เสาร์เดินหน้า
กาลเวลาย่อมผ่านไป ตราบใดที่ดวงดาวยังโคจร เมื่อเวลาเปลี่ยน สถานการณ์ย่อมเปลี่ยนไปด้วย
คนเราก็ควรยืดหยุ่นโอนอ่อนไปตามสถานการณ์
วันที่ 14 มีนา 58 เวลา 19:43 น.ดาวเสาร์วิกลคติพักร์ (หยุดนิ่งเพื่อถอยหลัง : Stationary-retrograde) ที่ 10 องศา 52 ลิปดาในราศีพิจิก จากนั้น เสาร์ถอยหลังเรื่อยไปจนถึง 2 สิงหา 58 เสาร์จะวิกลคติเสริด (หยุดนิ่งเพื่อเดินหน้า : Stationary-direct) เวลา 10:50 น.ที่ 4 องศา 12 ลิปดา ในราศีพิจิก รวมเวลาที่ดาวถอยหลัง (ประมาณ) 4.5 เดือน
เสาร์คือดาวเจ้าเรือนภพ 10 (กัมมะ) ของดวงเมืองไทย ซึ่งหมายถึงการเมือง-การปกครอง ช่วงที่เสาร์ถอยหลัง การเมืองชะงักงัน อันเป็นช่วงที่คณะกรรมการกำลังร่าง รธน.ใหม่ ขณะที่รัฐบาลเผชิญแรงเสียดทานจากปัญหาหลายด้าน จนไม่อาจขับเคลื่อนประเทศไปได้ดังใจ
ต้นพฤษภา อังคารยกเข้าพฤษภ เล็งเสาร์จรพิจิกในแกนภพที่ 2 และ 8 ปัญหาเศรษฐกิจปะทุ กระทบต่อความเชื่อมั่นในรัฐบาล กลางมิถุนาถึงสิ้นกรกฎา อังคารจรเข้าเมถุน เกิดเป็น Grand Cross ของอังคาร-ราหู-พลูโต-มฤตยูในกลุ่มทวิสภาวะราศี ทั้งยังกระทบต่อพื้นดวงนายกฯ รัฐบาลปั่นป่วนรวนเรไปหมด ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ แต่รวมถึงเปิดบ่อนเสรี ถอดยศ โรฮิงญา อุยกูร์ ร่าง รธน.ใหม่ ฯลฯ ที่สำคัญคือ แรงบีบจากต่างประเทศ (Grand Cross 58 อ่านที่ http://bit.ly/1B4JEfz)
ปลายกรกฎา นายกฯต้านแรงกดดันไม่ไหว จำต้องปรับ ครม.อันเป็นจังหวะพอดีกับเสาร์ที่วิกลคติเสริด ในทางทฤษฎี เสาร์หยุดนิ่งมีอิทธิพลรวมหน้า 10 หลัง 10 วัน แต่พิจิกเป็นสถิรราศี (Fixed Sign) ที่ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงช้า ผลของเสาร์จึงตามหลังมาหลายวัน กอปรกับวันที่ 14 สิงหา เวลา 21:55 น. เกิดอมาวสี (จันทร์ดับ) ที่ 27 องศา 26 ลิปดาในราศีกรกฎ-ภพเกณฑ์ จุดอมาวสีทำมุม 90 กับลัคนาดวงเมือง (Orb 4 องศา) บอกถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
การปรับ ครม.เกิดขึ้นในจังหวะเสาร์เดินหน้า นี่คือสัญญาณชี้ว่า การเมืองถึงเวลาที่ต้องเดินหน้าต่อไปแล้ว ไม่ว่าร่าง รธน.ใหม่จะเป็นเช่นไรก็ตาม แต่ ครม.ใหม่เกิดในข่ายจันทร์ดับ ชี้ถึงปัญหาอุปสรรค-ความยากลำบากที่ต้องเผชิญในอนาคต
