UOB Leadership Academy เสริมทักษะผู้นำ ปรับตัวรับความผันผวนของโลกอนาคต

UOB Leadership Academy เสริมทักษะผู้นำ ปรับตัวรับความผันผวนของโลกอนาคต

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คำว่า Digital Disruption เข้ามาสร้างความท้าทายให้ผู้ประกอบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง องค์กรไหนที่ปรับตัวช้า เปลี่ยนตัวเองไม่ทันเทคโนโลยี ธุรกิจที่เคยประสบความสำเร็จมาตลอดก็ต้องสะดุด และหลุดจากวงโคจรไปจากโลกยุคใหม่

และแม้หลายธุรกิจจะก้าวผ่านการ Disrupt จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดมาได้ แต่ในปี 2563 ที่ผ่านมา ธุรกิจทั่วโลกกลับต้องเจอกับความท้าทายครั้งใหม่ กับเหตุการณ์ที่เราต่างไม่เคยคาดคิด นั่นก็คือ การแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 ที่เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตและพฤติกรรมของผู้คนทั่วโลก

การปรับตัวจึงนับเป็นหัวใจสำคัญสำหรับองค์กร เช่นที่ได้เห็นการเตรียมพร้อมของ ธนาคารยูโอบี ซึ่งเป็นธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่มีเครือข่ายสำนักงานกว่า 500 แห่ง ใน 19 ประเทศ ทั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ ที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ซึ่งถือเป็นตัวแปรหลักในการขับเคลื่อนและนำพาองค์กรฝ่าวิกฤต ท่ามกลางการแข่งขันจากทั่วโลกได้

สำหรับในประเทศไทย ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ธนาคารยูโอบี ได้มีแผนพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างโอกาสและการเติบโตให้แก่พนักงานทุกคน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริหาร ซึ่งทางธนาคารได้พัฒนาโปรแกรม UOB Leadership Academy ขึ้น โดยร่วมมือกับทาง Chulalongkorn Business School สถาบันการศึกษาบริหารธุรกิจแห่งแรกของไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก AACSB (The Association to Advance Collegiate Schools of Business) ปรับปรุงหลักสูตรพัฒนาผู้นำและผู้บริหารของ ธนาคารยูโอบี มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 เน้นการหาองค์ความรู้ใหม่ๆ และเสริมสร้างทักษะความเป็นผู้นำให้กับบุคลากร โดยมีเนื้อหาการเรียนรู้ในห้องเรียนควบคู่กับการฝึกปฏิบัติงานจริงและการนำเสนอ เป็นระยะเวลา 4 เดือน

UOB Leadership Academy เสริมทักษะผู้นำ ปรับตัวรับความผันผวนของโลกอนาคต

แบ่งออกเป็น 2 หลักสูตร ได้แก่ Ultimate Leadership Series เป็นโครงการสำหรับผู้บริหารในระดับผู้อำนวยการ และผู้อำนวยการอาวุโส เพื่อเตรียมความพร้อมด้านการบริหารทีมงาน ที่ปัจจุบันมีความหลากหลายทั้งในเรื่องของ Generation วิธีคิด และวิธีการทำงานที่แตกต่าง โดยเฉพาะในสภาวะการณ์ที่มีความท้าทายค่อนข้างสูง ขณะที่ Leadership Academy 1 มีเป้าหมายเป็นพนักงานระดับอาวุโสขึ้นไปถึงผู้ช่วยผู้อำนวยการ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเอง เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้นำในอนาคต

คุณศศิวิมล อารยวัฒนาพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ทรัพยากรบุคคล ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงความสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลว่า ธนาคารยูโอบีให้ความสำคัญกับบุคลากร เพราะเชื่อว่า “พนักงาน” เป็นทรัพย์สินที่สำคัญ และเป็นปัจจัยหลักในการสร้างการเติบโตให้แก่องค์กร โดยเฉพาะในช่วงที่โลกกำลังเผชิญกับ COVID-19 ซึ่งท้าทายความรู้ ความสามารถของเราอย่างมาก

