ส่อง ‘นวัตกรรมแมวๆ’ เลือกใช้อย่างไรให้ ‘ปลอดภัย’ แก่เจ้าเหมียว

ส่อง ‘นวัตกรรมแมวๆ’ เลือกใช้อย่างไรให้ ‘ปลอดภัย’ แก่เจ้าเหมียว

เทรนด์ “คนรุ่นใหม่ นิยมเลี้ยงแมวมากกว่ามีลูก” การเงินไม่พร้อม สภาพแวดล้อมไม่เอื้อ แล้ว “เหล่าทาส” จะเลือกของใช้อย่างไรให้ปลอดภัยแก่เจ้าเหมียว?

จากบทความ ทำไมคนรุ่นใหม่นิยมเลี้ยง “สัตว์” แทนมี “ลูก” ที่เขียนโดย จารุจรรย์ ลาภพานิช กล่าวถึง เทรนด์ของการสร้างขอบครัวสมัยใหม่ ไม่นิยมการเลี้ยงเด็ก เนื่องจากการเลี้ยงเด็ก 1 คนต้องมีเงิน 3,000 - 20,000 บาทต่อเดือน ในขณะที่การเลี้ยงแมว 1 ตัว จะอยู่ที่ 350 - 2,600 บาทต่อเดือน 

รวมไปถึงสภาพแวดล้อมทางสังคมและเศรษฐกิจของไทยเองอาจจะไม่ได้เอื้ออำนวยมากนัก เนื่องด้วยสวัสดิการ ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา หรือการใช้ชีวิตในเมืองที่ไม่ปลอดภัย หลาย ๆ คนจึงเปลี่ยนมาเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น สุนัข แมว หนูแฮมเตอร์ นกแก้ว หรือแม้กระทั่งปลาทอง เพราะยังสามารถควบคุมสัตว์เลี้ยงให้อยู่อย่างเป็นสุขได้

ผู้ที่เลี้ยงรักสัตว์ของตนเองไม่ต่างลูกแท้ ๆ คนหนึ่ง พ่อแม่ผู้ปกครองของสัตว์ตัวนั้น หรือที่เรียกว่า ‘เจ้านาย’ และ ‘ทาส’ จะคอยทุ่มเทเอาใจใส่สัตว์เลี้ยง ทั้งการใช้ชีวิต การกินและดูแลสุขภาพ ไม่ต่างจากการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโตอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี

ส่อง ‘นวัตกรรมแมวๆ’ เลือกใช้อย่างไรให้ ‘ปลอดภัย’ แก่เจ้าเหมียว

ภาพจาก: my-best

ขณะเดียวกัน ภาพรวมตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงของโลกในปี 2564 มีมูลค่า 1.1 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีมูลค่า 8.6 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 8% ต่อปี และคาดการณ์ว่า แนวโน้มตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงของโลกในปี 2572 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 1.6 แสนล้านดอลลาร์ เติบโตเฉลี่ย 5.03% 

ทั้งนี้ กองทุนเพื่อสวัสดิการสัตว์ระหว่างประเทศ (IFAW) เปิดเผยอีกว่า ประเทศไทยนิยมเลี้ยง “แมว” ร้อยละ 33 จัดลำดับอยู่ที่ 8 ของโลก นั่นหมายความว่า ตลาดของใช้สำหรับแมว อาหาร อุปกรณ์ IOT ต่าง ๆ รวมไปถึงนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสาน ยกตัวอย่างเช่น ห้องน้ำแมวอัจฉริยะ ตู้เป่าขนแมวอัจฉริยะ น้ำพุแมว ปลอกคออัจฉริยะที่ช่วยวัดค่าต่าง ๆ ในร่างกายที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเก็บข้อมูลและประมวลผล ตลอดจนหุ่นยนต์ช่วยเลี้ยงแมว ยังมีโอกาสเติบโตทางการตลาด

ทว่า ขณะเดียวกันก็มีเรื่องน่าสลดใจ เมื่อเกิดเหตุการณ์น้องแมวรับประทานทรายแมว ทำให้เกิดโรคที่ตามมา หรือแม้กระทั่งการใช้ห้องน้ำแมวที่ไม่ได้ออกแบบให้ได้มาตรฐาน ทำให้แมวไปติดอยู่ตรงบริเวณกระบะและออกมาไม่ได้ อาจจะส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บถึงขั้นรุนแรง 

