เหตุเกิดที่ปักกิ่ง : เมื่อนายกฯอินเดียขอ Selfie นายกฯจีน!

เหตุเกิดที่ปักกิ่ง : เมื่อนายกฯอินเดียขอ Selfie นายกฯจีน!

นายกรัฐมนตรีนาเรนธรา โมดิ เพิ่งไปเยือนจีนมา หนึ่งในเรื่องที่สร้างความฮือฮามากคือ แกชวนผู้นำจีนถ่าย selfie

 แล้วเอาขึ้นทวิตเตอร์และเฟซบุ๊คโดยพลัน

และอย่าแปลกใจถ้าหากจะพบรูปนี้ใน Weibo ซึ่งเป็นเว็บไซต์สไตล์แบบทวิตเตอร์ของจีนเพราะก่อนหน้ามาเยือนจีน นายกฯโมดิ ก็สมัครเข้าเป็นสมาชิกเรียบร้อย

เพราะนายกฯอินเดียคนนี้เป็นผู้นำโลกไม่กี่คนที่เล่น social media อย่างคึกคัก ล่าสุดที่ผมเช็คดู แกมีคนตามในทวิตเตอร์กว่า 12 ล้านคน และในเฟซบุ๊คมีแฟนถึง 25 ล้านคน

ภาพที่ผมเอามาให้ดูนี่คงสร้างความตื่นตะลึงให้กับนายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียง ของจีนพอสมควร เพราะผู้นำจีนไม่คุ้นเคยกับเรื่องอย่างนี้ และคงไม่มีผู้ใหญ่ในรัฐบาลจีน หรือพรรคคอมมิวนิสต์จีนเล่นถ่าย selfie อย่างเปิดเผยเช่นนี้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าใครในรัฐบาลจีนจะกล้าเอารูป selfie กับผู้นำไปขึ้นใน social media

ต้องไม่ลืมว่าทั้งทวิตเตอร์, เฟซบุ๊ค และยูทูป ถูกห้ามในเมืองจีน ใครเล่นอินเทอร์เน็ตก็เข้าไปในเครือข่ายสังคมนี้ไม่ได้ เพราะรัฐบาลจีนกลัวคนจีนจะเข้าไปแสดงความเห็นหรือมีพฤติกรรมที่รัฐบาลไม่ชอบ

แต่นายกฯโมดิ เป็นแขกพิเศษ เป็นการมาเยือนที่สำคัญมาก ดังนั้น ผู้นำจีนจึงได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ เมื่ออาคันตุกะอย่างนายกฯโมดิ ขอถ่ายรูป selfie กับตนเอง ระหว่างการไปเยือนอย่างเป็นทางการครั้งนี้

ผู้นำจีนจะรู้หรือไม่ไม่ทราบ แต่ตลอดเวลาที่ไปเยือนจีนนั้น นายกฯโม ดิส่งภาพและข้อความเกี่ยวกับการพบปะกับผู้นำจีนขึ้นทวิตเตอร์ตลอดเวลา ไม่ต่างอะไรกับวัยรุ่นที่ติดโซเชียลมีเดีย มีอะไรก็ต้องรายงานอวดเพื่อน ๆ

แต่นายกฯโมดิใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสื่อกับคนอินเดียและทั้งโลกให้ได้รับทราบ และเป็นวิธีการที่ได้ผลมาก เพราะทำให้ภาพลักษณ์ของผู้นำอินเดียคนนี้ดูเป็นกันเอง ทันสมัย และมีความเปิดเผยโปร่งใสกับประชาชน

ตรงกันข้ามกับผู้นำจีนที่ไม่สื่อสารโดยตรงกับประชาชน ไม่เข้าไปใช้ social media และคงไม่มีผู้ใหญ่ในรัฐบาลจีนเข้าไปเล่น Weibo ด้วยซ้ำไป

แน่นอนว่านายกฯโมดิ คงมีทีมงานช่วยส่งภาพและข้อความ (สำหรับข้อความระหว่างเยือนเมืองจีน บางส่วนมีคำแปลภาษาจีนเสร็จสรรพ คงเพราะต้องการให้คนจีนได้รับรู้ไปด้วย) แต่ภาษาที่ใช้เหมือนกับนายกฯโมดิเป็นคนเล่าเรื่องราวด้วยตนเอง น่าอ่าน และสร้างภาพทางบวกได้ไม่น้อย

เจอเข้าอย่างนี้ ผมเชื่อว่าผู้นำจีนคงจะต้องทบทวนท่าทีของตนเองต่อสื่อนิวมีเดียที่กำลังกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารที่รวดเร็วและทรงพลังที่สุด

นายกฯโมดิ เยือนจีนสามวัน ครั้งนี้เป็นที่จับตากันทั้งโลกว่า สองประเทศที่มีพลเมืองมากที่สุดของโลกที่เคยบาดหมางกันเรื่องชายแดนมาช้านาน จะสามารถสานสัมพันธ์ให้เป็นปกติเพื่อทำมาค้าขายและร่วมมือทางการเมืองกันให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นได้หรือไม่

ระหว่างเยือนครั้งนี้ ผู้นำจีนกับอินเดียเป็นพยานในการลงนามใน MoU และข้อตกลงลงทุนร่วมกันทางธุรกิจ 26 ฉบับ ถือเป็นการเริ่มต้นที่มีเนื้อหาสาระพอสมควร

ดูจากตัวอย่างของผู้นำอินเดีย มีใครแนะนำให้นายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา เล่นทวิตเตอร์หรือยัง?