'SHAA ASOKE' ได้เวลาอวดลุคเท่ๆ ลักชัวรี่ บนสุดยอดทำเล CBD ย่านอโศก

'SHAA ASOKE' ได้เวลาอวดลุคเท่ๆ ลักชัวรี่ บนสุดยอดทำเล CBD ย่านอโศก

เพราะมีเป้าหมายต้องเป็น 1 ใน 5 ในใจคนที่กำลังมองหาลักชัวรี่คอนโดมีเนียม เป็นเหตุผลให้ทำเลที่ตั้งโครงการคอนโดมิเนียมของเคพีเอ็น แลนด์ต้องเป็นไพร์มโลเคชั่นเท่านั้น  ซึ่งล่าสุดเปิดตัวโครงการใหม่ชื่อ SHAA ASOKE (ฌาา อโศก) เป็นคอนโดมีเนียมสุดหรู สไตล์ Modern Craftsmanship มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,500 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 19ย่านอโศก

SHAA เป็นคอนโดมิเนียมซีรี่ย์น้องใหม่ ที่เคพีเอ็น แลนด์ต้องการสร้างความแตกต่างจากแบรนด์เดิม(The Capital และ The Diplomat)ให้เป็นเหมือนผู้ชายเท่ๆ มีความเซ็กซี่  มีเอกลักษณ์น่าค้นหา ซึ่งเทียบได้กับดาวค้างฟ้า อาทิ เดวิด เบคแฮม ,ริชาร์ด เกียร์ ,โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์  อย่างไรก็ดี ใครๆ ก็รู้ว่าอโศกถือเป็นไพร์ม โลเคชั่น หรือCBD ( Central Business District) แต่เพราะโลกนี้มีหลายสิ่งอย่างที่ขึ้นชื่อว่าเป็น  "ที่สุดของที่สุด"  จึงไม่แปลกที่จะมีไพร์มออฟเดอะไพร์มโลเคชั่น

นายระวี ธาตุนิยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคพีเอ็น แลนด์ จำกัด  กล่าวว่า  ไม่ว่าจะซอย 19 ซอย 21 ซอย 23 ต่างก็อยู่ในย่านอโศกและมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนกัน แต่ในสายตาของเคพีเอ็นแลนด์นั้นอโศกซอย 19 ถือเป็นที่สุดของไพร์มโลเคชั่น มีคุณค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับมุมอื่น ๆภายในย่านอโศก เนื่องจากบรรยากาศที่แวดล้อมมีความร่มรื่น มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน มีความปลอดภัย รวมถึงพื้นที่ตั้งของโครงการ SHAA ASOKE ก็อยู่ไม่ไกลจากบีทีเอสและเอ็มอาร์ทีสถานีอโศกนักคือมีระยะทางประมาณ 250 เมตรเท่านั้น

"เรียกว่าคนที่อาศัยถ้าจะไปทำงาน จะไปออกกำลังกาย จะไปทานข้าวจะไปชอปปิ้งก็ง่ายทั้งหมดอยากจะทานข้าว อยากจะออกกำลังกายที่สวนสาธารณะก็ไปได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วและหากคนที่รักความเป็นส่วนตัวโครงการนี้จะตอบโจทย์ได้ดี เพราะมีเพียงแค่ 143 ยูนิต"

ความโดดเด่นของ SHAA ASOKE  มีอยู่หลายองค์ประกอบ แต่อันดับแรกหนีไม่พ้น “โลเคชั่น”อย่างที่ได้กล่าวข้างต้นโครงการนี้ตั้งอยู่ในจุดที่เป็นที่สุดของที่สุดของไพร์มโลเคชั่น

"ในเรื่องของดีไซน์เราก็ให้ความสำคัญมาก  ถ้าเราจะให้ตึกนี้เป็นตัวแทนของผู้ชายเท่ ๆเซ็กซี่ มีเสน่ห์ น่าค้นหา ดีไซน์ของเราก็ต้องตอบโจทย์ออกมาแบบนั้น เริ่มจากเวลาที่คนมองเข้ามาจากข้างนอก เขาต้องรู้สึกว่าตึกนี้ดูเท่ น่าสนใจ มีเสน่ห์ และน่าค้นหา  ด้านหน้าตึกหรือ facade ของเราจะเป็นลักษณะของแท่งแก้วหรือพริซึ่มที่สูงไปจนถึงชั้นที่2 ซึ่งจะเกิดการสะท้อนแสงที่สวยงาม มองเห็นเป็นหลายมิติ ช่วงเวลากลางวันและกลางคืนก็แตกต่างกันไป"