เสาร์คือดาวแห่งการจำกัด ตีกรอบ ล่าช้า ฯลฯ เสาร์ถอยหลัง ทุกอย่างก็ล่าช้าติดขัด เมื่อเสาร์เดินหน้าปกติ เรื่องราวก็คืบหน้าไปตามครรลองของมัน ตัวอย่างเช่น เกิดลมมรสุมและฝนเริ่มตกตามปกติ (น้ำท่วม 54 ภัยแล้ง 58) จีนเริ่มจัดการกับค่าเงินหยวนของตัวเอง (เทียนจิน-หยวน) กรีซได้รับวงเงินช่วยเหลือและวิกฤติหนี้สินเริ่มคลี่คลาย (อนาคตของกรีซ) เป็นต้น
แล้วการเมืองไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป ? พิจิกคือภพที่ 8 (มรณะ) ของดวงเมือง ตั้งแต่ 2 พฤศจิกา 57 ที่เสาร์ยกเข้าพิจิก ดาวการเมือง-การปกครองตกมรณะ การเมืองไร้เสถียรภาพ โชคดีที่พฤหัสอุจจ์ในกรกฎตรีโกณถึงเสาร์ ช่วยคุ้มครองให้มั่นคงขึ้น แต่นับจาก 14 กรกฎา 58 พฤหัสยกเข้าสิงห์ ไม่มีดาวช่วยคุ้มแล้ว พฤหัสสิงห์ยังเป็นเกณฑ์กับเสาร์พิจิกอีกสถาน การเมือง-การปกครอง มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
การเมืองไทยจะเดินหน้าไปสู่ความไม่แน่นอนและไร้เสถียรภาพยิ่งขึ้น นี่คือภาพใหญ่จากดวงดาวที่สรุปได้ มันอาจต่างจากที่หลายคนคิดคำนวณและปรารถนาเอาไว้ การปรับ ครม.อาจช่วยฟื้นฟูความมั่นใจ แต่ไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันเสถียรภาพของรัฐบาล
เดือนกันยาจะเข้าสู่ฤดูคราสอีกครั้ง มีคราสเกิดขึ้น 2 ครั้งในเดือนนี้ คือ (1) วันที่ 13 กันยา 58 เวลา 13:42 น.เกิดสุริยคราส (บางส่วน) ที่ 26 องศา 6 ลิปดาในราศีสิงห์ (2) วันที่ 28 กันยา 58 เวลา 9:52 น.เกิดจันทรคราส (สรรพคราส) ที่ 10 องศา 36 ลิปดาในราศีมีน
สุริยคราส 13 กันยา ไม่ค่อยส่งผลเท่าไรนัก เพราะเป็นคราสบางส่วน (Partial) และไม่กระทบต่อจุดสำคัญในดวงเมือง ยกเว้น คราสทำมุม 90 กับอังคารเดิม แต่ก็ไม่แรง เพราะระยะเอื้อม (Orb) กว้างถึง 6 องศา แต่สุริยคราสนี้ทำมุม 90 กับอังคาร-พฤหัสเดิมในดวงนายกฯสนิท จะมีเรื่องเครียดๆ ให้คิดและตัดสินใจ
แต่จันทรคราส 28 กันยา กลับมีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นสรรพคราส (เต็มดวง) และทำมุม 90 กับพฤหัส-เสาร์-มฤตยูเดิมในดวงเมือง โดยเฉพาะเสาร์นั้นทำมุมสนิทพอดี (Partile Square) จันทรคราสมีกำลังแรงกล้าในหน้า 7 หลัง 7 วัน และภายใน 1 เดือนหลังคราส จะเกิดประเด็นใหญ่-เรื่องราวสำคัญทางการเมืองในช่วงเวลานี้
จันทรคราสยังทับพุธเดิม (Orb 4 องศา) พุธคือเอกสารสัญญา ร่าง รธน.ใหม่คือจุดโฟกัสหนึ่ง พุธคือดาวเจ้าเรือนภพ 6 (อริ) ซึ่งหมายถึงศัตรู ปัญหาอุปสรรค ฯลฯ พุธเดิมเป็นนิจจ์ (ให้โทษ) ในภพ 12 (วินาศ) ซึ่งก็คือความลับ ปกปิดซ่อนเร้น ฯลฯ สรรพคราสทับพุธเดิมเช่นนี้ ต้องระมัดระวังศัตรูลับของบ้านเมือง
