รมว.ต่างประเทศ 13 ชาติ เรียกร้องอิสราเอลเลิกถล่มภาคพื้นดินเมืองราฟาห์

รมว.ต่างประเทศ 13 ชาติ เรียกร้องอิสราเอลเลิกถล่มภาคพื้นดินเมืองราฟาห์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ 13 ชาติ เรียกร้องอิสราเอลเลิกถล่มภาคพื้นดินเมืองราฟาห์ ขณะ"กูเตอร์เรส" ชี้สงครามกาซาเป็นบาดแผลที่จะส่งผลกระทบต่อทั้งภูมิภาค

รัฐมนตรีต่างประเทศจาก 13 ประเทศได้ลงนามในจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงนายอิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล โดยเรียกร้องให้อิสราเอลยกเลิกการใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินต่อเมืองราฟาห์

นอกจากนี้ จดหมายดังกล่าวยังเรียกร้องให้อิสราเอลอนุญาตให้มีการส่งความช่วยเหลือมากขึ้นเข้าสู่ฉนวนกาซา โดยการเปิดจุดผ่านแดนทุกจุด

ทั้งนี้ จดหมายดังกล่าวลงนามโดยรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่ม G7 ซึ่งได้แก่ สหรัฐ อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น และแคนาดา รวมทั้งออสเตรเลีย เดนมาร์ก ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ เกาหลีใต้ และสวีเดน

ด้านนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยืนยันว่า กองทัพอิสราเอลจะนำตัวประกันทั้งหมดกลับประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพมีชีวิตหรือเสียชีวิต

นายเนทันยาฮูกล่าวถ้อยแถลงนี้  หลังจากที่กองทัพอิสราเอลสามารถนำร่างของชาวอิสราเอล 3 รายกลับประเทศ โดยทั้ง 3 ถูกกลุ่มฮามาสสังหารขณะเข้าร่วมเทศกาลดนตรีซูเปอร์โนวาทางใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2566 ซึ่งฮามาสได้นำร่างของทั้ง 3 ไปยังฉนวนกาซา

ขณะที่นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า สงครามในฉนวนกาซาถือเป็นบาดแผลที่จะส่งผลกระทบต่อทั้งภูมิภาค

"สงครามนี้ถือเป็นเหตุการณ์ความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่ผมเข้ารับตำแหน่ง และผมขอเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข ขณะที่การโจมตีเมืองราฟาห์ถือเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้" นายกูเตอร์เรสกล่าวในการประชุมสุดยอดของกลุ่มสันนิบาตอาหรับ