ไม้ประดับชิงซีอีโอปตท.

 ไม่ว่าจะเป็น เทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ. สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) หรือแม้กระทั่ง ชาญศิลป์ ตรีนุชกร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร ปตท. ส่วนบุคคลภายนอกอย่าง วุฒิกร ทิวะศศิธร อดีตกรรมการหจก.เชคเทค ผู้นี้เคยสมัครเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)มาแล้ว ดูแล้วไม่น่าจะใช่คู่แข่งสำคัญสักเท่าไหร่

เห็นชื่อเสียงเรียงนามงานนี้บอกได้เลยผู้สมัครแต่ละคน “กระดูกคนละเบอร์” จริงๆ ส่วนใครกระดูกแข็งกระดูกอ่อน ไม่จำเป็นต้องสาธยาย

ลองมาไล่เรียงดูจากประวัติการทำงาน ดูความสามารถ แต่ละคนเป็นอย่างไร เริ่มจาก เทวินทร์ วงศ์วานิช อายุ 57 ปี

การศึกษาก็ไม่ธรรมดาจบปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ (วิศวกรรมเคมี) เกียรตินิยมอันดับ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนปริญญาโทประเภทเรียกว่า“ไม่รู้จักพอ”ดันหอบหิ้วเอาถึง 2 ใบ เป็นปริญญาโท วิศวกรรมศาสตร์ (วิศวกรรมเคมี) Rice University สหรัฐอเมริกา และปริญญาโท วิศวกรรมศาสตร์ (วิศวกรรมปิโตรเลียม) University of Houston สหรัฐอเมริกา

ขานี้เวลานี้ นาทีนี้ ดูเหมือนจะโดดเด่นเกินหน้าเกินตาผู้ท้าชิง เขาอยู่ในสภาพผู้มากด้วยประสบการณ์ ผ่านงานมาหลายอย่าง ยิ่งสายงานในปตท.เรียกว่า“ไม่น้อยหน้าใคร”มีประสบการณ์ทำงานด้านอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกว่า 25 ปี เคยร่วมงานกับปตท.สผ.มาตั้งแต่ปี 2532

จากนั้นปี 2538 ขยับเป็นรองผู้จัดการใหญ่สายงานวางแผนและพัฒนาธุรกิจ ปี 2542-2547 รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ปี 2547 ได้รับการมอบหมายให้ปฏิบัติงานสมทบที่ปตท. เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ พัฒนาธุรกิจองค์กร ปี 2551 เป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์และพัฒนาองค์กร ปตท. ปี 2552 เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ปตท. ล่าสุดนั่งเก้าอี้ซีอีโอปตท.สผ.มาตั้งแต่ 1 พ.ค.2555 มาถึงวันนี้

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ตอนนี้อายุ 55 ปี แม้จะไม่ใช่ลูกหม้อปตท. แต่ก็มีประสบการณ์ไม่ธรรมดา ผ่านประสบการณ์การทำงานมาจาก บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด ตั้งแต่ปี 2538

จากนั้นปี 2552 เปลี่ยนสายงานเข้ามาสมัครงานที่ปตท.ในตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการด้านพัฒนาธุรกิจ บริษัท พีทีที อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานกลยุทธ์องค์กร ปตท. และอยู่ในร่มเงาปตท.ตั้งแต่นั้นมากระทั่งล่าสุดนั่งอยู่ในตำแหน่งซีอีโอ PTTGC นั่นเอง

ชาญศิลป์ ตรีนุชกร แม้ปริญญาตรีจะอยู่คนละรั้วกับรุ่นพี่อย่าง เทวินทร์ วงศ์วานิช แต่ปริญญาโทได้เข้ามาอยู่ในรั้วเดียวกัน คนนี้ถือเป็นลูกหม้อปตท.มาโดยกำเนิด ประสบการณ์การทำงานไม่เฉพาะแต่ในปตท. ยังผ่านการบริหารงานจากบริษัทลูกในเครืออย่างไออาร์พีซี และ ปตท.กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด

ทั้งหมดนี้เรียกว่า“คนใน”ดูเหมือนทุกคนผ่านรั้วการศึกษาเดียวกับรุ่นพี่อย่าง เทวินทร์ วงศ์วานิช ทั้งนั้น ไม่ต่างอะไรกับรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่งานนี้พี่จะยอมน้อง หรือน้องจะยอมพี่น่าคิดยิ่งนัก

 เวลานี้ลองเอาคนในทั้ง 3 คน มาใส่ตะกร้าร่อนดู ใครจะเหลืออยู่ในตะกร้า

ถ้าจะให้ฟันธงแบบไม่ต้องคิดมาก บอกได้เลย เทวินทร์ วงศ์วานิช น่าจะเป็นตัวเลือกสำคัญคนหนึ่ง หากมองดูจากบทบาทและประสบการณ์ที่ผ่านมา คงต้องยกให้เขาไปก่อนรอบนี้

ส่วนผู้สมัครที่เหลืออีก 3 คน ถ้าไม่เรียก“ไม้ประดับ”ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร

ฉะนั้นคนที่เข้ามาสมัครวันนี้ มีทั้ง “นายส่ง-นายสั่ง” เข้าประกวด บ้างก็มารักษาสิทธิ์ บ้างก็มาเป็นดัมมีก็ว่าไป แต่หากจะดูชั้นเชิงใครได้เปรียบเสียเปรียบ ใครมีโอกาสมากกว่ากันลองคิดดูเอาเอง

     แต่ที่แน่ๆ งานนี้มี “เจ้ดัน” พอสมควร มีพลัง 2 ฝ่าย ที่กำลังเปิดศึกชิงบัลลังก์เก้าอี้ซีอีโอในปตท.อยู่เหมือนกัน เรียกว่าไม่ธรรมดา พูดกันถึงขนาดหากไม่ถูกสั่ง หรือขอร้องให้ลง อาจจะไม่มีผู้สมัครที่เป็นผู้ท้าชิงเสียด้วยซ้ำ ฉะนั้นอดใจรอไม่เกินเดือนมิ.ย.นี้คงรู้ผล

สำคัญยิ่งใครที่เข้ามาแล้วจะนำพาองค์กรให้พัฒนาก้าวหน้าได้อย่างไร สร้างความเป็นธรรมราคาพลังงานได้อย่างไร ทำอย่างไรลดข้อครหาเรื่องผลประโยชน์ในปตท.ให้ได้มากที่สุด ตรงนี้ต่างหากที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์การบริหารงานของซีอีโอปตท.คนใหม่

เอาละ..นาทีนี้หากไม่ผิดฝาผิดตัวคงหนีไม่พ้นคนชื่อ เทวินทร์ วงศ์วานิช เป็นแน่นอน เทียบชั้นแล้วที่เหลือยังห่างพอสมควร ...