เมื่อบทบาทของ CFO ต้องเปลี่ยนไป!!!

ถ้าตามความคิดแบบดั้งเดิมก็จะหนีไม่พ้นงานด้านการเงิน บัญชี การลงทุน การบริหารเงิน หรือ ใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องตัวเลข การวิเคราะห์ และการเงินของบริษัท อย่างไรก็ดี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราจะพบว่าบทบาทของผู้ที่ดำรงตำแหน่ง CFO นั้นได้เปลี่ยนไป และเปลี่ยนไปในลักษณะที่ทั้งลึกขึ้นและกว้างขึ้นด้วย


เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมได้มีโอกาสไปเข้าร่วมงานสัมมนาที่ทางไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จัดขึ้น โดยได้เชิญ CFO ของบริษัทชั้นนำหลายๆ แห่งในประเทศไทยมาร่วม โดยเราได้มีการนำเสนอและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทและหน้าของ CFO ในปัจจุบันและจากประสบการณ์ของ CFO เหล่านี้รวมทั้งจากงานวิชาการต่างๆ ในระดับโลก เราพบถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในบทบาทของ CFO ในปัจจุบัน


เริ่มต้นจากความท้าทายที่ CFO ในปัจจุบันต้องเผชิญ ซึ่งเมื่อลองไล่กันมาดูแล้ว ก็จะพบว่าความท้าทายต่างๆ ที่องค์กรและ CEO ต้องเผชิญ ทาง CFO ก็ต้องเผชิญเหมือนกันไม่ว่าจะเป็น เรื่องของความเป็นสากล การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การรักษาและพัฒนาบุคลากร แต่ดูเหมือนว่า CFO จะต้องเผชิญมากขึ้นไปอีก เพราะในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบต่างๆ การเข้ามามีบทบาทในเรื่องของการวางแผนกลยุทธ์เพิ่มขึ้น หรือ เรื่องของความเสี่ยงในด้านต่างๆ ที่มีแปลกใหม่และทวีความสำคัญเพิ่มขึ้น


มีงานวิจัยโดย EY ที่สำคัญ CFO กว่า 700 คนทั่วโลกและพบว่าร้อยละ 63 ของ CFO ต่างยอมรับว่าเรื่องของการบริหารความเสี่ยงได้กลายเป็นประเด็นร้อน ประเด็นสำคัญที่มีความสำคัญในลำดับที่สูงสำหรับ CFO มากกว่าในอดีตเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ความน่ากลัวสำหรับ CFO ก็คือชนิดและความหลากหลายของความเสี่ยงนั้นได้เพิ่มขึ้นจากในอดีตมากมายครับ


ความเสี่ยงธรรมดาๆ ที่พบทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงในการดำเนินงาน ความเสี่ยงด้านการเงิน ด้านการทุจริต นั้นร้อยละ 75 ของ CFO ที่ตอบแบบสอบถามของ EY ต่างระบุว่ามีความมั่นใจในการที่จะติดตามและแก้ไขปัญหาจากความเสี่ยงดังกล่าว แต่พอถึงความเสี่ยงชนิดใหม่ๆ อย่างเช่นเรื่องของ Cyber Security Risk (ความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมหรือเจาะข้อมูลทางโลกไซเบอร์) กลับมีผู้แสดงความมั่นใจเพียงร้อยละ 23 และยิ่งเป็นความเสี่ยงทางด้านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Risk) ตัว CFO ที่มีความมั่นใจในการติดตามและจัดการนั้นมีเพียงแค่ร้อยละ 19 เท่านั้นเอง


ดังนั้น เราถึงไม่แปลกใจครับว่าทำไมในปัจจุบันเรื่องของการโจรกรรมข้อมูลหรือการเข้ามาทำลายล้างระบบจึงเกิดขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นความสำคัญที่ CFO จะต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบมากขึ้น


นอกจากเรื่องของความเสี่ยงแล้ว บทบาทของ CFO ก็เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องของการบริหารกลยุทธ์มากขึ้น ร้อยละ 35 ของ CFO ที่มองว่าปัจจุบันตนเองเข้ามามีบทบาทสำคัญและเป็นผู้นำในการกำหนดกลยุทธ์ขององค์กร อีกทั้งสองในสามของ CFO เกือบ 700 คนก็มองว่าปัจจุบัน CFO กลายเป็นหน้าเป็นตา เป็นตัวแทนขององค์กรในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลการดำเนินงานหรือ Performance ขององค์กรเพิ่มขึ้น อีกทั้งร้อยละ 70 ของ CFO ที่ตอบแบบสอบถามของ EY ต่างยอมรับว่าในปัจจุบันตนเองใช้เวลามากกว่าร้อยละ 50 ในงานที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ขององค์กรมากกว่างานด้านการบริหารเงินแบบปกติ


ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าบทบาทของ CFO นั้นไม่ถูกจำกัดอยู่แต่เฉพาะทางด้านการเงินแต่เพียงอย่างเดียว แต่เข้ามามีบทบาทในด้านต่างๆ ขององค์กรเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด กลยุทธ์ ด้าน Logistics ด้านการดำเนินงาน ด้านต่างประเทศ ฯลฯ ทำให้ในความเป็นจริงในปัจจุบัน ในองค์กรต่างๆ นั้น นอกเหนือจาก CEO แล้ว CFO เป็นอีกคนหนึ่งที่รู้จักและเข้าใจบริษัทได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุมที่สุด


มีแบบสอบถามจากอีกบริษัทหนึ่งที่สอบถาม CFO กว่า 2,100 คน โดยถามว่าในงานด้านไหนที่ปัจจุบัน CFO เข้าไปทำมากที่สุดนอกเหนือจากด้านการเงินและบัญชี ผลปรากฏว่าร้อยละ 21 เป็นงานด้านการบริหารบุคคล ร้อยละ 19 ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ร้อยละ 18 ด้านการดำเนินงานร้อยละ 17 ด้านการตลาด และด้านการขายและพัฒนาธุรกิจ ร้อยละ 10


ดังนั้น ความท้าทายของ CFO คือจะแบ่งเวลาได้อย่างไร เมื่อภาระและบทบาทของงานมากขึ้น ในขณะที่เวลา ทรัพยากรเท่าเดิม ทำให้ CFO ยุคใหม่ต้องคิดใหม่และปรับตัวใหม่ มิฉะนั้นก็จะเหมือนกับ CFO ของ Google ที่ลาออกไปเพราะต้องการเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น