คนยังเห็นไม่ชัดเรื่องปฏิรูป

คนยังเห็นไม่ชัดเรื่องปฏิรูป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

 (คสช.) กล่าวย้ำอีกครั้งวานนี้ (13 ต.ค.) ถึงนโยบายสำคัญของรัฐบาลคือการปฏิรูปในทุกด้าน แต่หากฟังน้ำเสียงของนายกรัฐมนตรีจะเห็นว่ามีความหนักใจอยู่ไม่น้อย เนื่องจากประชาชนยังมองไม่เห็นว่าเกิดการปฏิรูปในด้านใด จึงพยายามเรียกร้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูป แต่ก็ต้องยอมรับว่าการปฏิรูปเป็นเรื่องใหญ่และต้องทำอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นบางเรื่องอาจมองไม่เห็นว่าเป็นการปฏิรูป แต่เป็นเรื่องการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

นายกฯระบุว่า “เวลานี้เป็นเวลาสำคัญ จากช่วงนี้ไปจนถึงเดือนก.ค. 2560 เป็นช่วงของการปฏิรูป และเตรียมการปฏิรูปประเทศ ซึ่งความจริงเราก็กำลังปฏิรูปกันอยู่แล้ว แต่บางคนก็ไม่เข้าใจว่า ปฏิรูปหรือยัง ก็อยากบอกว่าเราปฏิรูปและทำงานแบบวันนี้ไง ถึงได้งานออกมาอย่างที่เห็นได้เรื่องได้ราว ถ้าไม่ปฏิรูปแล้วทำแบบเดิมก็ไม่ต้องทำอะไรนั่งเฉยๆ ทำแบบเก่าทั้งหมดก็ไม่ได้ป่าคืน ไม่ได้แก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ไม่ได้แก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ แม้แต่ไม่ได้แก้ปัญหาของตำรวจให้มีประสิทธิภาพ มันมีหลายส่วนที่ต้องช่วยๆกัน"

ทั้งนายกฯ มักจะย้ำถึงโรดแมพอยู่ตลอดเวลา เมื่อเกิดคำถามเชิงการเมืองขึ้นมา ซึ่งหากเป็นไปตามที่นายกฯย้ำอยู่เสมอ ก็เท่ากับว่าจากนี้ไปอีกราว2 ปีจะมีการเลือกเกิดขึ้นเพื่อให้ได้รัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตย แต่สิ่งท้าทายใหญ่สำหรับรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คือจากนี้ไปจะผลักดันการปฏิรูปให้สำเร็จออกมาได้อย่างไร โดยเฉพาะในเรื่องที่เป็นพื้นฐานสำคัญของประเทศ เพราะบางเรื่องมีความซับซ้อนอย่างมาก ซึ่งเวลาเพียงแค่ 2 ปีอายังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรมออกมาก็เป็นได้

ารปฏิรูปสำคัญของรัฐบาลที่พยายามผลักดันในด้านเศรษฐกิจ และการพัฒนาประเทศที่สำคัญคือโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา แม้จะล่าช้าออกไปจากกำหนดเดิม แต่ก็ถือว่ามีความต่อเนื่องและพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น เช่นเดียวกับหลายเรื่องที่เกี่ยวโครงสร้างพื้นฐานด้านอื่นเช่น ด้านพลังงาน ซึ่งก็ดูเหมือนว่ามีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องในการปฏิรูปโครงสร้างราคาพลังงานของประเทศ โดยในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจในขณะนี้ถือว่าไม่น่าเป็นห่วงกับช่วงเวลาที่เหลืออีก 2 ปี

แต่ประเด็นที่น่าห่วงมากที่สุด คือ ในเชิงสังคม เพราะเป็นเรื่องที่ปฏิรูปยากมาก และมองไม่เห็นเป็นรูปธรรมได้ง่ายนัก เช่น นโยบายการปฏิรูประบบราชการของประเทศ รวมทั้งการปฏิรูปด้านสังคมอื่นๆ โดยเฉพาะการปฏิรูปการเมือง ที่มีความเกี่ยวโยงกับลักษณะเฉพาะของวัฒนธรรมไทยค่อนข้างมาก ยิ่งรัฐบาลต้องการเห็นการเมืองใหม่ก็ยิ่งเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้นไปอีก และมักจะเกิดคำถามว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ในช่วงเวลาที่เหลืออีกเพียง 2 ปี ในการเปลี่ยนแปลงการเมืองของประเทศที่สืบทอดมายาวนาน

เราเห็นว่าการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานนั้น ไม่มีความน่าเป็นห่วงเท่ากับการปฏิรูปในทางสังคมการเมืองของประเทศ 

ยิ่งยังเกิดความขัดแย้งหรือความเห็นต่างในหลายด้านต่อการปฏิรูปการเมือง คนทั่วไปก็ยิ่งมองไม่เห็นทางออกของการปฏิรูปเท่านั้น เราเห็นว่ารัฐบาลและคสช. อาจจำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่าในด้านสังคมการเมืองนั้น เรากำลังจะเดินหน้าไปทางไหน และเราเชื่อว่าประชาชนก็น่าจะเข้ามามีส่วนร่วมหากเห็นด้วยกับแนวทางปฏิรูป