เดินป่าครั้งแรกกับเส้นทางสายทะเลสาบที่เซอร์แมท

เดินป่าครั้งแรกกับเส้นทางสายทะเลสาบที่เซอร์แมท

เมื่อคนหลงทิศริไปไฮกิ้งคนเดียวครั้งแรก ต่อให้เลือกเส้นทางเดินไม่ยาก ก็ยังไม่วายหลง แต่ "หลงรัก" เลยนะ

เมื่อคนหลงทิศและอ่านแผนที่ไม่เก่ง ริจะไปไฮกิ้ง (Hiking) คนเดียวครั้งแรก จึงตั้งใจเลือกเส้นทางสวย เดินไม่ยาก และมีนักท่องเที่ยวพอสมควร เพื่อไม่ให้เปลี่ยวจนเกินไป และเมื่อประเทศปลายทางคือสวิตเซอร์แลนด์ ทุกเสียงแนะนำก็ชี้มาที่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) กับวิวยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) อันโด่งดัง เพราะเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ช็อกโกเลตบาร์สามเหลี่ยม Toblerone

เราไปเจอแอพฯ เหมาะการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ คือ Swiss Hiking ซึ่งรวบรวมเส้นทางเดินป่าเดินเขาสำหรับช่วงหน้าร้อนเอาไว้หลายเส้นทางทั่วประเทศ แต่ละแห่งมีจุดเด่นต่างกัน ระบุความยาก ระยะทาง และเวลาที่คาดว่าจะใช้

Zermatt Lake Trail

เราเลือกเส้นทาง Zermatt Lake Trail ในแอพ แล้วก็ปักใจจะไปแต่เส้นทางนั้น (จริงๆ บนเขาที่กว้างใหญ่ มีเส้นทางหลากหลายให้เลือกเดินมากมาย) เส้นทางนี้ออกแบบให้เห็นทะเลสาป 2 แห่ง และเชิญชวนด้วยภาพของยอดมัทเธอร์ฮอร์นที่สะท้อนบนทะเลสาบไว้จูงใจ

เริ่มต้นที่ซุนเนกก้า (Sunnegga) ไปจบที่ริฟเฟิลแอลป์ (Rifflealp) ต่อให้ดูแผนที่ระหว่างนั่งรถไฟ เราก็นึกภาพไม่ออกเลยว่าทั้ง 2 ชื่อนี้อยู่ตรงไหนบนเขา

เดินป่าครั้งแรกกับเส้นทางสายทะเลสาบที่เซอร์แมท

ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนเอ๋อ แต่ที่จริงคงจะเอ๋อพอสมควร เพราะระหว่างการเดินทางนั้นมีเรื่องเส้นผมบังภูเขาเกิดขึ้นตลอด เช่น ในแอพ Swiss Hiking จริงๆ แล้วมีให้กด GPS ระบุตำแหน่งเราบนแผนที่ได้ ซึ่งถ้าทำตั้งแต่แรก เราก็สามารถเดินไปตามเส้นทางที่ถูกต้องได้แล้ว พลาดมากที่เอาแต่คิดว่าแอพคงไม่สามารถระบุตำแหน่งบนแผนที่ได้ อีกทั้งแอพก็แนะนำว่าบนภูเขามีทางเดินหลายเส้นทางเพื่อจะพาไปจุดหมายเดียวกัน ฉะนั้น อย่ายึดติดกับแอพ ให้เน้นดูป้ายบอกทางด้วย พอไปเดินจริง เราก็คลำทางจากป้ายเท่านั้นเลย

ด้นสดบนภูเขา

Zermatt Lake Trail เป็นเส้นทางเดินป่าสายคลาสสิคที่เดินกันมานานแล้ว ระยะทาง 9 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างทางจะผ่านทะเลสาบ Grindji และ Grün ซึ่งชื่อทะเลสาปทั้ง 2 แห่งนี้ เราเพิ่งมารู้ทีหลัง หลังจากกลับมาอ่านข้อมูลอย่างละเอียด นี่เป็นสิ่งที่ควรทำก่อนที่จะเริ่มเดิน แต่มนุษย์ผู้ชะล่าใจคิดว่า เป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวนิยมกัน ไม่ยากอะไร ยังไงก็ไม่หลงหรอก!