ความตึงเครียดทางการเมืองมีแนวโน้มสูงขึ้น เมื่ออังคารยกเข้าราศีสิงห์ เป็นเกณฑ์กับเสาร์พิจิก อังคารจะยกเข้าสิงห์วันที่ 15 กันยา เวลา 22:59 น.อังคารสิงห์ส่งกระแสเป็นเกณฑ์ 4 ไปถึงเสาร์พิจิก ขณะที่เสาร์พิจิกส่งกระแสเป็นเกณฑ์ 10 ไปถึงอังคารสิงห์เช่นกัน (หลักโหราศาสตร์ภารตะ) อังคาร-เสาร์เป็นดาวคู่ศัตรูกัน เมื่อปะทะกันเช่นนี้ มีโอกาสเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง การปะทะต่อสู้ เหตุร้ายต่างๆ
เสาร์คือดาวการเมือง อังคารคือดาวเจ้าเรือนลัคนา หรือสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน การเมืองที่ตึงเครียดกระทบต่อประชาชน อังคารยังเป็นดาวเจ้าเรือนภพ 8 (มรณะ) ซึ่งหมายถึงภัยอันตราย อังคารคือของมีคม เพลิงไฟ ระเบิด ฯลฯ ภาครัฐควรใส่ใจดูแลสวัสดิภาพของประชาชนเป็นพิเศษ
อังคารสิงห์เข้าทำมุม 90 กับเสาร์ตั้งแต่ 17 กันยา-6 ตุลา โดยทำมุมสนิท 26 กันยา ที่ 6 องศา 31 ลิปดาในราศีสิงห์-พิจิก ช่วงกลางกันยา-ต้นตุลา จึงเป็นช่วงเวลาแห่งอุบัติเหตุ-เภทภัยอันตรายต่างๆ อังคารจะเดินหน้าเรื่อยไปจนถึง 3 พฤศจิกา เวลา 9:37 น.จึงยกเข้าราศีกันย์
ไม่ใช่แค่อังคาร กลางตุลา-กลางพฤศจิกา เสาร์ยังทำมุม 135 กับมฤตยูจรในมีนอีกด้วย เสาร์คือดาวแห่งกฎเกณฑ์ มฤตยูคือดาวที่ทำลายกฎเกณฑ์ เสาร์คือดาวการเมือง มฤตยูคือดาวแห่งการปฏิรูป มุม 135 คือมุมดาวร้าย (Hard Aspect) การเมืองไร้เสถียรภาพ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึง
ในจังหวะเดียวกัน ตั้งแต่กลางตุลา-กลางธันวา เสาร์ทำมุม 135 กับราหูเดิมในดวงเมือง เกิดแรงกดดันต่อศัตรูลับของบ้านเมือง ขณะที่ราหูจรในกันย์/ภพอริ แรงกดดันนั้นทำให้ศัตรูลับเคลื่อนไหว และปฏิบัติการต่างๆ เพื่อต่อต้านรัฐบาล
ที่สำคัญที่สุด เสาร์ที่เดินหน้า จะเข้าทำมุม 90 กับเนปจูนกุมภ์ ตั้งแต่กลางตุลา 58-กลางมกรา 59 โดยทั้งคู่ทำมุม 90 กันสนิทวันที่ 26 พฤศจิกา 58 ที่ 12 องศา 58 ลิปดาในราศีพิจิก-กุมภ์
นี่คือมุมดาวสำคัญที่ส่งผลต่อการเมือง-การปกครองไทยไปจนตลอดปี 59
เรื่องราวของเสาร์ยังไม่จบ เราจะมาว่ากันต่อเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมครับ
-------------------
ชูศักดิ์ จงธนะพิพัฒน์
