ดวงสงกรานต์ 2558
แนวคิดสำคัญของชาวแคลเดียน (Chaldean) หรือโหราจารย์แห่งอาณาจักร Neo-babylonian ก็คือ “เวลาดำเนินเป็นวงรอบ ทุกสิ่งเคลื่อนตัวเป็นวัฏจักร”
นี่คือหลักพื้นฐานของโหราศาสตร์
เวลาเดินเป็นวงรอบ ก็เพราะดาวโคจรเป็นวงรอบ วงรอบถือเป็นมาตรวัดสำคัญระยะทาง 1 วงรอบมักเทียบกับจักรราศี ดาวโคจรครบ 1 รอบจักรราศีคือครบ 1 วงรอบของมัน กล่าวอีกนัยหนึ่ง ครบ 1 วงรอบก็เมื่อดาวโคจรกลับมาที่ “จุดเริ่มต้น” ของมัน
คำถามสำคัญที่สุด คือ จุดเริ่มต้นอยู่ที่ไหน?
ถ้าทราบดวงชะตากำเนิด ไม่ว่าดวงคนหรือดวงเมือง จุดเริ่มต้นคือตำแหน่งดาวในพื้นดวง เช่น เสาร์ในดวงเมืองไทยอยู่ที่ 10 องศา 48 ลิปดาในราศีธนู เมื่อเสาร์โคจรไปตามจักรราศีและกลับมาทับเสาร์เดิม ถือเป็น 1 วงรอบของดาวเสาร์ (Saturn Return)
แต่ถ้าเป็นเหตุการณ์ทั่วไป โหราจารย์ท่านเลือกใช้จุดอ้างอิงหนึ่งในจักรราศีเป็นจุดเริ่มต้น นั่นคือจุด 0 องศาในราศีเมษ พูดง่าย ๆ จุดเริ่มต้นจักรราศีอยู่ที่ต้นราศีเมษ
ในเมื่ออาทิตย์โคจรครบรอบจักรราศีกินเวลา 1 ปี ดังนั้น ถ้าจะตรวจสอบความเป็นไปของปีใหม่ ก็ต้องตรวจสอบจากช่วงเวลาที่อาทิตย์โคจรเข้าจุด 0 องศาราศีเมษ
แต่จักรราศี (ปัจจุบัน) แบ่งเป็น 2 ระบบ คือ (1) จักรราศีคงที่ (Sidereal Zodiac / นิรายะนะ) นิยมใช้ในโหราศาสตร์ของชาวตะวันออก เช่น อินเดีย พม่า ไทย ลาว ฯลฯ (2) จักรราศีเคลื่อนที่ (Tropical Zodiac / สายะนะ) นิยมใช้ในโหราศาสตร์ของชาวตะวันตก เช่น ยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ฯลฯ
คำว่า คงที่ หมายถึง จักรราศีคงที่ตลอดกาล โดยเทียบกับกลุ่มดาวฤกษ์ (Constellation) หรือดาวฤกษ์ (Fixed Star) บนท้องฟ้า ส่วน เคลื่อนที่ หมายถึงจักรราศีเคลื่อนที่ไปเมื่อเทียบกับกลุ่มดาวฤกษ์
ในอดีตกาล ในสมัยบาบิโลเนียและเปอร์เซีย โหราจารย์ใช้จักรราศีระบบคงที่ ต่อมาเมื่อฮิปปาร์คัส (Hipparchus: 190 - 120 ก่อนค.ศ.) ค้นพบ Precession of the Equinoxes และคลาวดิอุส ปโตเลมียืนยันผลในคัมภีร์ Almagest จึงเริ่มมีการใช้จักรราศีเคลื่อนที่กันต่อมาในโลกตะวันตก
จักรราศีเคลื่อนที่ได้อย่างไร ? เพราะแกนโลกเอียง การหมุนของโลกรอบตัวเองและดวงอาทิตย์ จึงควงแบบลูกข่าง จุดวิษุวัติ (Equinox) ย่อมหมุนตามด้วย จุดวิษุวัตคือจุดที่เวลากลางวันยาวเท่ากับกลางคืน ซึ่งได้จากการคำนวณ จุดวิษุวัตินี้เคลื่อนที่ย้อนทวนจักรราศี (คงที่) ตลอดเวลา จึงเรียกว่า จักรราศีเคลื่อนที่
