อว. ดันตั้งคณะแพทยศาสตร์ ม.นครพนม แก้ปัญหาขาดแคลนในอีสานตอนบน

น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงลงพื้นที่ จ.นครพนม ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร) กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน 2 (นครพนม สกลนคร มุกดาหาร)

โดยในวันนี้ (27เม.ย.) ได้เดินทางไปยัง โรงเรียนคำเตยอุปถัมภ์ ต.คำเตย อ.เมืองนครพนม เพื่อเปิดงาน “การขับเคลื่อนงานด้านอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) สนับสนุนการพัฒนาพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2” โดยมี โดยมีประชาชนจากอำเภอต่างๆ อาทิ บ้านแพง ท่าอุเทน โพนสวรรค์ และเมืองนครพนม เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมทั้งเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ช่วยแก้ปัญหาในพื้นที่ 

นพ.อลงกต มณีกาศ และนายชูกัน กุลวงษา สส.นครพนม เป็นตัวแทน สะท้อนความต้องการของประชาชน โดยระบุว่า ปัญหาสำคัญที่สุดที่ต้องการให้ อว.เข้ามาช่วย เรื่องแรก คือ ปัญหาการขาดแคลนแพทย์ ทั้งในกลุ่มจังหวัดอีสาน 1 และกลุ่มจังหวัดอีสาน 2 ทั้งสองพื้นที่ไม่มีนักศึกษาแพทย์ ไม่มีโรงเรียนแพทย์ โดยมหาวิทยาลัยนครพนมได้มีการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ แต่แพทยสภายังไม่อนุมัติหลักสูตรให้ เพราะอ้างว่า ครม. ไม่จัดงบประมาณให้ โดยมหาวิทยาลัยนครพนม เสนอของบฯ ไป 2 พันล้านบาท เพื่อผลิตแพทย์ในระยะเวลา 10 ปี

อยากจะให้ อว.ผลักดันให้เกิดการตั้งคณะแพทยศาสตร์ภายในปี 2570 หาก ครม.อนุมัติ มหาวิทยาลัยนครพนม จะรับนักศึกษาแพทย์รุ่นแรก จำนวน 36 คน ที่เป็นคนจังหวัดนครพนม เท่านั้น

เรื่องต่อมา อยากให้กระทรวง อว. ช่วยเรื่องงานวิจัยแปรรูปสินค้าการเกษตรเพื่อเกษตรกร โดยเฉพาะลิ้นจี่ นพ1 ของดีจังหวัดนครพนม และงานวิจัยด้านอาหารสัตว์ให้กับไก่สายพันธุ์ศรีโคตรบูรณ์ เพื่อให้ต้นทุนอาหารไก่ลดลง และที่สำคัญ อยากจะให้ อว.ช่วยทำเรื่องของการตลาด การขายสินค้าให้กับชาวบ้าน ซึ่งมีสินค้าพื้นเมืองดีๆ มากมาย แต่ชาวบ้านยังขายไม่เป็น 

จากนั้น น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า การลงพื้นที่ก่อนการประชุม ครม.สัญจร ทุกครั้ง อว.จะมารับเรื่องจากประชาชน สำหรับข้อเรียกร้องจากประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องการผลักดันให้เกิดการตั้งคณะแพทยศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยนครพนม ขอยกย่องมหาวิทยาลัยที่มีความกล้าหาญ เพราะคณะแพทยศาสตร์จัดตั้งยากมาก ถ้าจัดตั้งได้ง่ายทุกมหาวิทยาลัย คงมีคณะแพทยศาสตร์ไปแล้ว 

"ปัญหาการขาดแคลนแพทย์ เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มจังหวัดอีสานตอนบนทั้งกลุ่ม 1 และ 2 ไม่ว่าจะเป็น นครพนม สกลนคร มุกดาหาร เลย อุดรธานี เป็นต้น ไม่มีโรงเรียนแพทย์เลย ดังนั้น ดิฉันจะช่วยผลักดันให้เกิดคณะแพทยศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยนครพนม เพื่อผลิตนักศึกษาแพทย์มาแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวอีสาน" รมว.อว.กล่าว และว่า 

นอกจากนี้ อว. ยังมีเทคโนโลยี มีนวัตกรรม สำหรับส่งเสริมอาชีพและแก้ปัญหาให้ประชาชน นครพนมเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ อว.จะนำงานด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อววน.) ไปเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ให้กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 โดยมุ่งสู่การผลิตและแปรรูปสินค้าเกษตรมูลค่าสูงที่สร้างมูลค่าเพิ่ม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

พร้อมกับพัฒนาสินค้าชุมชนที่มีอัตลักษณ์ร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเพิ่มผลผลิต และเพิ่มมูลค่า สนับสนุนให้เกิดการผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน สร้างโอกาสในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจด้วยสินค้าชุมชน สนับสนุนการค้าในพื้นที่ และระหว่างกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ที่สำคัญ จะสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวในพื้นที่เชื่อมโยงเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ ความเชื่อทางศาสนาและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่สามารถสร้างรายได้และยกระดับความเป็นอยู่ให้กับประชาชนในพื้นที่

จากนั้น รมว.อว.ได้พบปะ พูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ พร้อมกับมอบนวัตกรรมส่งเสริมอาชีพให้แก่ผู้นำชุมชน และวิสาหกิจชุมชนจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยนครพนม 2 รายการ ประกอบด้วย เครื่องลดมวลขยะอินทรีย์ 1 ชุด และไก่สายพันธุ์ศรีโครตบูรณ์ จำนวน 50 ชุด และมอบถุงบำรุงชีพให้แก่ตัวแทนประชาชน จำนวน 50 ถุง แว่นสายตา 400 ชิ้น รวมทั้งของที่ระลึกจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวง อว. จำนวน 400 ชิ้น