สร้างวินัย ‘ลดใช้ถุงพลาสติก’ ‘ลดโลกร้อน’ ก่อนสายเกินแก้

สร้างวินัย ‘ลดใช้ถุงพลาสติก’ ‘ลดโลกร้อน’ ก่อนสายเกินแก้

ภาวะโลกร้อน (Global Warming) หรือ ภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change)

   ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้น เป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังคุกคามโลก ซึ่งมีสัญญาณเตือนชัดเจน นั่นคือ สภาพอากาศแปรปรวนแบบยากที่จะคาดเดา ความรุนแรงของภัยธรรมชาติที่เพิ่มมากขึ้นในระดับที่เรียกว่ามหันตภัย ฤดูกาลเปลี่ยนแปแลง มีสภาพอากาศร้อนจัด หนาวจัด น้ำท่วม ภัยแล้ง พายุหมุน ซึ่งในช่วง 3-4 ปีมานี้เรียกได้ว่าพิบัติภัยแต่ละครั้งเป็นประวัติศาสตร์ในรอบ 50 ปี 100 ปี ทีเดียว เช่น น้ำท่วมใหญ่ประเทศพม่าในครั้งนี้ รุนแรงในรอบ 50 ปี ก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นกับไทยเช่นกัน

สาเหตุของปัญหาโลกร้อนล้วนมาจากกิจกรรรมหรือฝีมือของมนุษย์ ที่ทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากเกินไป จนความร้อนจากพื้นโลกไม่สามารถสะท้อนออกนอกโลกได้ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศอย่างรุนแรงไปทั่วโลก จำเป็นอย่างยิ่งที่มนุษยชาติต้องร่วมกันลดการเผาผลาญเชื้อเพลิง และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้น้อยที่สุด

สิ่งที่ใกล้ตัวและจับต้องได้อย่างชัดเจนของสาเหตุแห่งภาวะโลกร้อน คือ “ถุงพลาสติก” ที่ถูกใช้ในการรองรับสินค้านานาชนิด ยิ่งมีการใช้ถุงพลาสติกมากเท่าไหร่ ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ย่อมถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้นเท่านั้น ตั้งแต่กระบวนการผลิต และการทำลายไม่ว่าจะฝัง ซึ่งการย่อยสลายใช้เวลานาน แต่หากทำลายโดยการเผาจะก่อเกิดสารพิษ ตามด้วยปัญหามลพิษ อีกเช่นกัน

โดยข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า แต่ละปีมีขยะพลาสติกและโฟมมากถึง 2.7 ล้านตัน หรือเฉลี่ย 7,000 ตันต่อวัน ในจำนวนนี้กว่า 5,300 ตัน หรือกว่า 80% เป็นถุงพลาสติกที่ใช้เวลาในการย่อยสลายมากถึง 450 ปี นอกจากนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับ “ถุงพลาสติก” ถูกระบุถึงว่า ในทุกๆ ปี ผู้คนชอปปิงซื้อของทั่วโลกใช้ถึงพลาสติกมากกว่า 10,000 ล้านใบต่อปี ซึ่งจะต้องใช้เวลาย่อยสลายนานกว่า 1,000 ปี ถุงพลาสติก 1.6 ล้านใบ สามารถนำไปเรียงเป็นเส้นรอบวงโลกได้ 1 รอบ ทีเดียว

หรือทุก 1 ตารางไมล์ จะพบถุงพลาสติก 46,000 ใบ ลอยอยู่ในมหาสมุทร ส่งผลให้แต่ละปีมีนกทะเลตาย 1 ล้านตัว รวมทั้งสัตว์ทะเลอื่นๆ อีกกว่า 100,000 ตัว ไม่รวมปลาอีกนับไม่ถ้วน หรือเฉพาะถุงพลาสติกที่คนไทยใช้ใน 1 ปี นั้น ถูกเปรียบเทียบว่าหากนำมาต่อกัน จะได้ระยะทางเท่ากับเดินทางไปกลับดวงจันทร์ 7 รอบเลยทีเดยว

ที่ผ่านมาองค์กรภาครัฐและเอกชนต่างตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวและมีการรณรงค์ ลด ละ เลิกการใช้ถุงพลาสติกมาอย่างต่อเนื่อง หากเป็นบรรดาห้างร้านค้าปลีก จะมีแคมเปญรณรงค์ ใช้ถุงผ้าสำหรับการชอปปิงแทนการรับถุงพลาสติก ซึ่งต้องยอมรับว่ายังเป็นเพียง กระแสและ ตื่นตัวเฉพาะในช่วงจัดกิจกรรม แคมเปญ หรือ เมื่อเกิดภัยพิบัติที่สะท้อนหรือตอกย้ำปัญหาเป็นครั้งคราวไป

  ในต่างประเทศ มีมาตรการควบคุมการใช้ถุงพลาสติกในหลายรูปแบบ อาทิ การเก็บภาษี หรือเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ถุงพลาสติก การซื้อสินค้าในร้านค้าปลีกต่างๆหากไม่ได้เตรียมถุงไปต้องจ่ายค่าถุง หรือบางประเทศประกาศตัวเป็นเมืองปลอดถุง ล่าสุด รัฐบาลแกมเบียประกาศห้ามนำเข้าและห้ามใช้ถุงพลาสติกทุกรูปแบบทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 ก.ค. 2558 เป็นต้นไป การประกาศห้ามใช้ถึงพลาสติกในออสเตรเลีย บังกลาเทศ ส่วนในซานฟรานซิสโก ออกกฎหมายห้ามใช้ถุงพลาสติก แม้กระทั่ง จีน ที่มณฑลจี๋หลิน มีการใช้กฏหมายบังคับการใช้ถุงพลาสติกแล้วเช่นกัน

ก้าวรุกของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ผนึกเครือข่ายธุรกิจเอกชนเบื้องต้น 15 หน่วยงาน อาทิ เซ็นทรัล เดอะมอลล์ โรบินสัน บิ๊กซี เทสโก้ โลตัส เซเว่นอีเลฟเว่น ฟู้ดแลนด์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "งดใช้ถุงพลาสติกทุกวันที่ 15" ภายใต้โครงการ " “รวมพลังสร้างวินัยคนในชาติ ลดใช้ถุงพลาสติก ทุกวันที่ 15…หยิบถุงผ้าไปชอปปิง” เป็นการปลุกพลังมวลชนสู้โลกร้อนกันอีกครั้ง

เริ่มต้นจากตัวเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมปฎิเสธการรับถุงพลาสติก... เริ่มต้นการใช้ถุงผ้าเป็นกิจวัตรประจำวันตั้งแต่วันนี้ ก็จะช่วยลดปริมาณขยะ... ขยายวงกว้างของความพยายามในการลดภาวะโลกร้อนได้ไม่น้อย