ในปัจจุบัน จุดวสันตวิษุวัติ (Vernal Equinox) หรือจุดเมษของระบบเคลื่อนที่ มาถึงปลายราศีมีนแล้ว เราจึงพบว่า อาทิตย์เข้าเมษวันที่ 20 มีนาคมในโหราศาสตร์ฝรั่ง แต่เข้าวันที่ 14 เมษายนในโหราศาสตร์ไทย
จุด 0 องศาราศีเมษของทั้ง 2 ระบบแตกต่างกัน ดังนั้น การทำนายดวงประจำปีของทั้งคู่ ย่อมต่างกันไปด้วย ถ้าเป็นจักรราศีเคลื่อนที่ ก็ใช้ดวงวสันตวิษุวัติส่วนจักรราศีคงที่ ใช้ดวงสงกรานต์ ซึ่งในปีนี้คือวันที่ 14 เมษายน 2558 เวลา 15:17:02 น. ที่กรุงเทพฯ เวลามาตรฐานประเทศไทย
ผูกดวงแล้ว ได้ลัคนาราศีสิงห์ ที่ 13 องศา 21 ลิปดา มีตำแหน่งดาวอื่น ๆ คือ ราหูกันย์ เสาร์ (พักร์) พิจิก พลูโตธนู จันทร์มังกร เนปจูนกุมภ์ มฤตยูมีน อาทิตย์-อังคาร-พุธอยู่เมษ ศุกร์พฤษภ พฤหัสกรกฎ
ลัคน์สิงห์ สิงห์คือราศีแห่งอัตตาและการเป็นตัวเอง ปีนี้เป็นปีแห่งการค้นหาอัตลักษณ์และดำรงความเป็นตัวเอง ลัคน์เกาะวรโคตมนวางค์ ยืนยันถึงความเข้มข้นเอาจริงเอาจัง ขณะที่เนปจูนซึ่งเล็งลัคน์สนิทในภพ 7 (ปัตนิ) บอกถึงความสัมพันธ์กับมิตรประเทศที่คลุมเครือ-ไม่ชัดเจน หรือมีแรงกดดันให้เราต้องคล้อยตามเขา ไม่อาจเป็นตัวของตัวเองได้
อาทิตย์ / ดาวเจ้าเรือนลัคน์ อยู่เมษ-เป็นอุจจ์ พร้อมกับอังคารทำมุม 120 กับลัคนาสนิท ชะตาเมืองปีนี้มั่นคงเข้มแข็ง อาทิตย์ทำมุม 60 กับจันทร์สนิท ความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำรัฐบาลกับประชาชนราบรื่น อาทิตย์อยู่ภพ 9 (ศุภะ) การต่างประเทศคือจุดโฟกัสของบ้านเมือง ตั้งแต่เมษา 58 - เมษา 59
ทศมลัคน์ (MC) อยู่ที่ 14 องศา 36 ลิปดาในราศีพฤษภเป็นราศีแห่งการตระหนักในคุณค่า (Sense of Value) ทั้งเกาะวรโคตมนวางค์เช่นกัน การแสวงหาและรักษาคุณค่า (ที่ดี) ของประเทศชาติ เป็นบทบาทสำคัญของภาครัฐ พฤษภยังหมายถึงทรัพย์สมบัติของชาติด้วย รัฐบาลมีหน้าที่ปกป้องเอาไว้ให้ดี
ศุกร์เป็นดาวเจ้าเรือนทศมลัคน์ ศุกร์อยู่ภพ 10 (กัมมะ) และกุมทศมลัคน์ใน 6 องศา ชี้ชัดว่าเศรษฐกิจ-การเงินคือเรื่องสำคัญที่สุดของปีนี้ศุกร์พฤษภแม้เข้มแข็ง แต่ก็ถูกเสาร์เล็งสนิทพอดี เศรษฐกิจฝืดเคืองกว่าที่คาด ศุกร์คือเงินตรา เสาร์คือความขาดแคลน โปรดระวังภาวะเงินฝืด
