำมหาอำนาจเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น และออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน ว่าด้วยปัญหาอาเซียนและของโลกพร้อมหน้ากัน

นอกจากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนประจำปีแล้ว ก็ยังมี US-Asean Summit และ Asia Summit ระหว่างวันที่ 6-8 ก.ย.นี้

โอบามา จะบินจากการประชุมสุดยอดของผู้นำ G-20 ที่เมืองหางโจวของจีน ก่อน แล้วมาแตะแผ่นดินลาววันที่ 2 ก.ย.และอยู่ต่อไปถึงวันที่ 9 ก.ย.

ถือว่าเป็นการมาเยือนเอเชียครั้งที่ 11 ของโอบามาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2009

และสอดคล้องกับนโยบาย ปักหมุดเอเชีย หรือ Pivot to Asia ซึ่งมีชื่อเป็นทางการว่าเป็นการ สร้างดุลใหม่ หรือ Rebalance เพื่อตอกย้ำถึงความสำคัญของเอเชียในทิศทางของสหรัฐภายใต้การนำของเขา

นโยบายนี้เดิมทีเป็นแนวทางที่เสนอโดย ฮิลลารี คลินตัน ตอนเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศภายใต้การนำของโอบามา

แต่ผมพยายามฟังการหาเสียงของเธอในช่วงนี้ จะไม่ได้ยินเรื่อง “ปักหมุดเอเชีย” เท่าไหร่ เพราะการหาเสียงที่อเมริกา ต้องเน้นเรื่องปากท้องของชาวบ้านมะกัน และอะไรๆ ที่ฟังยากหรือต้องทำความเข้าใจ ผู้สมัครก็จะพยายามหลีกเลี่ยงเสีย

แม้เรื่อง Trans-Pacific Partnership (TPP) ที่ฮิลลารีเคยประกาศเห็นพ้องกับโอบามา เธอก็ยังต้องถอยกรูด เพราะถูกมองว่าการเปิดการค้าเสรีอย่างนี้ จะทำให้คนอเมริกันตกงานมากขึ้น เพราะประเทศอื่นจะสามารถเข้ามาเจาะตลาดสหรัฐมากกว่าเดิม

ลงท้ายการหาเสียงของนักการเมืองอเมริกัน แม้ในระดับสูงสุดอย่างตำแหน่งทำเนียบขาว ก็ยังต้องพูดเรื่องที่ชาวบ้านสนใจใคร่รู้เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของตัวเอง เรื่องนโยบายต่างประเทศหากไม่เกี่ยวกับปากท้อง ก็อย่าได้นำมาพูดเพราะมีโอกาสจะเสียคะแนนมากกว่าได้ความนิยมด้วยซ้ำไป

โอบามา มา สปป. ลาวครั้งแรก ก็จะต้องสำแดงความเป็นผู้นำระดับโลก ต่อประเทศที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสงครามอินโดจีน และยังมีประเด็นเรื่องระเบิดที่ตกค้างจำนวนมากมายในส่วนต่าง ๆ ทั้งที่ระเบิดแล้วและที่ยังไม่ระเบิด อันเป็นมรดกตกทอดจากสมัยที่อเมริกามาทำสงครามเวียดนาม และใช้ลาวเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการต่อต้านคอมมิวนิสต์ ที่มีจีนและสหภาพโซเวียตสมัยนั้นหนุนหลัง

วันนี้แม้การเมืองจะพลิกโฉมไปมากแล้ว แต่อันตรายก็ยังค้างคาอยู่ในรูปของระเบิดฝังดิน จำนวนมหาศาลที่จะต้องใช้งบประมาณสูง ในการเคลียร์ที่วอชิงตันจะต้องช่วยเหลือรัฐบาลลาว

ที่สำคัญกว่านั้นก็คือแนวทางที่สหรัฐ จะกระชับความสัมพันธ์กับลาวเพื่อ ถ่วงดุลอำนาจของจีน ที่มีความใกล้ชิดกับเวียงจันทน์ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจหรือสังคมและการเมืองในทุกระดับชั้น

ผู้นำลาววันนี้ในฐานะประธานอาเซียน จำต้องกำหนดก้าวเดินทางการทูตระหว่างประเทศอย่างระแวดระวัง เพราะไม่ต้องการถูกเบียดไปอยู่ข้างใดข้างหนึ่งในเวทีโลก

ถือว่าเป็นงานที่ยากเย็นและท้าทายพอสมควรสำหรับผู้นำ สปป.ลาว ที่ถึงวันนี้ก็ทำหน้าที่ได้น่าชื่นชม ดูจากผลงานการประชุมระหว่างอาเซียนกับจีนเมื่อเร็วๆ นี้ ที่กรุงเวียงจันทน์

ท่ามกลางแรงกดดันจากทุกๆ ด้านประเด็นเรื่องทะเลจีนใต้ เจ้าภาพ สปป.ลาว ก็ทำให้ทุกฝ่ายมีความพอใจกับแถลงการณ์ ที่เอ่ยถึงประเด็นร้อนโดยไม่ให้ฝ่ายไหนต้องรู้สึกเสียหน้าหรือเสียสถานภาพของตนเอง

สปป.ลาว แม้จะเป็นประเทศเล็ก แต่ก็ทำงานใหญ่ระดับสากลได้อย่างน่าสนใจทีเดียวครับ