สายลุยไม่คุยให้เสียเวลา! “รีวิว Apple Watch Ultra” ทำไมคุ้มค่ากับการลงทุน

สายลุยไม่คุยให้เสียเวลา! “รีวิว Apple Watch Ultra” ทำไมคุ้มค่ากับการลงทุน

“รีวิว Apple Watch Ultra” นาฬิกาสมาร์ทวอทช์รุ่นที่ลุยที่สุด ทนที่สุด และเท่ที่สุดเท่าที่ “Apple Watch” เคยมีมา ด้วยการใช้งานจริงสุดโหด

ใครได้ลองใช้ก็มีแต่ชอบ นี่คือทิศทางของคอมเมนต์ที่เราได้ยินมาโดยมิได้นัดหมาย สำหรับ Apple Watch Ultra นาฬิกาสายลุยรุ่นแรกของ Apple ที่จับตลาดแอดเวนเจอร์อย่างจริงจัง ซึ่งดูเหมือนว่าแอปเปิลจะมาถูกทางแล้ว

KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที พา "Apple Watch Ultra" ไปใช้ในหลายกิจกรรมสุดมัน รวมถึงกิจวัตรประจำวัน เรียกได้ว่ามี Apple Watch รุ่นนี้อยู่บนข้อมือตลอดเวลา นั่นทำให้เราเข้าใจถ่องแท้ถึงคำชื่นชมที่ทุกคนมีให้นาฬิกาเรือนนี้

สายลุยไม่คุยให้เสียเวลา! “รีวิว Apple Watch Ultra” ทำไมคุ้มค่ากับการลงทุน

หล่อเท่

นี่คือ "Apple Watch" รุ่นที่รูปทรงสมบุกสมบันและโฉบเฉี่ยวที่สุดแล้ว แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราตามสไตล์แอปเปิล สำหรับคนที่หลงใหลการผจญภัยน่าจะถูกใจอย่างมาก ทว่ามิติของตัวเรือนที่ใหญ่ขึ้นถึง 49 มม. หนาขึ้น นอกจากจะถูกใจสายลุยแล้ว ก็อาจจะไม่ค่อยถูกชะตากับคนข้อมือเล็ก หรือคนที่อยากได้นาฬิกาเรือนกะทัดรัดสักเท่าไร

อีกสิ่งที่สะท้อนความบึกบึนถึกทนคือวัสดุที่ใช้ทำตัวเรือนคือไทเทเนียมและเซรามิก ส่วนหน้าจอผลิตจากแซฟไฟร์สุดแกร่งซึ่งถูกใช้ในการผลิตหน้าปัดนาฬิกาแบรนด์ดังๆ มายาวนาน ทำให้ดีไซน์ของ "Apple Watch Ultra" มีหน้าจอแบนเรียบในระดับเดียวกับขอบเรือนโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความเสียหายระหว่างการใช้งาน

ส่วนที่โดดเด่นที่สุดอีกอย่างของนาฬิกาเรือนนี้คือปุ่ม Digital Crown ขนาดใหญ่ ตัดด้วยลายเส้นสีส้ม นอกจากความสวยงามแล้วปุ่ม  Digital Crown คือปุ่มควบคุมการทำงานต่างๆ แบบอนาล็อกในกรณีที่ไม่ควรใช้การทัชสกรีน

สายลุยไม่คุยให้เสียเวลา! “รีวิว Apple Watch Ultra” ทำไมคุ้มค่ากับการลงทุน

ขวัญใจนักกีฬาและนักผจญภัย

จะเป็นกีฬาในร่มหรือกีฬากลางแจ้ง ใน "Apple Watch Ultra" มีให้เลือกใช้ค่อนข้างครอบคลุมในหลายๆ กิจกรรม จากการใช้งานตั้งแต่วิ่งจ็อกกิงในหมู่บ้าน ไปจนถึงไปเอาวิ่งเทรลในพื้นที่ทุรกันดาร และกิจกรรมเช่นการพาย Stand Up Paddle Board (SUP Board) ได้ข้อสรุปดังนี้

สำหรับกีฬาประเภทวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งบนถนนหรือเข้าป่า GPS ในนาฬิการุ่นนี้ทำงานได้แม่นยำมาก และในการติดตามผลต่างๆ ของร่างกายก็เสถียรและรวดเร็วแบบเรียลไทม์

ว่าด้วยการวิ่งเทรลไปกับ Apple Watch Ultra หลังจากเราได้ใช้สนามซ้อมเทรลที่นักวิ่งเทรลเกือบทุกคนต้องเคยมาลอง เพราะเป็นเส้นทางระดับ Beginner อย่างเขาฉลาก จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่การเริ่มต้นวิ่งบนทางลาดยาง เมนูวัดค่าต่างๆ ทำได้สมบูรณ์แบบไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งด้วยความชันมากๆ ทำให้ระดับ Heart Rate พุ่งขึ้นสูงกว่าปกติ ตัวเลขที่แสดงบนหน้าจอที่เห็นอย่างต่อเนื่องรวดเร็วช่วยให้ประเมินกับสภาพร่างกายได้ดี

จนกระทั่งเข้าสู่เส้นทางวิ่งเทรล แม้จะเป็นสภาพภูมิประเทศทุรกันดาร เป็นป่าเขา มีต้นไม้ปกคลุมมากเท่าไร แต่สัญญาณต่างๆ ยังดีอยู่ ทำให้ข้อมูลเรื่องระยะทาง เส้นทาง ระดับความสูงชัน ฯลฯ ไม่คลาดเคลื่อน

สายลุยไม่คุยให้เสียเวลา! “รีวิว Apple Watch Ultra” ทำไมคุ้มค่ากับการลงทุน

แต่นอกเหนือจากระบบต่างๆ ที่ทำงานได้ดีมาก คือเรื่องการดีไซน์ให้ "Apple Watch Ultra" ใช้งานง่าย ถนัดมือ แม้เรากำลังทุลักทุเลอยู่ก็ตาม ประการแรกเลยคือความสมบุกสมบันซึ่งกล่าวถึงไปแล้วในข้างต้นถึงความหล่อเท่ ซึ่งเมื่อใช้งานจริงทำให้รู้เลยว่าไม่ใช่แค่หล่อเท่เท่านั้น แต่ทนทานจริงๆ ด้วย เพราะมีหลายจังหวะที่ต้องปีนป่าย หรือแม้แต่ฟาดเข้ากับต้นไม้ สารภาพเลยว่าใจหายทันทีที่รู้ตัวว่านาฬิกากระแทกกับของแข็ง ใครเห็นก็ว่าแตก แต่ปรากฏว่าไร้ร่องรอย นั่นแปลว่าวัสดุทั้งไทเทเนียมและกระจกแซฟไฟร์แข็งแรงมากจริงๆ

อีกส่วนสำคัญที่น่าประทับใจคือ Digital Crown เม็ดมะยมขนาดยักษ์ที่มีเหตุผลในความใหญ่ ก็เพื่อให้จับถนัดมือแม้มือจะเปียกหรือลื่นโคลนอยู่

สายลุยไม่คุยให้เสียเวลา! “รีวิว Apple Watch Ultra” ทำไมคุ้มค่ากับการลงทุน

ส่วนการใช้งานตอนพาย SUP Board อาจไม่ได้มีเมนูของกีฬานี้โดยตรงใส่มาให้ในเครื่องทันที แต่เมื่อใช้ร่วมกับเมนู Paddle Sports ก็ให้ข้อมูลพื้นฐาน เช่น ระยะเวลา, HR, จำนวนแคลลอรี เป็นต้น และที่ทำให้รู้สึกสบายใจคือเรื่องกันน้ำ เพราะตามสเปกคือดำน้ำลึกได้ถึง 40 เมตร เพราะฉะนั้นการตกน้ำจากกีฬานี้ทำอะไร Apple Watch Ultra ไม่ได้เลย

เป็น Apple Watch ที่ปลอดภัยที่สุด

ใครเคยใช้ "Apple Watch" รุ่นอื่นๆ จะรู้ดีว่า ฟีเจอร์ต่างๆ ที่จำเป็นกับชีวิตประจำวันและเรื่องสุขภาพ มีอยู่ครบถ้วน แน่นอนว่าใน "Apple Watch Ultra" มีหมดทุกอย่าง แถมยังมีมากกว่าในหลายเรื่องถึงแม้จะมีน้ำหนักมากกว่ารุ่นอื่นๆ พอสมควรจนรู้สึกได้ก็ตาม

สิ่งที่มีมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด คือเรื่องความปลอดภัยต่างๆ ที่ให้มาเยอะแยะไปหมด ทั้งเพื่อป้องกัน ติดตาม ไปจนถึงด้านความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน

สายลุยไม่คุยให้เสียเวลา! “รีวิว Apple Watch Ultra” ทำไมคุ้มค่ากับการลงทุน

ในฟังก์ชั่นต่างๆ นี้ถือว่ายังโชคดีมากที่ไม่ได้รีวิวการใช้งานในสถานการณ์จริง แต่จากที่ได้ทดลองเปิดใช้งานในสถานการณ์จำลอง ทุกฟีเจอร์ (ที่เปิดใช้งานได้) ทำได้ค่อนข้างน่าประทับใจ

เช่น ฟีเจอร์ Siren ที่จะส่งสัญญาณเสียงสั้นๆ ไล่ความดังขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึง 86 เดซิเบล เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งในฟีเจอร์นี้ทำงานร่วมกับการโทรออกฉุกเฉินได้ด้วยหากจำเป็น

