ศาสนาของโลกในอนาคต

ศาสนาของโลกในอนาคต

ในขณะที่โลกเรากำลังสับสนวุ่นวายเพราะเหตุแห่งความขัดแย้งทางศาสนา ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งต่างศาสนา

เช่น พุทธศาสนิกชนกับชาวมุสลิมในรัฐยะไข่ของพม่า ความขัดแย้งในศาสนาเดียวกันระหว่างสุหนี่กับชีอะห์ของศาสนาอิสลาม หรือแม้แต่ในไทยเราเองระหว่างเอาธรรมกายกับไม่เอาธรรมกาย ฯลฯ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องของความเชื่อและศรัทธา ซึ่งในอดีตก็เคยมีการสู้รบกันอย่างยาวนานถึงสามร้อยปีคือ คริสต์กับอิสลามในสงครามครูเสด ผมในฐานะของผู้ที่สนใจศึกษาในศาสนามาอย่างยาวนานแม้ว่าจะยืนยันตนเองในรายการของสำเนาทะเบียนบ้านว่าไม่นับถือศาสนาใดๆ เป็นการเฉพาะก็ตาม ก็ได้พบว่ามีข้อมูลที่น่าสนใจที่น่าจะนำมาเสนอต่อผู้อ่าน


ข้อมูลดังกล่าวที่ว่าก็ได้มาจากการสำรวจของสำนักวิจัยพิว (Pew Research Center) ในสหรัฐอเมริกาพบว่า ในปี 2050 (2593) หรือในอีก 35 ปีข้างหน้าซึ่งโลกจะมีประชากร 9.3 พันล้านคน หากสถิติการเพิ่มของประชากรของโลกยังอยู่ในอัตราปัจจุบันนี้เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติของปี 2010 แล้วพบว่า


1) โลกจะมีจำนวนชาวมุสลิมใกล้เคียงกับชาวคริสต์ คือ 2.8 : 2.9 พันล้านคน (30 : 31%) ซึ่งในปี 2010 ศาสนาคริสต์มีผู้นับถือมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง (31%) คือ 2.2 พันล้านคนซึ่งคิดเป็นหนึ่งในสามของประชากรโลกที่มีอยู่ 6.9 พันล้านคน ส่วนศาสนาอิสลามมีผู้นับถือเป็นอันดับสอง คือ 1.6 พันล้านคน หรือ 23 %


2) พวกที่ไม่นับถือศาสนาใดๆ (ซึ่งอยู่ในอันดับสามของโลกรองจากคริสต์และอิสลาม) ที่ถึงแม้ว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศสโดยจะเพิ่มจากเดิมในปัจจุบัน 1.1 พันล้านคนอีกประมาณ 100 ล้านคนเป็น 1.2 พันล้านคน แต่อัตราส่วนโดยรวมต่อประชากรของโลกจะลดลงจาก 16% เป็น 13%


3) จำนวนของผู้ที่นับถือศาสนาพุทธจะคงที่เท่ากับปี 2010 เนื่องจากประเทศที่มีชาวพุทธส่วนใหญ่จะอยู่ในสังคมคนสูงวัย (aging population) และอัตราการเกิดต่ำ (low fertility rates) เช่น จีน ไทยและญี่ปุ่น เป็นต้น แต่ในขณะเดียวกันผู้ที่นับถือศาสนาฮินดู (Hindu) กับชาวยิว (Jewish) กลับมีจำนวนมากขึ้นกว่าปัจจุบัน


4) ในยุโรปประชากรชาวมุสลิมจะมีจำนวนเพิ่มเป็น 10% ของประชากรชาวยุโรป


5) ในอินเดียผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูจะยังคงเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศแต่ในขณะเดียวกันประชากรที่นับถือศาสนาอิสลามในอินเดียจะมีจำนวนมากที่สุดในโลกแซงอินโดนีเซียในปัจจุบันในภาพรวมทั้งโลกผู้นับถือศาสนาฮินดูจะเพิ่มขึ้น 34% จากจำนวนเกินหนึ่งพันล้านคนนิดหน่อยไปเป็นเกือบ 1.4 พันล้านคน


6) ในสหรัฐอเมริกาชาวคริสต์จะมีจำนวนลดลงจากเดิมที่มีจำนวนสามในสี่ของประชากรปี 2010 ไปเป็นสองในสามในปี 2050 จำนวนผู้นับถือศาสนายูดาย (Judaism) จะไม่มีจำนวนมากที่สุดของบรรดาผู้ที่ไม่ใช่ชาวคริสต์ในสหรัฐอเมริกาอีกต่อไป แต่จำนวนชาวมุสลิมในสหรัฐอเมริกาจะมีจำนวนมากกว่าผู้ที่ระบุตนเองว่าเป็นชาวยิว (Jewish) แทน


7) จากสี่ในทุกๆ สิบคนของชาวคริสต์ในโลกนี้จะเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในซับสะฮาราแอฟริกา (sub-Saharan Africa)


นอกจากนั้นในรายงานยังระบุว่าในทศวรรษที่จะถึงนี้ศาสนาคริสต์จะเสียดุลของการเปลี่ยนศาสนา โดยจะมีผู้ที่เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ 40 ล้านคน แต่ในขณะเดียวกลับสูญเสียไป 106 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เปลี่ยนไปเป็นผู้ไม่นับถือศาสนาใดๆ


แนวโน้มหลังจากปี 2050 (2593)


ถ้าแนวโน้มยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องเช่นเดิมจำนวนชาวมุสลิมจะมีอัตราส่วนเท่ากับชาวคริสต์คือ 32% ในราวๆ ปี 2070 (2613) หลังจากนั้นจำนวนของชาวมุสลิมจะมากกว่าชาวคริสต์และก่อนปี 2100 (2643) จะมีชาวมุสลิม 35 % และชาวคริสต์ 34%


ที่นำข้อมูลทั้งหมดมาเสนอนี้เพื่อเป็นข้อมูลทางวิชาการเพื่อให้ศาสนิกแต่ละศาสนาให้รู้ว่ามีข้อมูลและแนวโน้มเช่นนี้อยู่ ส่วนใครจะนำไปปรับใช้อย่างไรก็สุดแล้วแต่มุมมองของแต่ละคนครับ


------------
หมายเหตุ สามารถค้นคว้าเพิ่มเติมรายงานฉบับสมบูรณ์ได้ที่ http://www.pewforum.org/2015/04/02/religious-projections-2010-2050/