TikTok เผย ‘ช้อปเปอร์เทนเมนท์’ ขุมทรัพย์ 1 ล้านล้านดอลลาร์

TikTok เผย ‘ช้อปเปอร์เทนเมนท์’ ขุมทรัพย์ 1 ล้านล้านดอลลาร์

TikTok และ บีซีจี (Boston Consulting Group) เผยผลการวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับเทรนด์ในตลาดเอเชีย-แปซิฟิก “Shoppertainment: APAC's Trillion-Dollar Opportunity" ว่า ช้อปเปอร์เทนเมนท์จะสร้างมูลค่าราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ให้กับแบรนด์ต่างๆ ภายในปี 2568

ช้อปเปอร์เทนเมนท์ (Shoppertainment) หรือ เทรนด์การจับจ่ายซื้อของผ่านการรับชมคอนเทนต์ที่มอบความบันเทิงให้แก่นักช็อปกำลังกลายเป็นโอกาสที่สำคัญและน่าจับตามองสำหรับแบรนด์และนักการตลาด

TikTok และ บีซีจี (Boston Consulting Group) เผยผลการวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับเทรนด์ในตลาดเอเชีย-แปซิฟิก “Shoppertainment: APAC's Trillion-Dollar Opportunity" ว่า ช้อปเปอร์เทนเมนท์จะสร้างมูลค่าราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ให้กับแบรนด์ต่างๆ ภายในปี 2568
 

สิรินิธิ์ วิรยศิริ หัวหน้าฝ่ายการตลาดธุรกิจ TikTok ประเทศไทย กล่าวว่า เทคโนโลยีได้สร้างทางเลือกมหาศาล จนผู้บริโภคกระหายที่จะแสวงหาการค้นพบใหม่ๆ ขณะเดียวกันนับเป็นการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของวงการอีคอมเมิร์ซ

ปัจจุบัน ช้อปเปอร์เทนเมนท์ถือเป็นแนวทางที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ผ่านคอนเทนต์ประเภทวีดิโอที่มีเสียงประกอบ ซึ่งหลังจากวิเคราะห์ตลาดโดยละเอียดแล้วบีซีจีคาดการณ์ว่า ตลาดช้อปเปอร์เทนเมนท์เอเชียแปซิฟิกจะเติบโตถึง 63% ต่อปี

คาด 3 ปี ตลาดไทยโต 54%

สำหรับประเทศไทย ช้อปเปอร์เทนเมนท์มีโอกาสเติบโตสูงถึง 54% และมีมูลค่าสูงขึ้นจาก 3.4 พันล้านดอลลาร์ ไปเป็น 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2568 ซึ่งจะกำหนดสูตรความสำเร็จใหม่ๆ สำหรับแบรนด์

ปัจจุบัน ตลาดแฟชั่นและเครื่องประดับ ความงามและของใช้ส่วนตัว อาหารและเครื่องดื่ม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นหมวดหมู่ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับช้อปเปอร์เทนเมนท์ในประเทศไทย โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่ง คือ 55% ของมูลค่าตลาดทั้งหมดที่คาดการณ์ไว้

โดยหมวดเหล่านี้ 40-60% ได้รับอิทธิพลการซื้อจากคอนเทนต์วีดิโอ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ชั้นนำสำหรับการเพิ่มยอดขายที่อาจเกิดขึ้น"

นอกจากนี้ หมวดหมู่ยอดนิยม 3 อันดับแรกที่เน้นด้านช้อปเปอร์เทนเมนท์ในประเทศไทย ได้แก่ แฟชั่นและเครื่องประดับ 18% รองลงมาคือความงามและของใช้ส่วนตัว 17% และอาหารและเครื่องดื่ม 13%

ดังนั้นเป็นโอกาสใหม่ๆ สำหรับแบรนด์และธุรกิจที่ควรมองหาแนวทางการลงทุนเพื่อสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเริ่มสร้างความบันเทิงให้กับผู้บริโภค ปัจจุบัน คนไทยเข้าใช้งาน TikTok โดยเฉลี่ย 12 ครั้งต่อวัน แต่ละคนใช้งานเฉลี่ย 100 นาทีต่อวัน

จุดอิ่มตัว ‘การโฆษณา’

