'พาณิชย์'ห่วงตีข่าวข้าวเสื่อม

'พาณิชย์'ห่วงตีข่าวข้าวเสื่อม

รองหน.ศก.คสช.แนะต้องปรับวิถีการทำนาใหม่ ต้องเน้นปลูกข้าวตามสายพันธุ์ที่มีคุณภาพ "ชุติมา"ห่วงตีข่าวข้าวเสื่อม

วานนี้(11 ก.ค.) พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ พร้อมด้วยนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และคณะ ได้เดินทางไปตรวจร้านจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวในพื้นที่ จ.พิษณุโลก เพื่อหามาตรการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนา ที่จะต้องเพิ่มค่าของผลผลิตและลดต้นทุน ตามนโยบายของคสช.ตามโครงการลดราคาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า หลังจากเดินทางมาตรวจใน จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นจังหวัดแรก และหลังจากได้ฟังสถานการณ์แล้ว พบว่าชาวนาจังหวัดพิษณุโลก ยังต้องปรับวิถีการทำนาใหม่ คือ ต้องเน้นปลูกข้าวตามสายพันธุ์ที่มีคุณภาพ มากกว่าเน้นปริมาณ ซึ่งหากเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ปลูกไว้เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดี ก็จะทำให้มีราคาดีเช่นกัน

"การที่ คสช.ได้มีนโยบายลดราคาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ตามแนวทางพระราชดำริ เกษตรพอเพียง ซึ่งก็จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรดีขึ้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจัดตั้งศูนย์สาธิตลดราคาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ขึ้นตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรได้เข้าใจถึงขั้นตอนและขบวนการต่างๆในการผลิตข้าวที่มีคุณภาพ โดยในการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว จะต้องเห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือน จากนั้นก็จะได้ขยายไปตามชุมชนให้เกิดประโยชน์อีกด้วย"

นายวัชรินทร์ กิตติมาลา เจ้าของร้านดี-ไรท์ พาณิชย์ กล่าวว่า ในทุกๆปี ร้านของตนจะมีเกษตรกรมาหาซื้อเมล็ดพันธุ์ไปจำหน่ายกันจำนวนมาก แต่ปีนี้กลับจำหน่ายไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าว พิษณุโลก1 และพิษณุโลก 2 ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพก็ตาม ซึ่งมียอดการจำหน่ายลดลงถึง 80 % ถึงแม้ว่าจะต้องลดราคาจากเดิม 550 ต่อกระสอบลดลงเหลือเพียง 350 บาทเท่านั้น สาเหตุเนื่องจากชาวนามีได้กักเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวของตนเองไว้เอง ทำให้เมล็ดพันธุ์ข้าวของตนนั้นได้รับผลกระทบ ข้าวเสียหาย ไม่สามารถจำหน่ายได้เลย อยากให้ทาง คสช.เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย

ปลัดพาณิชย์กังวลข่าวสต็อกเสื่อม

ในด้านความเคลื่อนไหวการตรวจสอบสต็อกข้าวนั้น นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีทีมตรวจสอบสต็อกข้าวรัฐบาล ตรวจพบข้าวหายและเสื่อมคุณภาพว่า จะต้องเอาผิดกับผู้ที่รับผิดชอบ แต่ยอมรับว่าข่าวเรื่องข้าวเสื่อมคุณภาพที่ออกมา ไม่เป็นผลดีต่อข้าวไทยในภาพรวม เพราะแม้จะพบข้าวเสื่อมคุณภาพจริง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของข้าวที่มีในสต็อกถึง 18 ล้านตัน

"ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดว่ามีข้าวเสื่อมเท่าไร เนื่องจากการตรวจ-สอบยังไม่จบ หากได้ข้อมูลชัดเจนแล้ว ก็จะกำหนดยุทธศาสตร์การระบายข้าวในสต็อกรัฐบาล ให้สอดคล้องกับปริมาณและประเภทของข้าว โดยแยกตามคุณภาพข้าวที่มีอยู่ต่อไป ต้องให้รัฐได้ประโยชน์สูงสุด"นางสาวชุติมากล่าว