ทางกรุงเทพธุรกิจจึงสรุปข้อเท็จจริงของ “นวัตกรรมสำหรับทาสแมว” ที่ช่วยให้เจ้านาย “เลือกของใช้อย่างปลอดภัยแก่เจ้าเหมียว” เพื่อความอยู่ดี กินดีของทุกสิ่งมีชีวิตในบ้าน 

ส่อง ‘นวัตกรรมแมวๆ’ เลือกใช้อย่างไรให้ ‘ปลอดภัย’ แก่เจ้าเหมียว

  • ทรายแมวออแกนิค 

ปัจจุบันมีทรายแมวให้เลือกหลายประเภท เช่น ทรายแมวคริสตัล ทรายแมวภูเขาไฟ ทรายแมวเต้าหู้ โดยทรายแมวเต้าหู้เป็นอีกหนึ่งชนิดซึ่งนิยมใช้งานกันเยอะมากในตอนนี้ เนื่องจากเป็นทรายที่เป็นทรายผลิตมาจากวัตถุดิบทางธรรมชาติทั้งหมด 100%  

ไม่มีส่วนผสมทางเคมี อย่างเช่น กากถั่วเหลืองหรือต้นไม้ ทำให้มีความปลอดภัยต่อแมวแม้ว่าแมวจะมีการรับประทานเข้าไปในร่างกาย ก็ไม่ส่งปัญหาใด ๆ ต่อสุขภาพ และทรายเต้าหู้ ก็มีฟังก์ชันการทำความสะอาดแสนง่าย เพียงแค่ตักใส่ชักโครกและกดน้ำลงไปเท่านั้น ไม่ต้องเสียเวลาในการหาถุงดำหรือถุงขยะมาใส่ให้เสียเวลา

นอกจากนี้ก็ยังมี “ทรายแมวจากมันสำปะหลัง” ทรายแมวแบรนด์คนไทย ในชื่อผลิตภัณฑ์ “ไฮด์แอนด์ซีค” วิจัยและพัฒนาโดย ดร.ลัญจกร อมรกิจบำรุง ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้ทุนสนับสนุนจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ในโครงการต้นแบบนักประดิษฐ์ไทย นักประดิษฐ์โลก ประจำปี 2565 

ดร.ลัญจกร อธิบายว่า การใช้มันสำปะลังก็เพราะว่า มันสำปะหลังมีคุณสมบัติที่จะเหนียวเมื่อโดนน้ำ ซึ่งตรงกับลักษณะการใช้งานของทรายแมว ที่ต้องมีคุณสมบัติในการดูดซับของเหลว และจับตัวเป็นก้อนได้เร็ว นอกจากนี้ทรายแมวจากมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบธรรมชาติที่สามารถกำจัดโดยทิ้งลงชักโครกได้เลย 

“ที่ผ่านมามีผู้สนใจมาปรึกษาอยากทำทรายแมวอยู่เยอะพอสมควร เช่น ผู้ประกอบการโรงสีข้าวซึ่งมีแกลบเหลือทิ้ง หรือแม้แต่ผู้ประกอบการที่มีเส้นใยกัญชง ซึ่งมีแกนที่ใช้ทำอะไรไม่ได้ แล้วอยากนำมาทำให้เกิดประโยชน์ ซึ่งก็มีโอกาสทำได้ แต่ต้องใช้เวลาศึกษาพัฒนาปรับปรุงสูตรต่อไปในอนาคต” 

และ ดร.ลัญจกร ยังให้ข้อมูลถึง ผลิตภัณฑ์ตัวต่อไปที่จะพัฒนาขึ้นมา นั่นคือ ผลิตภัณฑ์ทรายแมวที่สามารถบ่งชี้สุขภาพแมวได้ในเบื้องต้น โดยเรากำลังวางแผนต่อยอดผลิตภัณฑ์ทรายแมวที่สามารถช่วยเฝ้าระวังโรคของแมวได้ เพื่อให้เจ้าของสามารถเห็นความผิดปกติของสุขภาพแมวตั้งแต่ระยะแรก ๆ ก่อนจะป่วยหนัก จะได้พาน้องแมวไปรับการรักษาได้ทันท่วงที

