8 ทักษะที่หุ่นยนต์ ไม่สามารถทำแทนคนได้

8 ทักษะที่หุ่นยนต์ ไม่สามารถทำแทนคนได้

หลายคนมักจะพูดว่าในอนาคตคนจะตกงานและหุ่นยนต์จะเข้ามาทำงานแทนที่คน แต่แท้จริงแล้วคนคงยังต้องทำงานอยู่ เพราะงานหลายๆ อย่างหุ่นยนต์ไม่สามารถทำแทนได้

ปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ เก่งขึ้นเรื่อยๆ และทำงานบางอย่างได้ดีกว่าคน ที่ผ่านมาเราเห็นระบบเอไอสามารถเล่นหมากล้อมชนะแชมป์โลก หุ่นยนต์เอไอสามารถทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี ระบบเอไอสามารถจดจำใบหน้าได้ดีกว่าคน หรือแม้แต่รถยนต์ไร้คนขับที่ใช้ระบบเอไอก็สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี

หลายคนมักจะพูดว่าในอนาคตคนจะตกงานและหุ่นยนต์จะเข้ามาทำงานแทนที่คน แต่แท้จริงแล้วคนคงยังต้องทำงานอยู่ เพราะงานหลายๆ อย่างหุ่นยนต์ไม่สามารถทำแทนได้ เพียงแต่คนอาจต้องปรับทักษะบางอย่างแล้วไปทำงานในสิ่งที่หุ่นยนต์ไม่สามารถเข้ามาทำงานแทนที่ได้

รายงานของเวิล์ดอีโคโนมิคฟอรัมเมื่อปี 2563 คาดการณ์ว่า จะมีตำแหน่งงานทั่วโลกมากกว่า 85 ล้านตำแหน่ง ที่จะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติในอีก 5 ข้างปีหน้า แต่ในรายงานก็ระบุว่าจะมีทักษะงานใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจำนวน 97 ล้านตำแหน่ง เพราะเกิดการเปลี่ยนของเทคโนโลยีที่มีการนำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเข้ามาทำงาน

ถ้าดูจากข้อมูลที่คาดการณ์เหล่านี้จะเห็นได้ว่า คนคงยังไม่ตกงานเพราะหุ่นยนต์หรือระบบเอไอ แต่สิ่งสำคัญเราจะต้องปรับทักษะการทำงานและเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ เพื่อให้สามารถทำงานได้ในอนาคต

เทคโนโลยีเอไอจะโดดเด่นในเรื่องของการมองเห็นของเครื่องจักร (Machine Learning) การจดจำเสียงพูด (Speech Recognition) การประมวลผลภาษา (Natural Language Processing) และมีความสามารถในด้านการคำนวณและการจดจำได้ดีกว่ามนุษย์ ดังนั้นในงานประจำที่ทำซ้ำๆ งานคำนวณต่างๆ งานที่ต้องใช้ความจำ หุ่นยนต์และระบบอัตโนโมติจะทำได้ดีกว่าคน

เพราะอย่างไรก็ตามเราคงไม่สามารถคิดเลขได้เร็วและถูกต้องเท่ากับระบบเอไอ คงไม่สามารถจะจดจำข้อมูลต่างๆ ได้ดีเท่าระบบเอไอ ไม่สามารถทำงานในโรงงานได้ดีเท่ากับเครื่องจักรหรือหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานได้ตลอดเวลาด้วยความแม่นยำ เราอาจไม่สามารถกรอกข้อมูลต่างๆ ได้ดีเท่ากับระบบอัตโนมัติ หรือในอนาคตก็อาจไม่สามารถขับรถยนต์ในเส้นทางประจำได้ดีเท่ากับระบบเอไอของรถยนต์ไร้คนขับ

แต่มีหลายอย่างที่หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติจะไม่สามารถมาแทนที่คนได้ โดยเฉพาะทักษะด้าน "Soft Skill" เพราะหุ่นยนต์ถูกโปรแกรมมาให้เรียนรู้และฉลาดขึ้นจากข้อมูลที่เป็นระบบ จึงทำงานด้วยความเที่ยงตรง ถูกต้อง แม่นยำ แต่จะขาดความฉลาดทางอารมณ์จิตวิญญาณ ความเข้าอกเห็นใจ และการทำงานร่วมกัน ดังนั้นทักษะที่เราควรมีในการทำงานยุคอุตสาหกรรม 4.0 มีดังนี้