เดินป่าครั้งแรกกับเส้นทางสายทะเลสาบที่เซอร์แมท

เพราะไม่รู้ว่าจะเดินมุ่งหน้าทิศไหนดี เราจึงเลือกที่จะตามป้ายที่ชี้ไปยังปลายทางสุดท้ายคือริฟเฟิลแอล์ปเป็นหลัก โดยมองข้ามจุดหมายระหว่างทางอย่างทะเลสาบ Grindj และ Grün ไปโดยสิ้นเชิง แต่ถึงกระนั้น เส้นทางจากซุนเนกก้าก็สวยงามตลอด ที่นี่เป็นอีกจุดที่สามารถมองเห็นมัทเทอร์ฮอร์นได้ในมุมสวยเช่นกัน ฉะนั้น เมื่อมีวิวยอดเขากับหญ้าเขียวๆ และดอกไม้ป่าขึ้นอยู่ตลอดทางก็ทำให้การเดินเต็มไปด้วยความเพลิดเพลิน

เดินป่าครั้งแรกกับเส้นทางสายทะเลสาบที่เซอร์แมท

เราเริ่มเดินตอนเที่ยงครึ่ง ไม่ใช่เวลาที่เหมาะเลย เอาเถอะ ต่อให้แสงแดดร้อนแรง แต่ลมพัดเย็นสบาย บนทางเดินแบบซิงเกิลแทรคนั้นเป็นดินปนก้อนหินน้อยใหญ่ เป็นแนวหินลอยเสียส่วนมาก

เราเลือกใส่รองเท้าวิ่งเทรล สะพายเป้น้ำ 1 ลิตรครึ่ง กับของจำเป็น อย่างขนมเพิ่มพลังงาน กล้วยตาก สเปรย์พ่นเผื่อเจ็บขา ลิปมัน ทิชชู่แห้ง ทิชชู่เปียก แบตเตอรี่สำรอง ซึ่งทุกอย่างที่เตรียมไปได้ใช้ทุกอย่าง แม้แต่สเปรย์พ่นที่เผื่อไว้เฉยๆ เพราะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดทำให้ขาล้าจนเกือบเจ็บขึ้นมา

เดินไปไม่นานเราพบกับทะเลสาบเล็กๆ ทะเลสาบแรก อาจจะเป็น Grindj ที่จะได้เจอก่อน ทางเดินตลอดทางจะเป็นเนินขึ้นๆ ลงๆ บางจุดก็เดินขึ้นยาว บางจุดก็เดินลงยาว จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ได้ในบางที เพราะบางจุดก็ชันมาก ต้องเตาะแตะไต่หินลงไป

เราเดินโดยประเมินจากการมองระยะไกล พยายามเลือกทางที่ “ดูเหมือน” เดินง่ายกว่า บางทีก็เดินตามคนอื่น เส้นทางนี้ไม่ได้มีคนเดินขวักไขว่ แต่เราจะพบเพื่อนร่วมทางเป็นระยะๆ นอกจากคนเดินเขา ก็ยังมีนักปั่นเสือภูเขาสวนมาเรื่อยๆ ครั้งหนึ่งเราเลือกเดินลงตามแก๊งนักปั่นไป เพราะคิดว่าเขาไม่น่าเลือกทางลงที่ยาก ปรากฏว่าผิดคาด ทางเดินลงนั้นแคบลงเรื่อยๆ เหลือแค่ความกว้างประมาณฟุตเดียว กับองศาที่แสนชัน แถมมีหินมาขวางอยู่หลายจุด ในตำแหน่งที่กลิ้งตกเขาได้ เดินยังลำบาก เราสงสัยมากว่าเขาขี่จักรยานผ่านกันไปได้อย่างไร เอาล่ะ คงเป็นนักปั่นวิบากสายแข็งนั่นเอง