  • ห้องน้ำแมวอัตโนมัติ 

ห้องน้ำแมวอัตโนมัติ หรือ ห้องน้ำแมวอัจฉริยะ มีคุณสมบัติแยกทรายแมวออกจากของเสียโดยอัตโนมัติ เจ้าของไม่จำเป็นจะต้องแยกทรายด้วยตัวเองให้เสียเวลา และยังมีฟังก์ชันต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การกำจัดกลิ่น แจ้งปริมาณทรายในห้องน้ำ การประเมินการขับถ่าย หรือสุขภาพของน้องแมว 

อีกทั้งยังสามารถสั่งการผ่านมือถือ ถึงแม้ว่าเจ้าของจะไม่อยู่บ้าน เครื่องก็จะจัดการของเสียได้เองทั้งหมด เมื่อกลับมาบ้านก็ดึงถังบรรจุของเสียไปทิ้ง รวมถึงมีระบบฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียด้วยแสง UVC 

ขณะเดียวกันวิธีการเลือกห้องน้ำแมวก็สำคัญ ควรการเลือกขนาดที่ใหญ่กว่าแมว โดยให้แมวสามารถขยับตัวได้อย่างสะดวกระหว่างการขับถ่าย ควรกำจัดกลิ่นได้ดี มีเสียงที่เบาไม่รบกวนคนในบ้านหรือไม่ทำให้แมวตกใจ นอกจากนี้ก็ควรที่จะเลือกห้องน้ำแมวอัตโนมัติที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันได้ 

การเชื่อมต่อกับแอป ทำให้เราสามารถสั่งการห้องน้ำแมวโดยที่ไม่ต้องเสียแรงไปกดคำสั่งที่ตัวเครื่อง โดยส่วนใหญ่แล้วแอปพลิเคชันยังบอกข้อมูลสำคัญได้หลายอย่าง เช่น จำนวนทรายภายในห้องน้ำ ความสะอาดภายในห้องน้ำ โหมดกำจัดกลิ่น หรือที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ บางรุ่นสามารถวัดน้ำหนักของแมวได้อีกด้วย

  • น้ำพุแมว

ธรรมชาติของแมวมักสนใจกับอะไรที่เคลื่อนไหวและเมื่อเห็นน้ำไหลอย่างน้ำพุ น้องแมวจะสนใจมากขึ้น ทำให้ช่วยกระตุ้นให้สัตว์เลี้ยงอยากดื่นน้ำกว่าปกติ และยังสามารถสร้างน้ำวนและกรอกน้ำในตัว ช่วยสร้างออกซิเจนในน้ำ กำจัดกลิ่น ช่วยกรองตะกอน ตะไคร่ ลูกน้ำยุง ทำให้น้ำดื่มสะอาดตลอดเวลา แม้ไม่ได้เปลี่ยนหลายวัน 

นอกจากนี้ ยังช่วยให้น้องแมวที่ไม่ค่อยชอบกินน้ำ ดื่มน้ำมากขึ้น ทำให้สุขภาพแข็งแรง ลดความเสี่ยงการเป็นโรคไต และโรคทางเดินปัสสาวะได้ ฟังก์ชันของน้ำพุแมวในปัจจุบันมีทั้งระบบมีสาย และระบบไร้สาย ซึ่งสามารถสั่งการผ่านได้ทางแอปพลิเคชัน มีการแจ้งเตือนปริมาณ และระยะเวลาในการกินน้ำของแมวแต่ละตัว และสามารถระบุได้ด้วยว่าแมวตัวไหนที่มากินน้ำด้วยเทคโนโลยี RFID Tag (Radio Frequency Identification) 

เทคโนโลยีในการระบุตัวตนแบบเฉพาะเจาะจงด้วยคลื่นวิทยุ โดยมาพร้อมแอปพลิเคชันสั่งการใช้งานและสามารถดูข้อมูลการขับถ่ายของแมวได้มากกว่า 1 ตัว ซึ่งจะมีระบบเก็บข้อมูลเป็นชั่วโมง รายวัน หรือรายเดือนให้เลือก เพื่อให้ทาสได้ติดตามสุขภาพแมวอย่างใกล้ชิด