1. การคิดอย่างมีวิจารณญาณ (Critical Thinking) ในปัจจุบัน เรามีข้อมูลอยู่ในโลกดิจิทัลจำนวนมาก ทั้งข้อมูลจริงและข้อมูลเท็จ แต่การกลั่นกรองข้อมูลเหล่านี้และรู้จักการนำข้อมูลมาใช้ ที่เป็นมากกว่าการจดจำข้อมูลคือสิ่งที่หุ่นยนต์ไม่สามารถทำได้ดีเท่า ดังนั้นทักษะที่สำคัญที่เราควรจะต้องมีในการทำงานในอนาคตอย่างแรกคือ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ

2. การตัดสินใจและแก้ปัญหาที่ซับซ้อน แม้ระบบเอไอจะช่วยให้เราสามารถประมวลข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายในบางเรื่องคงต้องขึ้นอยู่กับคน เพราะบางครั้งเราสามารถที่จะคาดการณ์ผลกระทบในเรื่องต่างๆ ในอนาคตได้ดีกว่า

3. ความฉลาดทางอารมณ์และความเข้าอกเข้าใจ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติไม่มีจิตวิญญาณ ทักษะการทำงานที่ต้องเข้าใจผู้อื่นจึงไม่สามารถทำได้ดีเท่าคน เช่น จะเอาระบบเอไอมาทำงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลเพื่อคัดเลือกบุคลากรเข้าทำงานโดยอัตโนมัติทั้งหมดคงไม่สามารถทำได้ หรือจะเอามาทำงานแทนผู้พิพากษาคดีความต่างๆ ก็คงยังไม่เหมาะสม

4. ความคิดสร้างสรรค์ แม้ในปัจจุบันจะมีการระบุว่าเอไอสามารถวาดภาพเองได้ แต่งเพลงได้ แต่เชื่อว่าไม่สามารถมีความคิดสร้างสรรได้ดีเท่าคน ดังนั้นเราจำเป็นต้องฝึกทักษะให้สามารถนำความคิดสร้างสรรออกมาให้ได้ เพื่อทำในสิ่งที่หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติไม่สามารถทำงานได้

5. การทำงานร่วมกันกับผู้อื่น หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติโดยมากจะออกแบบมาให้ทำงานตามลำพัง หรือรับผิดชอบงานเฉพาะด้าน การทำงานกับเพื่อนร่วมงาน การเข้าใจผู้อื่นในการทำงาน การสื่อสารต่างๆ ไม่สามารถทำได้ดีเท่า

6. ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว หุ่นยนต์ถูกออกแบบมาให้ทำงานเฉพาะด้าน ขาดความยืดหยุ่น และไม่สามารถปรับตัวทำงานในด้านใหม่ๆ ได้ดีเท่ามนุษย์ ยิ่งในการทำงานปัจจุบันองค์กรต่างๆจะเน้นเรื่องของความว่องไวและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทักษะเช่นนี้ระบบเอไอไม่สามารถสู้คนได้

7. ความตระหนักด้านจริยธรรม หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติไม่มีในเรื่องนี้ สิ่งนี้ทำให้คนเราแตกต่างๆ กับหุ่นยนต์ที่สามารถแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้

8. ความเป็นผู้นำ ทักษะที่คนมีความโดดเด่นอีกด้านคือ การเป็นผู้นำ ซึ่งหุ่นยนต์ไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานแบบนี้ ดังนั้นคนที่มีทักษะความเป็นผู้นำที่ดีก็ยังเป็นที่ต้องการขององค์กรต่างๆ เสมอ

จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่ามีทักษะหลายด้านที่หุ่นยนต์ไม่สามารถทำแทนที่คนได้ ดังนั้นถ้าเราจะทำงานในอนาคตข้างหน้าเราจึงต้องเร่งพัฒนาทักษะเหล่านั้นที่ไม่ใช่ทักษะที่หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติทำได้ดีกว่าเรา