จากภายนอกสู่ภายในห้อง การดีไซน์ก็ต้องอาศัยความละเอียดอ่อนไม่แพ้กัน  โดยห้องนอนและห้องนั่งเล่นทุก ๆห้องของ SHAA ASOKE ต้องอยู่ติดกับกระจกและตัวหน้าต่างที่ถูกดีไซน์ให้มีความสูงถึง 2.60 เมตร ให้สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้แบบโล่งโปร่ง

อุปกรณ์ต่างๆ ในโครงการจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมเกรดทั้งสิ้น เช่น ห้องน้ำที่เลือกใช้ดีไซน์ของ Axor แบรนด์คุณภาพพรีเมี่ยมมาตรฐานเยอรมนี ทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์เป็นสีเรดโกลด์ ซึ่งเป็นสีพิเศษของ Axor ที่นำเข้ามาใช้ที่ SHAA ASOKE เป็นที่แรกในเมืองไทยอีกด้วย

"เราบิวด์อินครัวให้ด้วย และดีไซน์ให้เป็นพิเศษ ตัวอุปกรณ์ที่ใช้ในครัวทั้งหมดจะเป็นระดับไฮเอ็นทั้งหมด ถ้าลูกค้าไปจัดหาเองคงใช้เงินไม่ต่ำกว่า 3-4 แสนบาท หรือถ้าทำห้องน้ำเองก็น่าจะใช้เงินประมาณ 4 แสนบาทสำหรับ 1 ห้องนอนและประมาณ 7 แสนบาทต่อห้องถ้าเป็น 2 ห้องนอน"

เรื่องสุดท้าย คือมูลค่าของตัวตึกที่เพิ่มสูงขึ้นตลอด แม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปีก็ตาม และเมื่อมีการส่งต่อไปให้คนอื่นๆ หรือลูกหลาน คนที่ได้รับมรดกตกทอดจะรู้สึกว่าเป็นสุดยอดของความโชคดี เพราะยิ่งนานวันการหาซื้อที่อยู่ในทำเลที่เป็นไพร์มโลเคชั่นก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น

ในนเวลานี้ SHAA ASOKE เปิดลงทะเบียนและเริ่มขายห้องสำหรับลูกค้าวีไอพี หรือลูกค้ารายเดิมให้ได้รับสิทธิ์เลือกซื้อห้องบางชั้นที่โครงการเปิดขายให้ก่อนและจะเปิดพรีเซลล์ 25-27 เดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนการก่อสร้างอยู่ในช่วงประมาณปลายปีซึ่งในเวลานี้กำลังอยู่ในกระบวนการขออีไอเอ

"เนื่องจากห้องเรามีไม่มาก และเราเองเป็นคู่ค้ากับทางเคปเปล แลนด์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากประเทศสิงคโปร์ เราจึงวางแผนจะขายโครงการในเมืองไทย 70% และจะขายตลาดต่างประเทศ 30% ผมมองว่าด้วยโลเคชั่นของโครงการที่เป็นไพร์ม และให้ความใส่ใจในเรื่องของการดีไซน์มากเลยคาดว่าคงใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือน ก็น่าจะหมดแล้ว"

ซีอีโอ เคพีเอ็น แลนด์บอกว่าจากประสบการณ์ที่เขาได้สัมผัสในตลาดคอนโดมีเนียมลักชัวรี่มาโดยตลอด ก็พบว่าลูกค้าที่ซื้อคอนโดมีเนียมจะมีทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองในวันที่ทำงาน มีทั้งซื้อเก็บไว้ให้ลูกให้หลาน หรือซื้อเพื่อการลงทุน หรือให้เช่าก็มีทั้งหมด

"แม้ทำเลอโศกจะมีคอนโดมีเนียมอยู่เยอะ แต่ปริมาณห้องของเรามีไม่มาก ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง การปล่อยให้เช่าก็จะง่ายกว่าคอนโดมีเนียมที่มีปริมาณห้องเยอะ ๆ ข้อสำคัญผู้ลงทุนมักต้องคิดถึงมูลค่ารวมของการลงทุนซึ่งราคา 1 ห้องนอนของเราเริ่มต้นประมาณ 10 ล้านบาท 2 ห้องนอนเริ่มที่ราคาประมาณ 20 ล้าน ถือว่าไม่สูงรีเทิร์นก็จะดีกว่า ส่วนการผ่อนดาวน์ต่างๆของเรานับว่าเป็นอะไรที่จับต้องได้ง่าย ถ้าเป็น 1 ห้องนอนจะผ่อนเดือนละประมาณ 3 หมื่นบาท  ถ้าเป็น 2 ห้องนอนจะผ่อนเดือนละประมาณ 6 หมื่นบาท"

ลงทะเบียนรับสิทธิ์พิเศษ:  https://bit.ly/2L7Iarv