‘ศพเดินได้’ ที่ฟีฟ่ายอมไขก๊อก จับตาสอบคอร์รัปชันระดับโลก

‘ศพเดินได้’ ที่ฟีฟ่ายอมไขก๊อก จับตาสอบคอร์รัปชันระดับโลก

ภาพนี้มาจากรายการ “ห้องข่าวฉุกเฉิน” ของ Nation TV เมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา คุณนภพัฒน์จักษ์ อัตตนนท์ กับผมวิเคราะห์

กรณี Sepp Blatter ได้รับการเลือกตั้งกลับมาเป็นประธาน FIFA สมัยที่ห้าท่ามกลางเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการสอบสวนคอร์รัปชันของคนระดับบริหารและผู้เกี่ยวข้อง 14 คน

ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตและ ชัยชนะที่รอวันแพ้คือพาดหัวของบทวิเคราะห์วันนั้น

ผ่านมาไม่ถึง 48 ชั่วโมง นายแบล็ทเตอร์ ก็ประกาศลาออก

เรื่องราวเบื้องหลังว่าด้วยการจ่ายสินบนมโหฬารที่ FIFA อันเป็นองค์กรฟุตบอลระดับโลก คงต้องสร้างเป็นหนังฮอลลีวูดในเร็ววันนี้แน่นอน

เพราะนาย Sepp Blatter เพิ่งประกาศลาออกหลังจากได้รับการเลือกตั้งกลับมาเป็นสมัยที่ 5 เพียง 4 วัน

และเป็นการได้รับเลือกตั้งกลับมาหลังจากที่ผู้เกี่ยวข้อง 14 คน ถูกตั้งข้อหาคอร์รัปชันและฟอกเงิน โดยกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ ผู้ถูกกล่าวหา 9 ใน 14 เป็นระดับบริหารของฟีฟ่า โยงใยถึงทั้งเรื่องการตัดสินให้ประเทศไหนได้เป็นเจ้าภาพจัด World Cup ใครได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดทีวีและสปอนเซอร์ยักษ์ด้วย

อีกทั้งยังมีการเมืองระดับโลกมาพัวพันอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เพราะประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กระโดดเข้ามาถือหางนายแบล็ทเตอร์ อ้างว่านี่เป็น แผนสมรู้ร่วมคิด ของตะวันตกที่มีสหรัฐเป็นผู้บงการ โดยเฉพาะฝ่ายสอบสวนกลางอย่าง FBI และหน่วยข่าวกรอง CIA

จะบอกว่าแบล็ทเตอร์วัย 79 ผู้นี้เป็น เจ้าพ่อ วงการฟุตบอลโลกมายาวนานกว่าคนอื่นก็ไม่ผิด เพราะนักบริหารชาวสวิสคนนี้ยืนยันว่า ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคอร์รัปชันในฟีฟ่าเลย แม้ว่าผู้บริหารรอบตัวเขาจะถูกตั้งข้อหาอย่างชัดเจนก็ตาม

จนถึงนาทีสุดท้ายก่อนจะยอมลาออก เขาก็ยังยืนกระต่ายขาเดียว บอกว่าจะทำหน้าที่เป็นกัปตันเรือลำนี้ฝ่าฟันคลื่นลมแรงนี้ไปถึงฝั่งให้ได้

ก่อนหน้าจะยอมรับความพ่ายแพ้ เขายังออกข่าวทำนองว่าการที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ขุดคุ้ยเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพราะอเมริกาไม่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2022 (“มันมีกลิ่นตุๆ นะ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงของคนที่ยังมีความมั่นใจในตัวเองเต็มเปี่ยม)

กลิ่นตุ ๆ ที่ว่านั่นมีจริง แต่กลายเป็นกลิ่นคละคลุ้งที่มาโยงถึงเขาด้วย

วันศุกร์ที่แล้วเขายังเป็น เซปป์ผู้จองหอง” แต่พอถึงวันจันทร์เขากลายเป็น เซปป์ผู้หมดสภาพ

การตัดสินใจของเขาวิเคราะห์ได้หลายทาง แต่ที่แน่ ๆ คือแบล็ทเตอร์รู้ว่าอย่างไรเสีย หลักฐานเรื่องพฤติกรรมฉ้อฉลในระดับสูงของฟีฟ่า คงจะปิดบังอำพรางเอาไว้ไม่อยู่ แม้เขาจะได้รับเสียงสนับสนุนให้กลับมาดำรงตำแหน่งนี้อีกครั้ง

อีกทั้งสปอนเซอร์ใหญ่หลายเจ้าก็ประกาศจุดยืนชัดเจน ว่าจะถอนตัวหากเรื่องอื้อฉาวนี้ไม่จบลงด้วยการยกเครื่ององค์กรนี้อย่างจริงจัง

“ผมได้รับอาณัติให้กลับมารับตำแหน่งนี้อย่างถูกต้องชอบธรรม แต่ไม่ใช่ทุกคนในวงการฟุตบอลเห็นด้วยกับมตินี้ ผมจึงจะเรียกประชุมด่วนเพื่อให้มีการเลือกตั้งคนใหม่มาแทนผม...” เขาประกาศด้วยน้ำเสียงของคนที่รู้ว่าเป็น Dead Man Walking (ศพเดินได้) ตามพาดหัวของสื่อในอังกฤษจริง

ไม่เพียงแต่จะถูกกดดันให้หลุดออกจากตำแหน่งเท่านั้น เจ้าพ่อคนนี้อาจจะถูกสอบสวนถึงความโยงใยกับความไม่ชอบมาพากล ที่กำลังเป็นประเด็นร้อน ๆ ระดับโลกด้วยก็ได้

เป็นไปได้อย่างไรที่คนที่เป็นกัปตันเรือลำนี้มา 17 ปี มีบารมีและอำนาจคับฟ้า จะปฏิเสธความรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องราวอื้อฉาวเน่าเหม็น เกือบทุกระดับเกิดขึ้นมายาวนานเช่นนี้?