“ในส่วนของยูโอบี ประเทศไทยนั้น ได้วางกลยุทธ์การพัฒนาพนักงานและบุคลากรขององค์กรที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน แต่ได้ปรับให้เหมาะสมกับบริบทการทำงานของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นความรู้ หรือทักษะต่างๆ โดยธนาคารให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรทั้งในส่วนของ Technical Skills และ Soft Skills ในเรื่องที่จำเป็นกับบริบทในการทำงาน เช่น การทำความเข้าใจภาพกลยุทธ์องค์กร และการคิดเชิงกลยุทธ์ เทคนิคในการสื่อสารกับทีมงานเพื่อมุ่งเน้นผลลัพธ์ รวมทั้งการทำงาน Cross-function ที่เพิ่มประสิทธิภาพระหว่างหน่วยงาน

ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นทักษะความเป็นผู้นำ ที่ทางธนาคารยูโอบีให้ความสำคัญ”

UOB Leadership Academy เสริมทักษะผู้นำ ปรับตัวรับความผันผวนของโลกอนาคต

โดยหลักสูตรพัฒนาผู้บริหารที่ได้ร่วมพัฒนากับ CBS นั้น มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและเนื้อหาให้ ทันกับสถานการณ์ของโลกธุรกิจที่เกิดขึ้นจริงในทุกๆ ปี

ในขณะเดียวกัน สิ่งไหนหรือจุดไหนที่เป็นข้อกังวลของพนักงาน ก็ได้นำกลับมาปรับปรุง เพื่อพัฒนาหลักสูตรให้เหมาะสมและเป็นประโยชน์สูงสุด โดยการเรียนการสอนในแต่ละครั้ง มีการจัดทำผลการประเมินในส่วนของความรู้ และการนำความรู้ความเข้าใจไปใช้ ซึ่งเราได้ผลตอบรับที่ดีทั้ง 2 หลักสูตร

รศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงแนวคิดของหลักสูตรที่ทาง CBS ได้พัฒนาร่วมกับธนาคารยูโอบี ว่า ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการสร้างผู้นำที่มีความสามารถทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการเตรียมความพร้อมให้ผู้นำมีความแข็งแกร่ง และสามารถนำทีมและองค์กรปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งนอกจากช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานให้แก่ธนาคารยูโอบีแล้ว ยังเป็นอีกแรงหนุนในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย

Digital Disruption อาจเคยเป็นหนึ่งประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกเมื่อพูดถึงการปรับตัวมาตลอด แต่สำหรับปีที่ผ่านมา ทั่วทั้งโลกได้ถูกท้าทายและ Disrupt จาก COVID-19 ในขณะที่ประเทศไทย ต้องเผชิญกับทั้งปัญหา PM 2.5 รวมถึงการชุมนุมร่วมด้วย ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่เข้ามา Disrupt และส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจและธุรกรรมต่างๆ แบบทันทีทันใด ดังนั้น เราได้เรียนรู้แล้วว่าองค์กรต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว ต้องมี Contingency Plan สำหรับสถานการณ์ที่ฉุกเฉิน และกลยุทธ์ที่เลือกนำมาใช้ต้องพร้อมรับมือแบบปัจจุบันทันด่วนด้วยเช่นกัน