เดินป่าครั้งแรกกับเส้นทางสายทะเลสาบที่เซอร์แมท

ผ่านจุดยากๆ มาก็ได้เจอกับทะเลสาบที่เราแทบจะยิ้มแก้มปริ นี่แหละ สิ่งที่ยอมแลกมากับความเหนื่อย ทะเลสาบที่ฟ้าสวยจัด มีคนนั่งเล่นพักกินอะไรเล็กๆ น้อยๆ เอาแรง เราก็ขอพักด้วย และชมวิวยอดมัทเทอร์ฮอร์นท่ามกลางฟ้ากระจ่างใส

เดินป่าครั้งแรกกับเส้นทางสายทะเลสาบที่เซอร์แมท

เดินต่อไปเรื่อยๆ ผ่านแม่น้ำที่เหมือนน้ำตกมากกว่า สายน้ำลงจากภูเขาไหลแรงจนสามารถเป็นจุดผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ ภูมิประเทศจากนี้จะมีความเป็นป่าโปร่งบนภูเขามากขึ้นเรื่อยๆ เราเดินขึ้นเนินยาวๆ หลายกิโล ผ่านมุมมองหลายแบบทั้งเนินเขาที่มีหญ้าเวิ้งว้าง ป่าสนที่ไต่ระดับกับพื้นดินบนหินที่มีประกายเงินแวววาวของแร่บางอย่างสะท้อนแดดอยู่ สายตาเน้นตามหาแต่ป้ายริฟเฟิลแอล์ปโดยไม่เอะใจว่ามองข้ามชื่อทะเลสาบแห่งที่ 2 ไป มุ่งหน้าไปเรื่อยๆ กับทิวทัศน์ระหว่างทางที่งดงาม ดูต้นไม้ ดอกไม้ ทิวเขาที่สลับซับซ้อน บางจุดก็เป็นการเดินริมภูเขาที่มองเห็นวิวหุบเขากว้างไกลสวยงามปนน่าตื่นเต้น พื้นผิวทางเดินหลากหลายทั้งดิน หิน หญ้า สนุกท้าทายแบบที่นักวิ่งเทรลโปรดปราน

เดินไปเดินมาจนถึงสถานีรถไฟแห่งหนึ่ง หลังจากป้ายล่าสุดที่เห็นคือเดินอีกเพียง 10 นาทีก็จะถึงริฟเฟิลแอล์ป ซึ่งเราพลาดป้ายตรงนั้นไป โดยไม่รู้ว่าสถานีที่เห็นก็คือสถานีริฟเฟิลแอล์ปนั่นเอง แต่เราเดินเลี่ยงสถานี แล้วไม่เจอทางไปต่อใดๆ นอกจากการเลี้ยวขวาลงเขา เราเห็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่งเดินลงไป

ซ้อมวิ่งเทรลอย่างไม่ตั้งใจ

เพราะเป็นมือใหม่ สนุกกับการเจอสิ่งที่ไม่คาดฝัน และการไม่รู้เส้นทางทำให้เราตื่นเต้น เราจึงเดินตามเขาไป แม้จะรู้สึกว่าทางมันแปลกๆ คือเป็นทางเดินเลียบลงเขาแบบพับไปพับมา ระหว่างทางไม่มีป้ายเลย ไม่รู้ว่าต้องเดินอีกนานแค่ไหนจึงจะเจอถนนปกติ ได้แต่ไปต่อเรื่อยๆ และทางชันลงแบบนี้ ถ้าเดินจะเหนื่อยกว่าวิ่งด้วยซ้ำ เพราะต้องคอยจิกปลายเท้ายันเอาไว้ไม่ให้ถลาลง แต่เราถนัดวิ่งลงเขามากกว่า เลยวิ่งลงซะเลย วิ่งไปวิ่งมากับความเสียงป่า แทรกมาแต่เสียงฝีเท้ากับเสียงหอบหายใจของตัวเอง นานๆ จะมีนักท่องเที่ยวสวนมาให้ใจชื้นว่าไม่ใช่ทางเปลี่ยว

