เคล็ดลับความเก่ง

เคล็ดลับความเก่ง

มนุษย์ธรรมดาทั่วไปย่อมอยาก “เก่ง” เช่น พ่อแม่อยากเลี้ยงลูกให้ “เก่ง”

ยิ่งคนทำงาน เป็นมนุษย์เงินเดือนที่อยากเติบโตก้าวหน้า อยากประสบความสำเร็จ ต่างล้วนตระหนักว่า ต้องเร่ง “เก่ง”

เพราะมีเรื่องให้เรียนรู้ ให้ฝึกฝนมากมาย เพื่อขยายผลให้ออกเป็นงาน

จะเรียนรู้อะไร จึงต้องไม่ชักช้า ต้องหาประสบการณ์ และแปลงเป็นความเชี่ยวชาญ หรือความ “เก่ง”นั่นเอง

ล่าสุด ดิฉันได้มีโอกาสเรียนรู้แนวทางเร่งความเก่งจากกูรู ซึ่งสนใจศิลป์และศาสตร์ของการเรียนรู้และการสร้างความเชี่ยวชาญให้เกิดไวๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนภาษาใหม่ การฝึกกีฬา หรือ แม้แต่..การหาแฟน !

ท่านผู้นี้คือ อาจารย์ Tim Ferriss ผู้เขียนหนังสือยอดฮิต The 4 - Hour Workweek “ทำงานสัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง” ซึ่งมีมุมมองว่า หากเราทำงานและเรียนรู้ได้อย่างไม่ชักช้าโอ้เอ้ ชีวิตนี้เราจะมีอิสระ มีเวลาที่จะทำสิ่งอื่นใดที่ใจไขว่คว้าอีกมากมาย

อาจารย์ Ferriss ศึกษาวิธีการหลากหลายและทดลองใช้ด้วยตนเอง เพื่อหาตัวช่วยในการเรียนลัด แบบจัดเต็ม จากนั้นจึงสกัดหัวใจในการเรียนรู้ ออกมาเป็นแนวทาง 4 ประเด็น เช่นนี้

1.Deconstruct รื้อ

ลองนึกถึงทักษะบางอย่างที่ดูยากเย็น อาทิ พูดภาษาต่างชาติ เล่นกีตาร์ หรือแม้แต่เรื่องที่ดูง่ายๆ เช่น ว่ายน้ำ หรือ ขับรถ สำหรับคนที่ไม่เป็น จะเห็นมันเป็นเรื่องสับสน วุ่นวาย ทั้งเยอะ ทั้งยาก ลำบากไปหมด

ขั้นตอนแรกที่อาจารย์แนะนำ คือ รื้อมันให้กระจุย คุ้ยแคะ แงะออกมาให้เห็นเป็นส่วนๆ

ครูสอนภาษา จึงมักแยกแยะประโยคให้เห็นว่าส่วนไหน คือ ประธาน กริยา และกรรม

หรือในกรณีว่ายน้ำ พี่ที่มิใช่ครูผู้รู้ในการสอน เมื่อต้องสอนให้ใครว่ายน้ำ หากไม่ผูกลูกมะพร้าวและโยนน้องตุ๋มลงแม่น้ำ ให้ลองดำ ลองสำลัก ลองว่ายเอง พี่ก็อาจจะว่ายให้ดู แล้วให้หนูๆลองว่ายตาม

แต่ ครูผู้รู้วิธีฝึกสอนการว่ายน้ำ สามารถที่จะแยกแยะภาพรวม และให้ทำทีละส่วน เพื่อให้การเรียนรู้ง่ายขึ้น เช่น ฝึกใช้แขน ฝึกเตะขา แล้วจึงเอามารวมกันภายหลัง เป็นต้น

2.Select รู้จักเลือกเน้นประเด็นสำคัญ

หากมีเวลาวันละ 50 ชั่วโมง กรุณาใช้เวลาที่มีเหลือเฟือเพื่อเรียนทุกอย่างที่ขวางหน้า จะได้ใช้ภาษาใหม่ในการเรียกเครื่องในได้ทุกอวัยวะ หรือสามารถแปลคัมภีร์อียิปต์โบราณได้เชี่ยวชาญคล่องแคล่ว

..แต่ อนิจจา เราไม่ได้มีเวลาขนาดนั้น

ดังนั้น หากอยากเรียนภาษาเพื่อใช้งานทั่วไป เลือกเรียนส่วนที่ใช้หลักๆก่อน

ครูสอนภาษาฟันธงว่า หากเรียนรู้ศัพท์ประมาณ 1,200-2,000 คำที่ต้องใช้บ่อย น่าจะไม่ต้องเสียเวลาเกินกว่า 8-12 สัปดาห์ เพื่อเรียนรู้และใช้งานภาษาใดๆได้

หรือท่านที่อยากเรียนกีตาร์ คุณครูจะบอกว่าคอร์ดยากๆ ซับซ้อนซ่อนเงื่อนรอได้ ให้เรียนพื้นฐานแค่ 4-5 คอร์ด ก็จะสามารถเอาตัวรอด เล่นเพลงได้ไม่น้อยกว่า 90% ของเพลงป๊อบทั้งหลายในโลกนี้

..อะไรจะคุ้มค่าคุ้มเวลาปานนั้น!

3. Sequence ลำดับ ขั้นตอน

ลำดับของการเรียนรู้ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะฟันธงให้เราเรียนได้..หรือไม่

ตัวอย่างเช่น ถ้าเรียนภาษาแบบเด็กๆ ซึ่งมีเวลาอีกหลายสิบปีที่จะเพาะบ่มและสะสมความเชี่ยวชาญ ตำราจะให้เรียนคำในภาษาต่างชาติแบบไล่ดะ ตั้งแต่คำว่า พ่อ แม่ แมว หมา ฯลฯ

แต่สำหรับคนทำงาน เรียนคำว่า “เวลา” น่าจะได้ประโยชน์และได้ใช้กว่า “แมว”..ไหม?

อาจารย์ทดลองหลักการ โดยไปขอเรียนรู้วิธีเล่นหมากรุกจากคุณ Josh Waitzkin แชมป์หมากรุกโลกหลายเวทีหลายสมัย

หากคนทั่วไปสอน วิธีนอนมา คือ เริ่มลำดับการเรียนรู้ด้วยวิธีเดินหมากแรกอย่างไร

แต่ไม่ค่ะ..คุณ Waitzkin สอนส่วนที่สำคัญยิ่งก่อน คือ ตอนคับขันที่เขาจะรุกฆาตกัน ว่าต้องทำอย่างไร

แล้วจึงคลี่ออกไปส่วนอื่น ว่าต้องเริ่มอย่างไร จึงจะไปถึงจุดหมายที่ต้องการได้ ไม่พลาด!

หรือหากจะให้เรียนว่ายน้ำ ครูต้องเลือกให้ดีว่าสอนอะไรก่อนหลัง

คนเรียนว่ายน้ำรู้ว่า สิ่งที่ยากลำบากที่สุดในการฝึก คือ การหายใจ

หลายคนที่ขยาดการเรียนว่ายน้ำ เป็นเพราะสำลักตอนพยายามหายใจ จนไม่อยากเรียนเสียดื้อๆ

ครูว่ายน้ำที่ “เป็น” จึงมักสอนส่วนอื่นใดก่อน พอมือใหม่เริ่มมั่นใจ เคยคุ้นกับน้ำ จึงฝึกให้หายใจ คนเรียนจึงมักทำได้ เพราะคลายกังวล

4.Stakes มีได้ มีเสีย

คนไม่น้อย มักไม่ค่อยอึดในการเรียนรู้สิ่งใดๆ จึงมักไปไม่ถึงเป้าหมาย

ไม่ว่าจะเป็นฝึกดนตรี เรียนภาษา ลดน้ำหนัก ฯลฯ

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่อาจารย์แนะนำ คือ ต้องมี “เอี่ยว” เข้ามาเกี่ยวข้อง

เริ่มลดน้ำหนัก แต่แพ้ใจ ถอดใจตามปาก ก็ไม่ยากที่จะหยุดลด เพราะไม่เดือดร้อน ไม่เห็นเป็นไร ว่างๆมาว่ากันใหม่ได้เสมอ

แต่หากต้องการลดน้ำหนัก เพราะจะต้องใส่ชุดรัดรูปสวยออกงานกับหนุ่มหน้าใส ย่อมมีสิทธิ์สูงกว่าว่าจะลดได้ตามเป้า เพราะมี “เอี่ยว” หรือ “เดิมพัน” ที่ฉันต้องการในงานนี้

หรือ หากไม่ชอบพรรคการเมืองใดชนิดเข้าใส้ ให้เงินเพื่อนไว้ 10,000 บาท และบอกว่า ถ้าฉันหัดเรียนกีตาร์เพลงประกอบละครเรื่อง “กลกิโมโน” ไม่ได้ใน 3 วัน กรุณาบริจาคเงินนี้ให้พรรคการเมืองที่ว่า

“เอี่ยว” นี้มีพลัง สั่งให้รีบเก่ง ให้เร่งเป็นยิ่งนัก