ปรองดอง-รัฐบาลผสม และการปฏิรูปสังคมไทย

ปรองดอง-รัฐบาลผสม และการปฏิรูปสังคมไทย

ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ บอกว่า

เราต้องกล้าคิดรัฐบาลผสม ถ้าเราไม่คิดอะไรเลย มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้

นักข่าวถามว่าหมายถึง รัฐบาลแห่งชาติ ใช่หรือไม่? อาจารย์เอนก ตอบว่า ก็เป็นทำนองนั้น แม้ว่าจะยังไม่มีรายละเอียดของข้อเสนอหรือวิธีการที่จะบรรลุเป้าหมายเช่นนั้น

ก่อนหน้านี้ ดร.เอนกก็พูดถึงเรื่อง นิรโทษกรรม ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันร้อนแรงอีกวาระหนึ่ง

การสร้างความปรองดอง เป็นหัวใจของการปฏิรูป เพราะหากขาดบรรยากาศแห่งการพยายามลดเงื่อนไขความขัดแย้ง และแสวงหาหนทางแห่งการร่วมมือร่วมใจกันสร้างประเทศใหม่แล้ว อีกไม่นาน เราก็จะกลับสู่การเมืองแบบเดิม และความขัดแย้งเก่า ๆ ก็จะหวนกลับมาหลอกหลอนคนไทยทั้งชาติอีก

เพราะการ หยุดซ่อมประเทศไทย ระยะเวลาสั้น ๆ ภายใต้ คสช. และรัฐบาลชั่วคราว และการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ภายใต้กรอบของสภาปฏิรูปแห่งชาติไม่อาจจะรักษาโรคร้ายแรงของสังคมไทยได้

ระบบเลือกตั้งใหม่ จะเรียกระบบ เยอรมัน หรืออะไรก็ตามแต่ เป็นเพียงการเปลี่ยนวิธีนับคะแนนและให้ ทุกคะแนนมีความหมาย ซึ่งเป็นหลักการที่ดี แต่ในทางปฏิบัติ เราได้เรียนรู้ด้วยความเจ็บปวดมาตลอดว่าปัญหาของไทยเราไม่ได้อยู่ที่ว่าเราไม่รู้ทฤษฎี แต่เราไม่สามารถนำเอาทฤษฎีดี ๆ ทั้งหลายมาปฏิบัติให้เกิดผลดีได้

เพราะระบบอุปถัมภ์, เงิน, บารมี, คอร์รัปชัน และปรากฏการณ์ศรีธนญชัยเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้คุณภาพการเมืองไทยล้าหลังและเสื่อมถอยมาตลอด

ดังนั้นการสร้างความปรองดองจึงสำคัญยิ่ง และหากจะบรรลุเป้าหมายให้ได้จะต้องเผชิญกับความเป็นจริงว่า ลำพังแค่การกลับไปจัดการเลือกตั้งเท่านั้นไม่อาจจะแก้ปัญหาที่ฝังลึกของประเทศได้

แนวคิด รัฐบาลผสม หรือ รัฐบาลแห่งความปรองดอง จึงเป็นเรื่องที่น่าศึกษา

ที่อาจารย์เอนกบอกว่าเราต้องกล้าคิด....” เรื่องนี้เพราะรู้ว่าทุกครั้งที่เสนอรัฐบาลแห่งชาติจะถูกมองไปในทางลบเพราะที่ผ่านมาคำนี้ถูกใช้ไปในทางที่ถูกมองว่านักการเมืองกำลังจะ ฮั้ว กัน หรือไม่ก็เป็นแผนของกลุ่มคนต่าง ๆ จับมือกันแบ่งปันผลประโยชน์

ในภาวะปกติ แน่นอนว่าการปกครองบ้านเมืองจะต้องมีฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเพื่อคานอำนาจซึ่งกันและกัน แต่ในหลาย ๆ ประเทศที่เผชิญกับวิกฤตแห่งความขัดแย้งอย่างรุนแรงถึงขั้นใช้กำลังเข้าประหัตประหารกัน การหวนคืนสู่ ภาวะปกติ ทันทีทันใดย่อมทำไม่ได้เพราะต่างฝ่ายต่างยังหาทางจะฟาดฟันให้อีกฝ่ายหนึ่งพ้นไปจากเวทีการเมือง เพื่อให้ฝ่ายตนมีอำนาจแต่เพียงฝ่ายเดียว

ดังนั้นช่วงเปลี่ยนผ่าน อันจะมาพร้อมกับการเลือกตั้งครั้งใหม่จะต้องให้พรรคการเมืองทุกพรรคแสดงต่อประชาชนว่าพร้อมจะสร้างความปรองดองอย่างเป็นรูปธรรม มิใช่เพียงแค่เขียนไว้ในป้ายโฆษณาหาเสียงเท่านั้น

สูตร รัฐบาลผสม จะมาในรูปแบบไหนเป็นเรื่องที่จะต้องมีการถกแถลงให้ตกผลึก เพื่อให้การเมืองหลังเลือกตั้งรอบนี้ไม่หวนกลับไปสู่ความขัดแย้งเดิม ๆ และไม่ให้บรรยากาศการเมืองย้อนกลับไปเหมือนก่อนเหตุการณ์

คำว่ารัฐบาลปรองดองไม่ได้หมายถึงการฮั้วกันเพื่อกระทำการอันไม่ถูกต้อง แต่เป็นการปูทางสร้างพื้นฐานการเมืองใหม่ ที่จะต้องแข่งขันกันบนพื้นฐานของความถูกต้องเป็นธรรม และสร้างชาติมากกว่าการเล่นการเมืองแบบเดิม ๆ ที่ต่างคนต่างแสวงผลประโยชน์ด้วยการสร้างความขัดแย้ง จนทำให้ประเทศชาติเข้าสู่วิกฤตต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้