นายกฯประยุทธ์ควรกระซิบ ถามโอบามาเรื่องอะไร?
วันนี้ นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชาบินไปร่วม
“ประชุมสุดยอด” ระหว่างสหรัฐกับผู้นำอาเซียนที่สถานที่ตากอากาศ Sunnylands รัฐแคลิฟอร์เนียที่มีสมญานามว่า “แคมป์เดวิดแห่งตะวันตก” พื้นที่กว่า 500 ไร่ เป็นสถานที่เจ้าของเดิมคือ Walter กับ Leonore Annenberg เคยใช้ต้อนรับผู้นำสหรัฐในอดีตมาอย่างต่อเนื่อง
ประธานาธิบดีบารัก โอบามาเหลือเวลาในทำเนียบขาวไม่ถึงหนึ่งปี แต่ต้องการจะตอกย้ำถึงนโยบาย “ปักหมุดเอเซีย” (Pivot to Asia) และความยิ่งใหญ่ของสหรัฐในภูมิภาคนี้ด้วยการจัดงาน event ใหญ่ทางซีกมหาสมุทรแปซิฟิกเพราะต้องการถ่วงดุลอิทธิพลจีน และยืนยันความเป็น “เจ้าสมุทร” ด้วยการอ้างสิทธิที่จะส่งเรือรบมาตระเวณในทะเลจีนใต้ได้ตลอดเวลา
สหรัฐฯได้ประกาศ “ยกระดับ” ความสัมพันธ์กับ 10 ประเทศอาเซียนให้เป็น “Strategic Partnership” หรือ “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์” ซึ่งมีความหมายว่าจะทำให้ความสัมพันธ์มีความ “ลุ่มลึกและกว้างขวาง” มากกว่าที่เป็นมาไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคงและการต่อต้านการก่อการร้ายสากล
จังหวะของการพบปะกันที่ Sunnylands ที่จะเริ่มวันนี้คือการที่อาเซียนประกาศเป็น “ประชาคมอาเซียน” หรือ Asean Community อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งแปลว่าความเกี่ยวดองกันจะมีโครงสร้างชัดเจนขึ้น และมีเนื้อหาสาระที่ลงลึกถึงรายละเอียดมากกว่าที่ผ่านมา
แม้ว่าหัวข้อที่วางเอาไว้สามเรื่องจะเขียนไว้กว้าง ๆ และเรื่องจริงจะปรึกษาหารือกันไม่อยู่ในวาระทางการ แต่การที่โอบามาเชิญผู้นำอาเซียนไปที่ฝั่งตะวันตกของสหรัฐครั้งนี้ส่งสัญญาณบางประการ นั่นคือสหรัฐสามารถจะระดมผู้นำอาเซียนทุกประเทศมาอย่างพร้อมเพรียงบนแผ่นดินอเมริกาได้
มีคำถามว่าถ้าประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนเชิญผู้นำอาเซียนทั้งหมดไปประชุมสุดยอดทำนองเดียวกันนี้ จะมีความพร้อมพรักกันอย่างนี้หรือไม่ ผู้นำเวียดนามและฟิลิปปินส์จะมีเงื่อนไขบางประการเพื่อไม่ให้ถูกมองว่ายอม “ซูฮก” ให้จีนในขณะที่ยังมีเรื่องขัดแย้งเกี่ยวกับทะเลจีนใต้หรือไม่?
ในทำนองเดียวกันถ้าผู้นำญี่ปุ่นเชิญประชุมอย่างนี้บ้างที่ญี่ปุ่น ผู้นำอาเซียนทั้งหมดพร้อมจะไปปรากฏตัวอย่างนี้หรือไม่
และหากนายกฯอินเดียทำอย่างนี้บ้าง จะทำได้หรือไม่?
นี่คือคำถามที่เกิดขึ้นในใจผมเมื่อเห็นโอบามา ประกาศเชิญชวนผู้นำอาเซียนให้ไปชุมนุมกันที่ Sunnylands แทนที่ผู้นำจากวอชิงตันจะบินมาพบปะกับเจ้าของบ้านแถวนี้อย่างที่ทำมาหลายปี
อีกคำถามหนึ่งคือผู้นำอาเซียนเองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในการบอกกล่าวกับผู้นำสหรัฐในเรื่องสำคัญต่าง ๆ ที่มีผลต่อการค้า การลงทุน เศรษฐกิจภาพรวมและความร่วมมือทางความมั่นคงมากน้อยเพียงใด
เพราะต้องยอมรับว่าสมาชิกอาเซียน ก็ไม่ได้มีความเป็นเอกภาพกันในทุกเรื่อง โดยเฉพาะหากจะต้องเลือกระหว่างจีนกับอเมริกา เราก็จะเห็นรอยปริแยกในนโยบายของสมาชิกอาเซียนเองอย่างปฏิเสธไม่ได้
ที่แน่ ๆ คือนายกฯไทยเราอย่าลืมกระซิบถามโอบามาว่า “ประธานาธิบดีคนต่อไปของคุณจะเดินตามนโยบายของคุณแค่ไหนหรือไม่?”
กระซิบถามด้วยว่าโอบามาเชียร์ฮิลลารี คลินตันหรือเบอร์นี่ แซนเดอร์ส?
และถ้าโดนัล ทรัมพ์แห่งพรรครีพับบลิกันยึดทำเนียบขาวได้ แกจะสร้างกำแพงกั้นไม่ให้คนอาเซียนเข้าสหรัฐหรือไม่?