UOB Leadership Academy เสริมทักษะผู้นำ ปรับตัวรับความผันผวนของโลกอนาคต

“ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จเหนือคู่แข่ง เราไม่ได้วัดกันที่เครื่องมือ แต่เราต้องสร้างคนที่สามารถพัฒนาเครื่องมือ Technology / Digital ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที และสุดท้ายความเชี่ยวชาญ ความสามารถของบุคลากรคือหัวใจของความสำเร็จที่แท้จริง ซึ่งคุณสมบัติของผู้นำที่จะพาองค์กรก้าวข้ามโลกที่มีความผันผวนไปได้ คือต้องมี Visionary มีวิสัยทัศน์ ในการมองและประเมินสถานการณ์ได้ เพื่อนำไปสู่ Decisive การตัดสินใจที่แม่นยำ ถูกต้อง ซึ่งต้องเฉียบคม รอบคอบ และผลลัพธ์ที่ได้รับกลับมา ต้องสร้างประโยชน์ให้แก่องค์กร รวมถึงสังคม และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง”

คุณอุมาพร ประยูรหงษ์ ผู้อำนวยการ Cash Management Sales ธนาคารยูโอบี เล่าถึงประสบการณ์ที่ได้เข้าร่วมอบรมในโครงการ UOB Leadership Academy ทั้ง 2 หลักสูตรว่า ทำให้เข้าใจทักษะของการเป็นผู้นำมากขึ้น และยังได้พัฒนาทักษะการสื่อสาร และเปิดรับฟังมุมมองจากเพื่อนร่วมงานทีมอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีวิกฤติ เราจะปรับตัวเพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง

UOB Leadership Academy เสริมทักษะผู้นำ ปรับตัวรับความผันผวนของโลกอนาคต

“เมื่อเกิดวิกฤติ เราได้เรียนรู้ว่าต้องปรับตัวเอง ในลักษณะ Active ไม่ใช่ Passive ที่จะรอทุกอย่างมากระทบ ยิ่งงานที่เรารับผิดชอบเป็นสายงานธนาคาร อยู่กับตัวเลข อยู่กับตัวหนังสือ ซึ่งมันเป็น Traditional Way มากๆ แต่ทั้ง 2 หลักสูตรนี้ มันสามารถปรับใช้กับโลกปัจจุบันจริง ๆ สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราและลูกค้าสามารถผ่านวิกฤติ ไปได้ คือ การใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง การคิดนอกกรอบจากรูปแบบเดิมๆ จะช่วยให้เราเอาตัวรอดไปได้”

ในวันที่ความเปลี่ยนแปลงจากหลากหลายปัจจัย เข้ามาท้าทายโลกปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง ธนาคารยูโอบีไม่เคยหยุดเดินหน้าพัฒนาองค์กรให้เข้มแข็ง โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับแผนพัฒนาบุคลากร ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อศักยภาพในการทำงานที่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยสร้างให้พนักงานเกิดความผูกพัน และความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับองค์กรอย่างแท้จริง สะท้อนให้เห็นจาก Employee Engagement Survey ของธนาคารยูโอบี ในปี 2563 ที่ได้คะแนนถึง 83% เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ 76%

โดยในปี 2563 ทางธนาคารยูโอบียังได้รับการยกย่องในเรื่องการพัฒนาบุคลากร หลายรางวัล ทั้งในระดับประเทศและสากล ได้แก่

  • รางวัล Employer Award of the Year - Gold ระดับภูมิภาคจาก ABF Retail Banking Awards 2020
  • รางวัล Best HR Strategy In line with Business และ Talent Management จาก Thailand Best Employer Brand Awards 2020
  • รางวัล Best Employer Brand Award และ Organisation with Innovative HR Practice จาก Asia’s Best Employer Brand Awards 2020
  • รางวัล Global Best Employer Brand Award จาก Global Best Employer Brand Awards 2020
  • รางวัล Best Graduate Employment Program จาก Global Retail Banking Innovation Awards 2020

จากความมุ่งมั่นในการพัฒนาดังกล่าว ได้ช่วยเตรียมพร้อมให้บุคลากรของธนาคารยูโอบี มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในทุกมิติ เพื่อสามารถสร้างสรรค์ผลงานและบริการที่ดี นำพาธนาคารและลูกค้าก้าวผ่านความเปลี่ยนแปลง สอดคล้องกับสถานการณ์ของโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด