ก่อนถึงวันดีเดย์

ก่อนถึงวันดีเดย์

หน้าเพจ "สันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของขบวนการหน้ากากขาว ได้โพสต์ข้อความว่า

"ขบวนของหน้ากากขาว เป็นการต่อสู้ในเชิงสัญลักษณ์ เป็นการประกาศ "โค่นล้มทุนสามานย์ เผด็จการทักษิณ" เคลื่อนไหวโดยสันติ ไม่ประสงค์การเผชิญเหตุ หลีกเลี่ยงการปะทะทุกอย่าง....ไม่เกี่ยวข้องกับ กรณี 4 สิงหาคม"

ดั่งที่ทราบกัน 4 สิงหาคม เป็นวันนัดชุมนุมใหญ่ของ "กองทัพประชาชน โค่นระบอบทักษิณ" ซึ่งได้มีการเปิดตัว "คณะเสนาธิการร่วม" ไปแล้ว อันประกอบด้วย

พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 1 ของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ซึ่งตอนหลัง พล.ร.อ.ชัย มารับตำแหน่งประธานองค์การพิทักษ์สยามแทน "เสธ.อ้าย" ที่ลาออกไป

เตรียมทหารรุ่น 1 ประกอบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์, พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการแข่งม้า ราชตฤณมัยสมาคมฯ และ พล.อ.วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 และประธานกรรมการราชตฤณมัยสมาคมฯ

พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ อดีตรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เพื่อนรักของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ซึ่งทั้งคู่ต่างมีประสบการณ์ผ่านสมรภูมิสงครามลับในดินแดนลาวมาแล้ว

พล.อ.ชูเกียรติ ตันสุวัฒน์ อดีตหัวหน้ากองทัพนิรนาม และปัจจุบัน มีตำแหน่งเป็นรองประธานคณะกรรมการอำนวยการแข่งม้า ราชตฤณมัยสมาคม นอกจากนี้ พล.อ.ชูเกียรติ ยังสนิทชิดเชื้อกับ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร

พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี อดีตอาจารย์โรงเรียนเสนาธิการทหาร และเป็นโฆษกองค์การพิทักษ์สยาม

พิเชฐ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภา และเคยร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนฯ

ไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ และเข้าร่วมเคลื่อนไหวม็อบ เสธ.อ้าย มาตั้งแต่แรกๆ

6 เสนาธิการของกองทัพประชาชนฯ มีประสบการณ์มากมาย แต่การนำมวลชนออกสู่ท้องถนนครั้งใหม่ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

ก่อนหน้านั้น พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ, พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี และ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ได้เข้าร่วมการชุมนุมกับเครือข่ายภาคประชาชนไทย ที่ท้องสนามหลวง และในวันที่ ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นำทัพปิดประตูกระทรวงกลาโหม นายทหารทั้งสามก็อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วย

แต่หลังจาก "ไชยวัฒน์" แตกหักกับกลุ่มธรรมาธิปไตย และถอนตัวออกจากสนามหลวง การจัดทัพใหม่ก็บังเกิดขึ้นในนาม "คณะเสนาธิการร่วม กองทัพประชาชน โค่นระบอบทักษิณ"

พลังมวลชนของคณะนายทหารเก่า มาจากไหน? เฉพาะหน้านี้ มีกลุ่มมวลชนที่จะเข้าร่วมชุมนุมแน่ๆ อาทิเช่น "กลุ่มหนุมาน อาสาปฏิรูปประเทศไทย" และ "สมาพันธ์หน้ากากขาว V for vendetta แห่งประเทศไทย"

สองกลุ่มดังกล่าว ได้นำมวลชนหน้ากากขาวแยกออกจาก "หน้ากากขาว V For Thailand" จนเกิดวิวาทะบนโซเชียลเน็ตเวิร์กมาแล้ว

ที่สำคัญ แอดมินเพจ "หน้ากากขาว V For Thailand" ยังเชื่อมั่นในแนวทางการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ และการแสดงพลังอย่างสันติวิธี

ส่วนกลุ่มธรรมาธิปไตย หรือ "กองทัพดาวแดง สนามหลวง" เข้าร่วมการชุมนุมอยู่แล้ว เพราะ "แกนนำสูงสุด" ประสานกับ "เสนาธิการหลังม่าน" ของกลุ่มสนามม้านางเลิ้งอยู่อย่างใกล้ชิด

จะอย่างไรก็ตาม คณะเสนาธิการร่วม ของกองทัพประชาชนฯ เชื่อว่า การที่พรรคเพื่อไทยนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ วรชัย เหมะ มาพิจารณาเป็นวาระแรกของการเปิดสมัยประชุมสภาสามัญทั่วไป ในวันที่ 7-8 สิงหาคม จะจุดกระแสให้ผู้คนเดินออกมาสู่ท้องถนนเป็นจำนวนมาก

นับว่าเป็นโอกาสแก้มือของคณะเสนาธิการร่วม และอดีตแกนนำม็อบ เสธ.อ้าย บางคน ถึงกับเขียนบนเฟซบุ๊คว่า "วันล้างตา" มาถึงแล้ว