รู้จัก “The Wall” สุดยอดจอยักษ์ราคาหลักล้านของ "Samsung"

หนึ่งในไฮไลท์ของงาน Samsung Display Tech Summit 2022 ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย คือ การเปิดตัว Samsung The Wall สุดยอดของจอทั้งเทคโนโลยี คุณภาพ และราคา

ความสุดยอดของจอ The Wall มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2018 ที่ Samsung ได้เปิดตัว The Wall จอภาพ Micro LED แบบโมดูลาร์ ขนาด 146 นิ้วรุ่นแรกของโลก ซึ่งนับตั้งแต่นั้นจนถึงปัจจุบันเทคโนโลยี Micro LED ยังถือเป็นจุดสูงสุดของเทคโนโลยีการแสดงผลของหน้าจอ

คุณสมบัติของ "The Wall" ยุคแรกได้มอบประสบการณ์การรับชมไม่ว่าจะเพื่อความบันเทิงและเพื่อการใช้งานอื่นๆ ได้ด้วยความละเอียดสูง จนกระทั่งล่าสุด ซัมซุง ได้เปิดตัวจอ The Wall รุ่นใหม่ ที่พัฒนาจนตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชื่อ The Wall รุ่น All-in-One

The Wall All-in-One แบ่งออกเป็นสองซีรีส์ย่อย คือ IAB กับ IWB แตกต่างกันพอสมควร

หากใครพอจะรู้จักจอ Micro LED จะทราบดีว่าการติดตั้งต้องใช้เวลายาวนานมากและต้องใช้จำนวนช่างติดตั้งหลายคน แต่ "The Wall All-in-One" ซีรีส์ IAB ได้รับการออกแบบมาให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ด้วยการติดตั้งที่รวดเร็วขึ้นเพียง 2 ชั่วโมง ใช้ช่างเพียง 2 คน เนื่องจากจอรุ่นนี้มีกรอบประกอบสำเร็จมาแล้ว รวมทั้งกล่อง S-box สำหรับควบคุมสื่อที่ประกอบสำเร็จมาจากโรงงาน

นอกจากเรื่องการประกอบ ความสามารถของจอ "The Wall" ซีรีส์นี้ คือแสดงผลหน้าจอด้วยพิกเซลขนาดเพียง 0.84 บนความบางของจอเพียง 49 มิลลิเมตร มีให้เลือก 3 ขนาดและความละเอียด ได้แก่ ขนาด 146 นิ้ว ความละเอียด 4K, ขนาด 146 นิ้ว ความละเอียด 2K และขนาด 110 นิ้ว ความละเอียด 2K

ส่วน "The Wall All-in-One" ซีรีส์ IWB เหนือชั้นขึ้นไปอีกด้วยการแสดงผลหน้าจอด้วยพิกเซลขนาดเพียง 0.63 และ 0.94 โดยรุ่นที่มีพิกเซลพิทช์ 0.63 ถือเป็นพิกเซลพิทช์ที่บางที่สุดตั้งแต่ "The Wall" เคยมีมา จึงได้ความละเอียดภาพสูงที่สุด แล้วยังมี Dynamic Range กว้างที่สุดในบรรดาจอภาพของซัมซุงด้วย

จอรุ่นนี้มีเฟรมเรท 120Hz รองรับ HDR 10/10+ และรองรับ LED HDR ด้วย เรียกได้ว่ามีเทคโนโลยีอะไรเป็นที่สุดก็ใส่มาให้หมดในจอรุ่นนี้ ซึ่งมีให้เลือกหลายขนาดและความละเอียดตั้งแต่ขนาด 110 นิ้ว ความละเอียด 4K ไปจนถึงขนาด 220 นิ้ว ความละเอียด 8K เลยทีเดียว

แม้จะแบ่งย่อยเป็นหลายรุ่นหลายขนาด แต่ "The Wall" ทุกรุ่น เต็มไปด้วยเทคโนโลยี เช่น เทคโนโลยี Black Seal ช่วยให้การแสดงผลสีดำทำได้ดำสนิท และมีมิติของสีมากขึ้น, เทคโนโลยี Ultra Chroma Technology ที่ใช้ช่วงคลื่นที่สั้นลงเพื่อแสดงผลสีแบบ RGB ที่บริสุทธิ์มากกว่าเดิม 2 เท่าเมื่อเทียบกับป้าย LED ทั่วไปของซัมซุง

เทคโนโลยี ประมวลผลภาพแบบ 20bit ที่แสดงผลความคอนทราสต์ได้อย่างกลมกลืนเป็นธรรมชาติ  และเทคโนโลยี Micro AI Processor เพิ่มคอนทราสต์ให้ภาพและลดนอยซ์ในภาพแบบเรียลไทม์ เป็นต้น

สำหรับราคาของ The Wall IAB แต่ละรุ่นดังนี้

The Wall IAB ขนาด 110 นิ้ว ความละเอียด 2K ราคา 6 ล้านบาท

The Wall IAB ขนาด 146 นิ้ว ความละเอียด 2K ราคา 7 ล้านบาท

The Wall IAB ขนาด 146 นิ้ว ความละเอียด 4K ราคา 8.9 ล้านบาท

The Wall All-in-One ทุกซีรีส์ทาง Samsung จะเปิดจำหน่ายให้กับเฉพาะลูกค้าแบบองค์กรเท่านั้น ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ Samsung Thailand