อย่างไรก็ตาม ศุกร์ทำมุม 90 กับเนปจูนด้วย (แต่ไม่สนิท) บอกถึงเงินเฟ้อ / เงินมหาศาลจากคู่ค้า-หุ้นส่วน อาจหมายถึงกระแสเงินทุน (Fund Flow) ก็ได้ แต่สรุปคือความยากในการบริหารเศรษฐกิจที่ทั้งฟุบและเฟ้อไปพร้อมกัน
จุดสำคัญอีกข้อคือเสาร์ / ดาวเจ้าเรือนภพ 6 (อริ) ซึ่งหมายถึงปัญหาอุปสรรคและหนี้สิน เสาร์อยู่พิจิกกุมจุดศูนย์กลางภพ 4 สนิทพอดี บ่งชี้ถึงความขาดแคลน เดือดร้อน ความเป็นอยู่ที่ยากลำบากของประชาชน และภาระหนักจากหนี้สินภาคครัวเรือน
เช่นเดียวกับราหูที่กุมจุดศูนย์กลางภพ 2 สนิท เป็นราหูค้นทรัพย์ ซ้ำทำมุม 150 กับเนปจูนสนิท รายได้ไม่พอรายจ่าย เงินทองรั่วไหล ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด รวมถึงฐานะการคลังย่ำแย่
พุธ / ดาวเจ้าเรือนภพ 2 และ 11 อันเกี่ยวข้องกับเงิน ๆ ทอง ๆ โชคลาภ ก็กุมอาทิตย์สนิท กลายเป็น “พุธดับ” อ่อนแอซ้ำอีก พุธดับในภพ 9 (การค้ากับต่างประเทศ) การส่งออกยังคงคาดหวังไม่ได้
พฤหัส / ดาวเจ้าเรือนภพ 5 และ 8 อยู่กรกฎ แม้เป็นอุจจ์-เข้มแข็ง แต่ก็ตกภพวินาศ การลงทุนต่าง ๆ โดยเฉพาะตลาดหุ้น ควรระมัดระวังให้มาก ปัจจัยสำคัญคือความผันผวน (และการเก็งกำไรในทางลับ) ของเม็ดเงินต่างชาติ
เมื่อมองมิติการเมือง ทศมลัคน์ได้มุม 45 จากอาทิตย์สนิท ผู้นำรัฐบาลมีบทบาทโดดเด่น แต่ก็มีลีลาสุ่มเสี่ยงไม่น้อย เพราะมุม 45 เป็นมุมท้าทาย ทศมลัคน์ยังถูกมุมร้ายจากเสาร์-พลูโต การเมืองเผชิญแรงกดดันมหาศาลเกี่ยวกับโครงสร้างอำนาจ (ซึ่งรวมถึงร่างรัฐธรรมนูญใหม่)
แต่ก็ได้มุมดาวดีจากพฤหัส-ศุกร์-มฤตยู-ราหู จึงประคับประคองเอาตัวรอดไปได้ หรืออาจมีการลดแรงกดดัน ด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจต่าง ๆ ทางการเมือง เช่น ลดบทบาทคสช. ปรับครม. โยกย้ายนายทหาร ฯลฯ เรื่องปฏิวัติคงไม่เกิดขึ้น เพราะอังคารมฤตยูไม่มีมุมร้ายถึง
โดยสรุปแล้ว ดวงสงกรานต์ 2558 อยู่ภายใต้อิทธิพล T-square 2 ชุด คือ (1) ศุกร์-เสาร์-เนปจูน บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจและความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึงความสัมพันธ์กับมิตรประเทศ อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองและภาคการเมือง (2) ราหู-มฤตยู-พลูโต ชี้ถึงปัญหาเศรษฐกิจที่รุนแรงขึ้น
สอดคล้องตรงกับวงรอบเสาร์ 30 ปีและวงรอบราหู 18.6 ปีอย่างไม่น่าเชื่อ!