จำนวนผู้ติดเชื้อในอินเดียพุ่งทะยานทำลายสถิติกดดันราคาน้ำมันดิบ

จำนวนผู้ติดเชื้อในอินเดียพุ่งทะยานทำลายสถิติกดดันราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงจาก COVID-19 ระบาดอย่างรุนแรงในอินเดียและอุปทานน้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากมาตรการปรับปริมาณการผลิตน้ำมันจากกลุ่มโอเปกพลัส

ราคาน้ำมันดิบ Dated Brent เดือนเมษายนนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ 64.7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับลดลง 0.17 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เทียบกับเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จากจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายวันในอินเดีย เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากระดับ 80,000 ราย/วัน ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2564 มาอยู่ที่ประมาณ 400,000 ราย/วัน ณ วันที่ 30 เมษายน 2564 ส่งผลให้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ และอินเดียนำเข้าน้ำมันดิบ ลดลงจากเดือนก่อนถึง 15% อยู่ที่ระดับ 3.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ประเทศกลุ่มโอเปกพลัส ยืนยันเพิ่มปริมาณการผลิตแบบค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับชาติมหาอำนาจเริ่มการเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านซึ่งหากประสบความสำเร็จจะทำให้การคว่ำบาตรอิหร่านสิ้นสุดลง อิหร่านสามารถกลับมาส่งออกน้ำมันดิบสู่ตลาดโลกเพิ่มขึ้น

จำนวนผู้ติดเชื้อในอินเดียพุ่งทะยานทำลายสถิติกดดันราคาน้ำมันดิบ

คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเดือนพฤษภาคมนี้อยู่ที่ประมาณ 67 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปที่ฟื้นตัว จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการผ่อนคลายมาตรการควบคุม หลังรัฐบาลเร่งปูพรมฉีดวัคซีนให้กับประชาชน อีกทั้ง EIA ประเมินความต้องการใช้น้ำมันโลกปี 2564 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่  97.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ประกอบกับการโจมตีทางไซเบอร์เพื่อเรียกร้องค่าไถ่ ทำให้ท่อขนส่งน้ำมันสำเร็จรูป Colonial Pipeline ในสหรัฐฯ ที่ใช้สูบถ่ายน้ำมันปริมาณ 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากโรงกลั่นบริเวณ Gulf of Mexico ไปยังพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกหยุดชะงัก ราคาน้ำมันเบนซินหน้าสถานีบริการในสหรัฐฯ และราคาซื้อขายน้ำมันเบนซินในตลาดซื้อขายล่วงหน้า NYMEX เพิ่มขึ้นผลักดันราคาน้ำมันดิบ

จำนวนผู้ติดเชื้อในอินเดียพุ่งทะยานทำลายสถิติกดดันราคาน้ำมันดิบ

ประเด็นที่ต้องจับตา ได้แก่ ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ความคืบหน้าในการเจรจาโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านกับประเทศมหาอำนาจ ซึ่งอาจประสบผลสำเร็จส่งผลให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันได้ ล่าสุดโรงกลั่นในอินเดียเตรียมความพร้อมในการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านเมื่อการคว่ำบาตรสิ้นสุดลง และการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์เพิ่มความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ให้ติดตามสถานการณ์การระบาดขั้นรุนแรงในอินเดียที่หากยืดเยื้ออาจกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดกลับเข้าสู่ประชาคมโลก ด้านเศรษฐกิจให้จับตาท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่อาจลดวงเงินซื้อพันธบัตรฯ 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน เพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ

จำนวนผู้ติดเชื้อในอินเดียพุ่งทะยานทำลายสถิติกดดันราคาน้ำมันดิบ