มูลค่าใช้ 'คลาวด์' ในไทยสะพัด 5.4 หมื่นล. ‘เงินเฟ้อ’กระทบยอดใช้งาน

มูลค่าใช้ 'คลาวด์' ในไทยสะพัด 5.4 หมื่นล. ‘เงินเฟ้อ’กระทบยอดใช้งาน

การ์ทเนอร์ คาดการณ์มูลค่าใช้จ่ายบริการคลาวด์สาธารณะของผู้ใช้ทั่วโลกปี2566โตพุ่งแตะ600พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คาดไทยปีนี้ใช้จ่ายคลาวด์สะพัดกว่า 4 หมื่นล้านบาท คาดปี 66 โตอีก 30% ทะลุ 5.4 หมื่นล้านบาท การ์ทเนอร์ระบุ แรงกดดันเงินเฟ้อ กระทบต่อยอดการใช้คลาวด์

การ์ทเนอร์ อิงค์ คาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายบริการคลาวด์สาธารณะของผู้ใช้ทั่วโลกในปี 2566 จะเติบโตเพิ่มขึ้น 20.7% คิดเป็นมูลค่า 591.8 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มจาก 490.3 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2565 และเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 18.8%

ขณะที่ คาดการณ์ในประเทศไทย ปี 2566 มูลค่าการใช้จ่ายบริการคลาวด์สาธารณะจะโตขึ้น 31.8% หรือ 54.4 พันล้านบาท จาก 41.3 พันล้านบาท ในปี 2565 โดยปี 2566 บริการ Infrastructure-as-a-service (IaaS) จะเป็นหมวดที่มียอดการใช้จ่ายโตมากสูงสุดที่ 41.9% และทุกหมวดบริการจะโตในระดับเลขสองหลัก

“ซิด ณาก” รองประธานฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ กล่าวว่า แรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันและสภาพเศรษฐกิจระดับมหภาคกำลังส่งผลกระทบต่อยอดการใช้จ่ายคลาวด์ โดยระบบคลาวด์คอมพิวติ้งยังคงเป็นปราการหลักด้านความปลอดภัยและการสร้างสรรค์นวัตกรรม ที่สามารถรองรับการเติบโตในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน เนื่องจากมีความคล่องตัว ยืดหยุ่น และปรับขนาดได้

“องค์กรยังใช้จ่ายได้เท่าที่มีงบประมาณอยู่เท่านั้น ซึ่งการใช้จ่ายบนคลาวด์อาจลดลงถ้างบประมาณรวมของไอทีปรับลดลง เนื่องจากคลาวด์ยังเป็นการใช้จ่ายด้านไอทีกลุ่มใหญ่ที่สุดและเป็นไปตามสัดส่วนของงบประมาณ”

มูลค่าใช้ \'คลาวด์\' ในไทยสะพัด 5.4 หมื่นล. ‘เงินเฟ้อ’กระทบยอดใช้งาน

การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าบริการ IaaS จะเป็นหมวดการใช้จ่ายคลาวด์ของผู้ใช้ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 29.8% ในปี 2566 และในปีหน้าการใช้จ่ายคลาวด์ในทุกหมวดจะโตขึ้น

“ธุรกิจเดินหน้าเปลี่ยนไปใช้ระบบคลาวด์กันอย่างต่อเนื่อง โดยบริการ IaaS จะโตต่อเป็นปกติ ตามที่องค์กรกำลังเร่งปรับปรุงระบบไอทีให้มีความทันสมัย สำหรับลดความเสี่ยงและลดต้นทุนให้เหมาะสม ซึ่งการย้ายระบบไปยังคลาวด์ยังช่วยลดรายจ่ายด้านการลงทุนระยะยาว โดยสามารถทยอยจ่ายเงินสดตามรูปแบบการสมัครใช้ นับว่าเป็นประโยชน์สำคัญท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เงินสดมีความสำคัญต่อการรักษาการดำเนินธุรกิจ

การ์ทเนอร์ยังคาดการณ์ด้วยว่าบริการ Platform-as-a-service หรือ PaaS และบริการ Software-as-a-service หรือ SaaS จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากภาวะเงินเฟ้อ เนื่องมาจากความท้าทายด้านพนักงานและการมุ่งเน้นไปที่การปกป้องผลกำไรขององค์กร อย่างไรก็ตามการ์ทเนอร์คาดว่าทั้ง 2 หมวดนี้จะยังเติบโตต่อเนื่องในปี 2566 โดยบริการ PaaS จะเติบโตที่ 23.2% ขณะที่บริการ SaaS เติบโตที่ 16.8%

“ค่าจ้างที่สูงขึ้นและบุคลากรที่มีทักษะมากขึ้นมีความจำเป็นกับการพัฒนาแอปพลิเคชัน SaaS ให้ทันสมัย ดังนั้นองค์กรจะเผชิญกับความท้าทายด้านการจ้างงานที่ลดลงเพื่อควบคุมต้นทุน แต่บริการ PaaS สามารถสร้างโค้ดอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อใช้ในแอปพลิเคชัน SaaS ได้ ดังนั้นอัตราการใช้บริการ PaaS จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”

การ์ทเนอร์ มองว่า แม้จะมีการเติบโต ความสามารถทำกำไร และแรงกดดันการแข่งขัน แต่การใช้จ่ายกับคลาวด์จะยังมีอยู่ต่อไป ตราบเท่าที่มีการใช้งานคลาวด์ เมื่อแอปพลิเคชั่นและปริมาณเวิร์คโหลดย้ายไปยังระบบคลาวด์ ที่โดยทั่วไปแล้วจะคงอยู่ที่นั่น รูปแบบการสมัครใช้คลาวด์แบบสมาชิกจะทำให้ธุรกิจเกิดการใช้จ่ายตลอดระยะเวลาสัญญา และยังมีแนวโน้มสูงเพิ่มขึ้น การใช้จ่ายบนคลาวด์ถือเป็นรายได้รายปี เสมือนของขวัญที่มอบให้อย่างต่อเนื่องแก่ผู้จัดจำหน่ายคลาวด์