สายลุยไม่คุยให้เสียเวลา! “รีวิว Apple Watch Ultra” ทำไมคุ้มค่ากับการลงทุน

หรืออย่าง Crash Detection การตรวจจับอุบัติเหตุรุนแรงอย่างรถชน ซึ่งใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวใหม่ และอัลกอริทึมแบบรวมเซ็นเซอร์ที่ล้ำสมัย เมื่อ Apple Watch Ultra ตรวจจับได้ว่าเกิดเหตุรถชนอย่างรุนแรง อุปกรณ์จะตรวจสอบกับผู้ใช้และโทรหาบริการฉุกเฉินหากพวกเขาไม่ตอบสนองหลังจากนับถอยหลังเป็นเวลา 10 วินาที ผู้ปฏิบัติการฉุกเฉินจะได้รับตำแหน่งอุปกรณ์ของผู้ใช้ ซึ่งจะแชร์กับรายชื่อติดต่อฉุกเฉินของผู้ใช้

แม้กระทั่งความปลอดภัยต่อสุขภาพหู เพราะระดับความดังของเสียงมีผลต่อการได้ยิน แม้จะไม่ได้เปิดฟีเจอร์วัดความดังเสียง (Noise) แต่เมื่อนาฬิกาตรวจจับระดับความดังที่เกิน 80 dB ก็จะมีข้อมูลบันทึกอยู่ในแอพ Health ที่เมนู Hearing ด้วย

สายลุยไม่คุยให้เสียเวลา! “รีวิว Apple Watch Ultra” ทำไมคุ้มค่ากับการลงทุน

แบตอึดขึ้นแล้ว

เป็นการปฏิวัติวงการ "Apple Watch" ด้วยการแก้ปัญหาที่น่าหงุดหงิดที่สุดของนาฬิกาในตระกูลนี้คือเรื่องแบตเตอรีหมดไวมากถึงมากที่สุด โดยที่ "Apple Watch Ultra" พัฒนาให้แบตอึดขึ้นหลายเท่า แม้จะไม่ยาวนานนับสัปดาห์อย่างแบรนด์อื่น แต่ก็อยู่ได้หลายวันแม้ใช้งานหลายฟีเจอร์รวมถึงการวัดค่าขณะออกกำลังกายด้วยซึ่งเป็นฟังก์ชันที่สูบแบตมากๆ ยกตัวอย่างจากการสวมใส่วิ่งเทรลเป็นเวลาสองชั่วโมงรวมกับการสวมใส่ปกติตลอดทั้งวันรวมถึงตอนนอน เมื่อครบ 24 ชั่วโมง พบว่าแบตยังเหลือราว 50 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการเป็น Apple Watch คือดีมากขึ้นจริงๆ แต่ถ้าทำให้อึดได้อีกก็จะยิ่งดีมากๆ

สายลุยไม่คุยให้เสียเวลา! “รีวิว Apple Watch Ultra” ทำไมคุ้มค่ากับการลงทุน

อันที่จริงยังมีอีกหลายความสามารถที่ทำให้รู้สึกว้าวมากกับนาฬิกาเรือนนี้ มีมากเสียจนเล่าครั้งเดียวให้จบไม่ได้ แต่ถ้าถามว่าคุ้มค่าไหมกับราคาค่าตัวที่ 31,900 บาท หากคุณคือคนที่ใช้ทั่วไป วัดค่าพื้นฐานต่างๆ ของร่างกาย เช่น อัตราการเต้นหัวใจ, ระดับออกซิเจนในเลือด, วัดค่าการนอน หรือตอนทำกิจกรรมต่างๆ ทั่วไป อาจไม่ต้องลงทุนกับนาฬิกาเรือนนี้

แต่ถ้าคุณคือนักกีฬา นักผจญภัย หรือคนที่หลงใหลกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท "Apple Watch Ultra" ตอบโจทย์มาก ทั้งดีไซน์ ทั้งฟีเจอร์ ทั้งความทนทาน และความเอาใจใส่เล็กๆ น้อยๆ ต่างๆ ที่ทำให้นาฬิกาเรือนนี้เป็น "Apple Watch" ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา เมื่อเทียบราคากับสมาร์ทวอทช์ตัวท็อปของแบรนด์อื่น นี่คือช่วงราคาที่ไม่ได้หนีกันมากนัก อีกอย่างคือถ้าใช้อุปกรณ์อื่นๆ ของ "Apple" อยู่แล้ว เช่น iPhone จะลงตัวมากเมื่อใช้งานร่วมกัน

และจะลืมไม่ได้ว่าราคาที่ลงทุนไปกับสมาร์ทวอทช์รุ่นท็อป ไม่ว่าจะค่ายไหน หากใช้งานถึง จะคุ้มค่าแน่นอน เพราะความทนทาน ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อย