ฤาสิงคโปร์จะยุบสภา เลือกตั้งก่อนกำหนด?

ฤาสิงคโปร์จะยุบสภา เลือกตั้งก่อนกำหนด?

ถ้าหากนายกฯ หลี่เสียนหลงของสิงคโปร์ จะประกาศยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ก่อนสิ้นปีนี้ก็อย่าได้แปลกใจ

 แม้ว่าตามกำหนดเดิม การเลือกตั้งทั่วไปคราวหน้ารอได้ถึงมกราคม ปี 2017 ก็ตาม

พอนายกฯสั่งให้มีการขีดเส้นแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ นักวิเคราะห์การเมืองที่นั่นก็ชี้นิ้วไปที่การเลือกตั้งก่อนกำหนด เพื่อให้พรรครัฐบาล People’s Action Party (PAP) สามารถชิงชัยได้เสียงข้างมากเหมือนเดิม และเพื่อสกัดพรรคฝ่ายค้าน ที่ระยะหลังทำท่าว่าจะได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่มากขึ้น

เหตุผลสำคัญที่ทำให้นักวิเคราะห์ประเมินว่า อาจมีการเลือกตั้งก่อนเวลาตั้งกว่าหนึ่งปีก็เพราะปีนี้ครบรอบ 50 ปีของการได้เอกราชของเกาะแห่งนี้ บรรยากาศการเฉลิมฉลองและความรู้สึกชาตินิยม ของคนสิงคโปร์อาจจะช่วยทำให้ผู้คนเลือกพรรครัฐบาลมากขึ้น

ประกอบกับการเสียชีวิตของลีกวนยิว อดีตนายกฯและผู้ก่อตั้งสิงคโปร์คนสำคัญและเป็นพ่อของนายกฯปัจจุบันด้วย ที่ตามมาด้วยการสรรเสริญยกย่องคุณงามความดีของเขาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้นำปัจจุบันวิเคราะห์แล้วเห็นว่าเลือกตั้งตอนนี้ดีกว่ารอถึงต้นปี 2017 แน่

คนสิงคโปร์เรียกอารมณ์ของประชาชนขณะนี้ว่า “feel-good mood” เพราะเป็นปีแห่งการฉลองเอกราชครบ 50 ปี (พิธีทางการจะจัดวันที่ 9 สิงหาคมนี้) และยังสำทับด้วยการระลึกถึงลีกวนยิวที่ได้สร้างชาติสร้างบ้านเมืองด้วยพรรค PAP นี้มาอย่างโชกโชน

หากเป็นเช่นนี้ ก่อนสิ้นปีเราก็จะเห็นการเลือกตั้งทั่วไปที่น่าติดตามอย่างน้อยสองประเทศใกล้ ๆ กับเราคือพม่า (กำหนดแล้วเป็นวันที่ 8 พฤศจิกายน) และสิงคโปร์ (ซึ่งยังไม่มีอะไรกำหนดแน่นอนตายตัว... แต่ก็คงจะรู้กันในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่)

ผลการเลือกตั้งทั้งสองประเทศ เป็นดัชนีชี้ความเป็นไปทางการเมืองของอาเซียนเป็นอย่างดี ขณะที่คนไทยและคนข้างนอกก็กำลังเกาะติดใกล้ชิดว่าการเมืองไทยจะเดินไปในทิศทางไหน จะเลือกตั้งสิ้นปีหน้าหรือต้นปี 2017 ตาม Roadmap ที่ยังปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาขึ้นอยู่กับว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน และการทำประชามติจะมีผลออกมาอย่างไร

ผลการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่แล้วเมื่อปี 2011 พรรครัฐบาลได้ 81 ที่นั่งจากทั้งหมด 87 ที่นั่งขณะที่พรรคฝ่ายค้านหลักคือ Workers’ Party ได้ 6 ที่นั่ง

หากเป็นประเทศอื่นใด รัฐบาลก็คงจะดีอกดีใจที่มีที่นั่งในสภามากมายอย่างนั้น แต่สำหรับสิงคโปร์แล้ว การที่พรรคฝ่ายค้านได้ที่นั่งเพิ่มจาก 3 เป็น 6 เท่ากับเป็นการเพิ่มขึ้น 100% และสะท้อนว่าคนหนุ่มคนสาวที่นั่นเริ่มจะเอาใจออกห่าง จากพรรคที่ปกครองประเทศตั้งแต่ได้เอกราชมาครึ่งศตวรรษ

ที่ทำให้นายกฯหลี่เสียนหลงกังวลมาก คือคะแนนเสียงรวมของพรรคที่ได้ลดลง 6.46% ขณะที่ฝ่ายค้านได้เพิ่ม 8.15%

คะแนนรวมหรือ popular votes ของพรรค PAP ได้ทั้งหมด 1,212,154 เท่ากับ 60.4% ขณะที่พรรคคนงานฝ่ายค้านได้ 258,510 หรือ 12.83%

ถือว่าเป็นครั้งแรกที่พรรครัฐบาลเสียฐานคะแนนเสียงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าโอกาสที่ฝ่ายค้านจะมาเป็นรัฐบาลยังห่างไกล แต่ผลการเลือกตั้งล่าสุดก็สะท้อนว่าความศรัทธาของคนสิงคโปร์ต่อผลงานของ PAP นั้นสั่นคลอนลงไปมาก

มากพอที่จะทำให้นายกฯ หลี่เสียนหลง ต้องยอมรับว่าเขาต้องออกมารับฟังความเห็นของประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นเก่าที่ถูกต่างด้าวแย่งงาน และคนรุ่นใหม่ที่แสดงความเห็นทางการเมืองผ่าน social media อย่างกว้างขวางและเริ่มจะเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพ ในการแสดงออกมากขึ้นกว่าเดิมอย่างรวดเร็วและกว้างขวางเกินกว่าที่เคยประเมินเอาไว้

ยิ่งเมื่อเป็นจังหวะที่หลี่เสียนหลงต้องวางตัวคนที่จะเป็นทายาท รับตำแหน่งผู้นำต่อจากเขาหลังการเลือกตั้งคราวหน้า ก็ยิ่งทำให้การเมืองสิงคโปร์ ที่เคยจืดชืดกำลังทำท่าว่าจะมีสีสันไม่แพ้เพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียเสียแล้ว