ส่อง ‘นวัตกรรมแมวๆ’ เลือกใช้อย่างไรให้ ‘ปลอดภัย’ แก่เจ้าเหมียว

  • หุ่นยนต์พี่เลี้ยงแมว

ตลาดในปัจจุบันมีหุ่นยนต์พี่เลี้ยแมวออกมาหลายรุ่น เพื่อช่วยทำให้แมวไม่เหงา และสามารถติดตามดูแมวในขณะที่เราออกไปข้างนอก และบางรุ่นก็สามารถให้อาหารหรือขนมแมวได้ด้วย จึงจะขอยกตัวอย่าง “Ebo” หุ่นยนต์พี่เลี้ยงแมวรูปทรงกลมขนาดเล็กเคลื่อนไหวด้วยล้อเล็ก ๆ ด้านหลังมีขนนกไว้ดึงความสนใจจากแมว มีกล้องติดด้านหน้าเพื่อบันทึกภาพและวีดีโอรายงานแบบเรียลไทม์ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟนเพื่อสั่งการต่าง ๆ ได้ผ่านแอปพลิเคชัน

  • ปลอกคออัจฉริยะ

ปลอกคออัจฉริยะจะช่วยเรื่องการระบุตำแหน่งที่อยู่ของแมว ในกรณีที่น้องแมวหลงไปในที่ต่าง ๆ สามารถเช็กดูได้ด้วยว่าแมวของเราไปบริเวณไหนมาบ้างจากกล้องจิ๋วที่ติดอยู่กับปลอกคอแมว 

นอกจากนี้ก็ยังสามารถตรวจจับอารมณ์ด้วยเทคโนโลยีจดจำเสียง ที่ช่วยบอกเจ้าของผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนได้ว่า น้องแมวมีความสุข ผ่อนคลาย วิตกกังวล โกรธ หรือเศร้า ซึ่งช่วยให้เข้าใจสัตว์เลี้ยงได้มากขึ้น

  • แชทบอทดูแลน้องแมว

จากสถานการณ์โควิด 19 ทำให้การเข้าถึงโรงพยาบาลทั้งคนและสัตว์ในช่วงแรกนั้นเป็นไปได้ยาก จึงเริ่มเกิด “โรงพยาบาลที่บ้าน” ขึ้นมา ด้วยการพบหมอออนไลน์หรือใช้แอปพลิเคชั่นแชทบอท ทำให้การไปโรงพยาบาลนั่นง่ายขึ้น และยังช่วยลดภาระงานของเจ้าหน้าที่

โดยแพลตฟอร์ม “MyFriend” เกิดขึ้นจากการพัฒนาร่วมกันระหว่างบริษัทกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CUVET) ในเบื้องต้นได้เปิดบริการ 4 ฟีเจอร์แรก ประกอบด้วย Healthcare จัดเก็บข้อมูลทางการแพทย์ การฉีดวัคซีน การรับยา Insurance บริการการทำประกันสัตว์เลี้ยง การเลือกซื้ออาหาร และของใช้ที่คัดเลือกมาสำหรับสัตว์เลี้ยง และฟีเจอร์ Magazine แหล่งรวมความบันเทิงและสาระที่เชื่อถือได้ผ่านบทสัมภาษณ์ สาระน่ารู้ เคล็ดลับ สูตรอาหารสุขภาพ และคำแนะนำจากสัตวแพทย์

สัตวแพทย์หญิงนวพร ชวนปรีชา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ปัจจุบันนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีในการรักษาสัตว์ หลายคนเข้าใจว่าคือ การพัฒนาอุปกรณ์ขึ้นมาเพียงอย่างเดียว แต่แท้จริงแล้วนวัตกรรมไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะรวมไปถึงเรื่องของความรู้ใหม่ และเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสัตว์ 

เช่นเดียวกับการพัฒนายามากมายที่มีความทันสมัย เหมาะสมกับโลกในยุคปัจจุบัน โดยนวัตกรรมเหล่านี้หากนำมาร่วมกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยแล้วจะช่วยส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีในการรักษาโรคของสัตว์ได้มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย

นี่เป็นบางส่วนของกลุ่มนวัตกรรมสำหรับแมว ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์มากขึ้น ไม่เพียงแค่น้องแมวเท่านั้น แต่ยังมีสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ใน Petaverse ที่รอการรับเลี้ยงด้วยความเอาใจใส่จากเจ้าของ การใช้เทคโนโลยีบางอย่างสามารถทำให้ใกล้ชิดสัตว์เลี้ยงของตนเองมากยิ่งขึ้น ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความรักความผูกพันในครอบครัว

 

ข้อมูลอ้างอิง: salika.co , thansettakij , tnn