เดินป่าครั้งแรกกับเส้นทางสายทะเลสาบที่เซอร์แมท

วิ่งนานพอดูจนไปเจอถนนราบ เช็คระยะทางในนาฬิกาออกกำลังกายพบว่าวิ่งลงมาเกือบ 3 กม. พอพบป้ายก็รู้แน่ชัดว่ามาผิดทาง มีทางเลือกว่า ถ้าเดินลงเขาต่อไปก็จะลงไปเซอร์แมท แต่ถ้าจะไปริฟเฟิลแอลป์ก็ต้องกลับขึ้นทางเดิมซึ่งเพิ่งวิ่งลงมานั่นแหละ แต่การลงกับการขึ้นนั้นความเหนื่อยต่างกันลิบลับ เราคิดหนักเลยว่าจะไปทางไหนดี ทางหนึ่งเดินลงเขาไป อาจได้เจอกับเส้นทางใหม่ๆ ที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร กับการย้อนขึ้นไปทางเก่าที่เหนื่อยหนัก แต่ไปถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้ สุดท้ายก็เลือกเดินกลับขึ้นไป เพราะไม่ได้มากันบ่อยๆ อยากรู้ว่าริฟเฟิลแอลป์ที่หมายมั่นนั้นจะเป็นอย่างไร

เดินป่าครั้งแรกกับเส้นทางสายทะเลสาบที่เซอร์แมท

เหนื่อยมากอย่างที่คิด กลับมาถึงจุดเดิมก็เดินไปแล้ว 11 กม. เงยหน้าขึ้นมาเจอกับป้ายชี้ไปริฟเฟิลแอลป์ เดินไปอีกนิดเดียวจริงๆ ตอนนั้นขาและเข่าล้าจนต้องเดินเตาะแตะ สถานีริฟเฟิลแอล์ปพามาตรงจุดที่เป็นเวิ้งเขาสวยงาม มีรีสอร์ทหรูแต่สร้างกลมกลืนไปกับธรรมชาติและรูปแบบเดิมของบ้านบนเขาในสวิส บรรยากาศที่นี่สวยสงบ เหมือนย้อนกลับไปอยู่ในหมู่บ้านสมัยก่อน เป็นจุดที่เห็นวิวกว้างไกลของหุบเขางดงาม มองไปไกลๆ เห็นว่ายังมีเส้นทางไฮกิ้งที่ไปต่อได้อีกมากมาย

เรายืนตะลึงอยู่นิดๆ ความที่ไม่ได้จินตนาการล่วงหน้าว่าที่นี่จะหน้าตาเป็นอย่างไร ทำให้สีเขียวขจีของเนินเขาหน้าร้อน กลุ่มเมฆที่บังแสงอาทิตย์ไว้จนเกิดเป็นประกายขอบเงินวาวนั้นสยบความรู้สึกให้นิ่งได้ แล้วก็เสียดายว่าเส้นทางที่เห็นอีกหลายเส้นตรงหน้านั้น ช่างน่าเดินต่อจริงๆ แต่ด้วยเวลาและความล้าของขา ทำให้เราต้องพาร่างลงรถไฟกลับไปเซอร์แมท

เดินป่าครั้งแรกกับเส้นทางสายทะเลสาบที่เซอร์แมท

ณ ตอนนั้นความสวยงามสะกดความเหนื่อยล้า ทั้งยังปลุกไฟอะไรบางอย่างในใจให้ลุกขึ้นมา ตกหลุมรักภูเขาเข้าแล้ว และอยากเห็นวิวที่มากขึ้นไปอีก เมื่อผ่านการหลงงงงวยมาแล้ว ก็เกิดเข้าใจเส้นทางต่างๆ ขึ้นมาทันที และอยากกลับมาแก้มือใหม่ในโอกาสหน้าจริงๆ