เกมกีฬาท้าพิชิตธุรกิจ

เกมกีฬาท้าพิชิตธุรกิจ

ถามไถ่กันมาพอสมควรถึงหนังสือ “คิดต่างอย่างแจ็ค” ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานจนต้องพิมพ์ครั้งที่ 2 ไปเมื่อเร็วๆ นี้

ไอทีไร้พรมแดนฉบับนี้ จึงขอนำเอาบางส่วนของหนังสือเล่มมาถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้ติดตามอีกสักครั้ง ครั้งนี้ขอนำเสนอข้อคิดธุรกิจที่ได้จากกีฬาหลายๆ ประเภท


เพราะผู้บริหารที่ดีจะต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทั้งจากแหล่งเรียนรู้ทางวิชาการ และการเรียนรู้จากประสบการณ์ธุรกิจ เพื่อนำมาพัฒนาองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ผู้บริหารที่โดดเด่นนั้น ต้องสามารถเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว แม้กระทั่งเกมกีฬาต่างๆ ก็สามารถเก็บเกี่ยวมาเป็นประสบการณ์เพื่อประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้


การเล่นกีฬาแต่ละครั้ง จะเห็นได้ว่าผู้แข่งขันจะพยายามเอาชนะคู่ต่อสู้ โดยใช้ทักษะความสามารถที่ได้ฝึกซ้อมมาอย่างเต็มที่ แต่กระนั้นก็ดีบางครั้งถึงแม้ผู้เล่นจะเก่งสักเพียงไร ก็อาจพลาดพลั้งได้ เนื่องจากไม่สามารถมองเห็นเกมส์การแข่งขันในทุกตำแหน่งได้ครบถ้วน จึงมีบางคนกล่าวว่าผู้ดูที่อยู่นอกสนามนั้นจะได้เปรียบกว่า ที่สามารถมองเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ในการแข่งขันได้ชัดเจน ทั้งยังสามารถวางแผนเพื่อแก้สถานการณ์ในเกมส์นั้นได้ หากเสียแต่ว่าเขาไม่ได้ลงไปแข่งในสนามเช่นเดียวกับผู้ที่ลงแข่งขันเท่านั้น


หากจะเปรียบเทียบในเชิงของธุรกิจแล้ว จะเป็นการดีและได้เปรียบอย่างมาก ถ้าหากผู้ดำเนินธุรกิจจะสามารถเป็นได้ทั้งผู้เล่น และผู้ดูที่ดี ซึ่งกีฬาแต่ละชนิดได้ให้แง่คิดหลายๆ อย่างที่แตกต่างกันไป ในการที่จะนำมาประยุกต์กับธุรกิจ


ครั้งหนึ่งสมัยที่ผมเป็นนักศึกษามีโอกาสเล่นกีฬาเบสบอลในตำแหน่ง แคชเชอร์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ชอบมาก เพราะผู้ที่เล่นในตำแหน่งนี้ต้องรู้ว่า ผู้ตีลูกบอลจะเล่นเกมลักษณะใด โดยสังเกตจากลักษณะการจับไม้ของผู้ตีลูกบอล และคาดการณ์ให้ได้ว่าการจับไม้เช่นนั้นจะหมายถึง การตีลูกสั้น หรือลูกยาว จะตีลูกสูงหรือต่ำ และยังต้องคาดการณ์ให้ได้อีกว่า ลูกบอลจะตกลงจุดใดในสนาม แล้วส่งสัญญาณบอกให้เพื่อนร่วมทีมรู้ เพื่อสามารถหยุดการรุกของฝ่ายตรงข้ามได้สำเร็จ


กีฬาชนิดนี้นำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ ในการฝึกสังเกตดูความเคลื่อนไหว การเปลี่ยนแปลงคู่แข่งขัน และการคาดการณ์ล่วงหน้าว่าควรทำอย่างไรต่อไปกับฝ่ายตรงข้าม เพื่อสามารถสร้างชัยชนะได้สำเร็จ


กีฬาอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ซูโม่ กีฬาประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น เวลาที่นักกีฬาซูโม่ที่มีขนาดตัวใหญ่มากสองคนมาอยู่ในวงกลมเล็กๆ จากนั้น นักกีฬาทั้งสอง จะต้องสังเกตจ้องดูคู่ต่อสู้อย่างไม่กะพริบตา หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกะพริบตาเพียงแค่ครั้งเดียว อาจทำให้เขาพ่ายแพ้ในการแข่งขันครั้งนี้เลยก็ได้ คู่ต่อสู้ของแต่ละฝ่ายจะต้องคอยดู จนกว่าจะมีโอกาสที่ฝ่ายตรงข้ามพลาดเพียงเสี้ยววินาที และใช้โอกาสนั้นจู่โจมทันที หากนักกีฬาคนใดใจร้อน ขยับตัว หรืออาจเผลอเพียงนิดเดียว นั่นอาจหมายถึงความพ่ายแพ้ของเขาแล้ว


จากการดูกีฬาซูโม่ ทำให้เห็นถึงความสำคัญการใช้ไหวพริบ และจังหวะในการแข่งขัน ต่อสู้อย่างระมัดระวัง และใช้โอกาสที่คู่ต่อสู้พลาดหรือเผลอเพียงนิดเดียวจู่โจมเพื่อคว้าชัยชนะให้ได้


กีฬาสอนให้ผมรู้ว่า ถึงแม้ได้ชัยชนะในการแข่งขันครั้งหนึ่งแล้ว ก็มิได้หมายความว่า เราจะได้รับชัยชนะในการแข่งขันครั้งต่อไป ในแง่ของธุรกิจก็เช่นกัน หากใครมองธุรกิจแต่เพียงเฉพาะหน้า โดยไม่ได้มองถึงระยะยาว ก็อาจต้องเจอกับความพ่ายแพ้ได้ตลอดเวลา
แนวคิดเช่นนี้ มีให้ติดตามในหนังสือ “คิดต่างอย่างแจ็ค” รายได้ทั้งหมดนำไปสมทบทุนมูลนิธิสร้างเสริมไทยเพื่อสนับสนุนโครงการด้านการศึกษาให้กับเยาวชนผู้ด้อยโอกาส