20 ปี ภาคี 'สสส.' สร้างสุข 'Big Changes' สังคมไทย
"สสส." ได้รับ “รางวัลเนลสันแมนเดลา” ด้านการส่งเสริมสุขภาพ รางวัลระดับโลกจากองค์การอนามัยโลกนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทย อันเป็นผลจากการขับเคลื่อนตลอด 20 ปีที่ผ่านมา จนสามารถสร้างปรากฎการณ์ "Big Changes" ที่ช่วยเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างมากมาย
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ได้รับ “รางวัลเนลสันแมนเดลา” ด้านการส่งเสริมสุขภาพ รางวัลระดับโลกจากองค์การอนามัยโลกนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทย เป็นความภาคภูมิใจร่วมของคนไทยทั้งประเทศที่ร่วมเป็นพลังสร้างสรรค์งานสร้างเสริมสุขภาวะ อันเป็นผลจากการขับเคลื่อนตลอด 20 ปีที่ผ่านมา จนสามารถสร้างปรากฎการณ์ที่ช่วยเปลี่ยนแปลง “เรื่องใหญ่” หรือ "Big Changes" ในสังคมอย่างมากมาย
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการสสส. กล่าวว่า ตลอดการทำงาน 20 ปีที่ผ่านมา การขับเคลื่อนของสสส.และภาคี ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อสังคมไทยในหลายเรื่อง หลายมิติ แต่จะมีการรวบรวมเผยแพร่ในปีนี้อย่างน้อย 20 ประเด็น แต่ขณะนี้ที่สรุปแล้วมี 10 Big Changes นั่นคือ
- สร้างสิ่งแวดล้อมปลอดควันบุหรี่
- ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ งานบุญประเพณีและเทศกาลปลอดเหล้า
- พลังประชาชนขบับเคลื่อนสภาองค์กรของผู้บริโภค
- ตำบลสายพันธุ์ใหม่
- ขับเคลื่อนสุขภาวะเด็กปฐมวัย
- มาตรการทางราคาและภาษีเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน ลดเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs)
- ขับเคลี่อนแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกายระดับชาติ เพื่อสร้างมุมมอง การรับรู้ใหม่ด้านกิจกรรมทางกายในประเทศไทย
- การเข้าถึงสิทธิและบริการสุขภาพของผู้มีปัญหาสถานะบุคคลและกลุ่มชาติพันธุ์
- พัฒนาระบบรองรับสังคมสูงวัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ
- ส่งเสริมการมีงานทำของคนพิการ “ได้มากกว่าการจ้างงาน”
ตัวอย่างผลงาน การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ งานบุญประเพณีและเทศกาลปลอดเหล้า ผ่านกลยุทธ์การทดแทนทุนอุปถัมภ์ งานกาชาดและงานอัตลักษณ์ท้องถิ่นจัดแบบปลอดเหล้าไปแล้ว 65 เปอร์เซ็นต์ จากงานทั้งหมดของประเทศ งานสงกรานต์เกิด 58 ถนนตระกูลข้าว (ปลอดเหล้า) และ2,200 โซนพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้าปลอดภัย ลอยกระทงปลอดเหล้าปลอดภัยปลอดประทัดยักษ์และโคมลอยทั่วประเทศ มีการจัดงานแบบปลอดเหล้า 74 เปอร์เซ็นต์ จากงานทั้งหมดของประเทศ เป็นต้น
เรื่องส่งเสริมการมีงานทำของคนพิการ “ได้มากกว่าการจ้างงาน” ในปี 2556 สสส. ร่วมกับมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม พัฒนานวัตกรรมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคมเป็นทางเลือกใหม่ในการจ้างงานคนพิการ ปี 2556-2563 สร้างอาชีพให้กับคนพิการได้มากกว่า 40,000 คน ช่วยลดการส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการของหน่วยงานรัฐกว่า 700 ล้านบาท เป็นต้น
“รางวัลเนลสันแมนเดลา ที่ได้รับนี้เป็นการตกผลึกของสิ่งที่ทุกคนในสังคมไทยร่วมทำสะสมกันมา ควรเป็นสิ่งที่ภูมิใจร่วมกัยของคนวางกว้างมากๆ ซึ่งการดำเนินการงานต่างๆ ไม่เพียงมุ่งเน้นไปที่สู่การเปลี่ยนแปลงขีดความสามารถในระดับบุคคลให้มีวิถีชีวิตสุขภาวะเท่านั้น แต่ยังมุ่งให้เกิดการพัฒนานโยบายด้านสุขภาพที่จำเป็นและปรับปรุงโครงสร้าง รูปแบบสังคมสู่การมีสุขภาวะที่ยั่งยืนต่อไป” ดร.สุปรีดากล่าว
ดร.สุปรีดา กล่าวเพิ่มเติมถึงก้าวต่อไปสู่ทศวรรษที่ 3 ของสสส. มี 3 มิติใหม่ ได้แก่
- Digital transformation อาทิ การนำระบบฐานข้อมูล “บิ๊กดาต้า” (Big Data) มาใช้ป้องกันดูแลสุขภาพ ,การสร้างเสริมสุขภาพแบบแม่นยำ เจาะกลุ่มบุคคล(Precision Health Promotion) โดยมอบเครื่องมือสร้างเสริมสุขภาพที่ได้จากองค์ความรู้และนวัตกรรมที่ทำงานมาตลอด 20 ปีให้กับบุคคลตามความเหมาะสมของแต่ละคน
- การบริหารองค์กรยุคใหม่ สู่การเป็น “องค์กรนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ” โดยจะเปิดตัว 2 หน่วยงานภายใต้การกำกับ คือ ศูนย์กิจการสร้างสุข (SOOK Enterprise) ทำหน้าที่ขยายผลองค์ความรู้ ข้อมูลวิชาการ สร้างเสริมประสบการณ์ด้านสุขภาวะให้เข้าถึงประชาชน ผ่านกิจกรรมและผลิตภัณฑ์สุขภาวะที่สร้างสรรค์ และสถาบันการเรียนรู้การสร้างเสริมสุขภาพ (ThaiHealth Academy) เพื่อพัฒนาศักยภาพ และให้คำปรึกษาภาคีเครือข่าย ยกระดับนักสร้างเสริมสุขภาพมืออาชีพ
- ประเด็นใหม่ๆ และเดินหน้างานโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) รวมถึงผลักดัน “กฎหมายอากาศสะอาด” จากปัญหา PM2.5และสานต่อเรื่องโควิด-19 การจ้างงานคนพิการ และสนับสนุนมาตรการทางราคาและภาษีเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน ลดเสี่ยงโรค NCDs