ผลงานวิจัยพบว่า ประสบการณ์ออนไลน์ของกลุ่มผู้บริโภคถึงจุดอิ่มตัวแล้วในแง่ของการโฆษณา โดยระบุถึงปัญหาหลักบนเส้นทางการซื้อสินค้าออนไลน์ประกอบด้วย

รู้สึกเฉื่อยชาเกินกว่าจะทำการตัดสินใจซื้อ: 26% ของผู้บริโภคต้องการเวลามากขึ้นในการตัดสินใจซื้อและ 46% จะตัดสินใจซื้อในวันอื่น

มีเส้นทางการซื้อที่กระจัดกระจายจนไม่สามารถโฟกัสได้ : 89% ของผู้บริโภคจะหาข้อมูลทั้งในและนอกแพลตฟอร์มที่ตัวเองกำลังใช้อยู่ โดย 63% จำเป็นต้องได้รับชมคอนเทนต์ 3-4 ครั้งถึงจะซื้อ และ 85% ของผู้บริโภคจะท่องไปในหลายแพลตฟอร์มก่อนจะตัดสินใจซื้อจริง

มีข้อกังขาเกี่ยวกับคอนเทนต์ที่ยัดเยียดความเป็นแบรนด์มากเกินไป : 34% ของผู้บริโภคไม่ไว้วางใจเนื้อหาที่มีความเป็นแบรนด์มากเกินไปจนรู้สึกว่าถูกยัดเยียด จนตัดสินใจไม่ซื้อแบรนด์นั้นๆ

ยิ่งเข้าใจผู้บริโภค ยิ่งเพิ่มโอกาส

ข้อมูลระบุว่า การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ปัจจัยที่สำคัญหนีไม่พ้น ความต้องการใช้งาน (Functional demand spaces) โดยคิดเป็น 60% ของการซื้อขายจากผู้บริโภคทั้งหมด โดยกลุ่มนี้มักซื้อตามความเคยชิน เน้นที่สินค้าและบริการที่คุ้นเคย หรือใช้อยู่แล้วโดยไม่ได้พิจารณาถึงทางเลือกใหม่ๆ

อีกหนึ่งปัจจัย ความต้องการด้านอารมณ์ (Emotional demand spaces) คิดเป็นประมาณ 40% ของการซื้อขายทั้งหมด เกิดจากความต้องการด้านอารมณ์ของผู้บริโภค

โดยเป็นพื้นที่ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงและโอกาสให้กับแบรนด์ เพราะผู้บริโภคจะพิจารณาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่เสมอและมีแนวโน้มที่จะเปิดรับและเปลี่ยนใจไปหาแบรนด์ใหม่ได้เช่นกัน

สนุก บันเทิง แปลกใหม่

งานวิจัยเผยว่า ผู้บริโภคในเอเชีย-แปซิฟิกคาดหวังว่า แบรนด์ต่างๆ จะมอบความบันเทิงให้ก่อนที่จะเริ่มนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ กล่าวคือ มีกระบวนการสร้างการตระหนักรู้ในสินค้า กระตุ้นความต้องการและเปลี่ยนความต้องการนั้นเป็นการซื้อแบบไร้รอยต่อ

ความสนุกและความบันเทิง : 81% ของผู้บริโภคคาดหวังว่าจะเห็นคอนเทนต์ที่เน้นเล่าเรื่องและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก่อน และ 76% ของผู้บริโภคสนใจคอนเทนต์ที่เน้นภาพเคลื่อนไหวเป็นหลัก

น่าเชื่อถือและแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร : 71% ของผู้บริโภคเห็นว่าข้อมูลจริงและถูกต้องเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เนื้อหาดึงดูดน่าสนใจ

แรงบันดาลใจและอิสระในการเลือกซื้อหรือตัดสินใจ : 71% ของผู้บริโภคคาดหวังว่าแบรนด์จะไม่บังคับให้ตัดสินใจซื้อในระหว่างที่นำเนื้อหามาดึงดูดตนเอง

เทรนด์และคอมมูนิตี้ : 65% ของผู้บริโภคอยากได้คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับแบรนด์จากผู้เชี่ยวชาญในคอมมูนิตี้ออนไลน์