การตรวจสอบสต็อกข้าวครั้งนี้ เป็นการสร้างความชัดเจน และทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อผู้ซื้อ ได้ข้าวคุณภาพดี ไม่ต้องกังวลว่าจะมีข้าวเสื่อมคุณภาพปนไปด้วย ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ซื้อแล้ว โดยเฉพาะการส่งออกข้าวเกรดเออย่างข้าวหอมมะลิ มีขั้นตอนการตรวจสอบมาตรฐานส่งออกที่เข้มงวด

อุดรธานีพบข้าวเหลือง

ในการตรวจสอบสต็อกข้าววานนี้ ที่จ.อุดรธานี โรงสีหนองหานไทยง่วน อ.หนองหาน คณะเจ้าหน้าที่นำโดยนายวีรยุทธ สุขเจริญ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม นำกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ตรวจสอบคลังสินค้ากลางเก็บข้าวสารโครงการรับจำนำข้าว ฤดูการผลิตปี 56/57 ของโรงสีหนองหานไทยง่วน

จากการตรวจสอบได้ทำการขึ้นบนชั้นกระสอบข้าว ที่วางเรียงกันเต็มคลังสินค้า พร้อมให้กรรมกรของโรงสีฯนำกระสอบข้าวสาร ที่อยู่ตรงกลางกองข้าวออก 15 ชั้นกระสอบ เพื่อสุ่มตรวจปริมาณข้าวว่าจะมีเต็มตามจำนวนตามที่แจ้งไว้หรือไม่ นอกจากนี้ทหารตัวแทนจาก ทภ.2 ใช้หลาวเหล็กสุ่มแทงกระสอบข้าว เพื่อนำข้าวพร้อมแยกถุงใส่ ส่งไปยัง ทภ.2 เพื่อดำเนินการตรวจสอบคุณภาพข้าวอีกครั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยตาเปล่าเบื้องต้น พบว่าข้าวสารมีสิ่งเจือปนอยู่พอสมควร ในขณะที่มีบางส่วนเริ่มออกสีเหลืองจางๆ

นายวีรยุทธ กล่าวว่า เป็นการตรวจสอบวันแรกของ จ.อุดรธานี มีคลังสินค้ากลางรวม 21 แห่ง เป็นข้าวสารฤดูการผลิตตั้งแต่ปี 55 จนถึง 57 รวมทั้งหมดประมาณ 68 ตัน ซึ่งการตรวจสอบวันนี้ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ ข้าวยังคงอยู่ครบตามจำนวน ส่วนการตรวจสอบคุณภาพข้าวนั้น จะมีการนำส่งตัวอย่างข้าวที่สุ่มเก็บตัวอย่างไปยังกองทัพภาคที่ 2 เพื่อดำเนินการตรวจสอบ

อ่างทองเร่งตรวจนับปริมาณ

ที่โกดังข้าวไชยภูมิทรัพย์ ต.ไชยภูมิ อ.ไชโย จ.อ่างทอง นายแพทย์วิศิษฐ์ ตั้งนภากร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าชุดตรวจข้าวสารในจังหวัดอ่างทอง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ของคณะตรวจสอบข้าวสาร เข้าตรวจสอบภายในโกดังข้าวต่อจากเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยได้เข้าตรวจโกดังเก็บข้าวสารโกดัง 7 โกดังที่7/1 และโกดังที่ 8 ซึ่งเป็นสต็อกข้าวของ อคส.และอตก.โดยจากการตรวจสอบโกดังที่ 7 มีข้าวสารอยู่ 54,361 กระสอบ โกดังที่ 7/1 มีข้าวสารอยู่ 5,824 กระสอบ และโกดังที่ 8 มีข้าวสารอยู่ 150,876 กระสอบ ซึ่งทั้ง 3 โกดังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใดมีข้าวสารอยู่ครบตามจำนวนที่ได้แจ้งไว้

นพ.วิศิษฐ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 2 ในการเขาตรวจโกดังเก็บข้าวสารแห่งนี้ ซึ่งก็เป็นโกดังเก็บข้าวสารที่ใหญ่โรงหนึ่ง สามารถเก็บข้าวสารได้ถึง 1.8 ล้านกระสอบ ในเบื้องต้นทางจะทำการนับจำนวนกระสอบข้าวสารและทำการเก็บตัวอย่างข้าวสารไปตรวจสอบคุณภาพอีกครั้ง ซึ่งในการเข้าตรวจทั้ง 3 โกดังพบเพียงการเรียงข้าวไม่เรียบร้อยเท่านั้น