ทีเอ็มบีและธนชาต จัดสัมมนาและเวิร์คชอป เสริมแผนธุรกิจช่วยผู้ประกอบการโรงแรมแข็งแกร่ง พร้อมฝ่าทุกวิกฤต

วิกฤตโควิด-19 ถือเป็นวิกฤตที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับภาคธุรกิจและประชาชน ขณะเดียวกัน โควิด-19 ก็เป็นเหมือน “สึนามิ” ลูกใหญ่ ที่เข้ามากระทบต่อการทำธุรกิจอย่างมาก จนบางธุรกิจถึงกับปิดกิจการ ล้มหายตายจาก จากวิกฤตรอบนี้เช่นเดียวกัน

ยิ่งเกิดโควิด-19 รอบใหม่ก็ยิ่งเป็นปัจจัย “ซ้ำเติม” ที่เข้ามากระทบสำหรับธุรกิจและประชาชนไปอีก หากสถานการณ์ครั้งนี้ยืดเยื้อ นำไปสู่ล็อกดาวน์รอบใหม่ แน่นอนผลกระทบก็อาจเห็นมากขึ้น จากเดิมที่ธุรกิจมีกระแสเงินสดที่จำกัดอยู่แล้ว อาจต้องเจอวิกฤตรอบใหม่อีกระลอก

ดังนั้นการ “ปรับตัว” ควบคู่ไปกับการเตรียมพร้อม เพื่อรับการเปลี่ยนแปลง รับมือกับวิกฤตที่อาจต้องเผชิญมากขึ้นในระยะข้างหน้า จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้ธุรกิจสามารถเอาตัวรอด ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่มีแต่จะเพิ่มขึ้น  ด้วยความใส่ใจของ “ทีเอ็มบีและธนชาต” จึงพร้อมในการเข้าไปช่วยเหลือภาคธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจมีประสิทธิภาพในการบริหารงานมากขึ้น พร้อมปรับตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน

เสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2562 ก่อนโควิด-19 แพร่ระบาด การท่องเที่ยวไทยสร้างมูลค่ากว่า 2.9 ล้านล้านบาท คิดเป็น 20% ของจีดีพี มีการจ้างงานกว่า 8.3 ล้านตำแหน่ง

ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติทำรายได้หลักคิดเป็น 2 ใน 3 ของภาคการท่องเที่ยว โดยมีค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายต่อคนต่อวันอยู่ที่ 6,000 บาท สูงกว่านักท่องเที่ยวไทยโดยเฉลี่ย 2 เท่า และมีจำนวนวันพักเฉลี่ยสูงกว่ามาก ดังนั้น มาตรการเที่ยวปันสุขของรัฐ แม้ว่าจะเพิ่มเงินหมุนเวียนได้ราว 6.4 หมื่นล้านบาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเข้าไปพยุงทั้งอุตสาหกรรมได้ ซึ่งจากการประเมินของ TMB Analytics ปี 2564 ประเทศไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 0.68-1.53 ล้านล้านบาท ขึ้นอยู่กับความเร็วของการฟื้นตัว

เพื่อพยุงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ  ซึ่งธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งก็ให้ความร่วมมือช่วยเหลือตามแนวทางของตนเอง

แต่สำหรับ “ทีเอ็มบีและธนชาต” มองว่าการช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจในกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม จะต้องทำอย่างต่อเนื่องไม่ใช่เพียงแค่เรื่องการเงินเท่านั้น  จึงริเริ่มนำแนวทางใหม่ ๆ เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นที่มาของการจัดสัมมนาและเวิร์คชอป  “The Future of Hotels by TMB l Thanachart” เพื่อสร้างพื้นที่แห่งการแบ่งปันองค์ความรู้ ให้ทุกคนมาร่วมกันคิด ร่วมกันสะท้อนความเป็นตัวตนของธุรกิจ จัดทำแผนธุรกิจและสร้างแผนการตลาดใหม่ ๆ ร่วมกัน

“การสัมมนาและเวิร์คชอป “The Future of Hotels by TMB l Thanachart” เป็นความตั้งใจที่จะให้ผู้ประกอบการนำจุดแข็งของตนเองออกมาใช้กับการตลาดแนวใหม่ โดยเฉพาะการตลาดออนไลน์ จะทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อว่าการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจที่จะเกิดขึ้นนี้ จะเป็นก้าวแรก ไม่เพียงช่วยให้สามารถข้ามผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างการเติบโตไปด้วยกันในยุค New Normal และจะเป็นการเติบโตในแบบยั่งยืน” เสนธิป กล่าว

โดยการจัดสัมมนาและเวิร์คช็อป “The Future of Hotels by TMB l Thanachart” ครั้งนี้ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทีเอ็มบี มีการเชิญทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดมากประสบการณ์อย่างบริษัท เฮด วัน ฮันเดรด มาถ่ายทอด STRONG Module หลักสูตรการตลาดแนวใหม่ ที่สามารถเข้ามาช่วยเติมเต็มไอเดียและจุดประกายความคิดให้กับผู้บริหารและนักการตลาด เพื่อให้โรงแรมได้ลงมือสร้างแผนการเติบโตและการตลาดออนไลน์ เพื่อให้สามารถนำไปใช้ได้จริง

ซึ่งประกอบไปด้วย 6 Module ดังนี้  Module S - STRENGTHS FINDER การมองหาจุดแข็งในมุมมองของตนเองที่แตกต่างจากคู่แข่ง ทำให้ลูกค้าเห็นคุณค่า Module T - TRENDS & INSPIRATIONS สร้างแรงบันดาลใจ จาก Case Study โรงแรมที่มีชื่อเสียงทั่วโลก Module R - REVENUE STREAMS ใช้เทคนิคเพิ่มช่องทางขายให้มีประสิทธิภาพ Module O - OPERATION EXCELLENCE วางแผนการเติบโต ระยะสั้นและระยะยาว Module N - NEW LENS โชว์มุมมอง ปรับแผนธุรกิจให้แข็งแกร่ง  Module G - GO TO DIGIMARKET ลองปฏิบัติแผนการตลาดออนไลน์จริง เพื่อการเติบโตในอนาคต

นอกจากนี้ ธนาคารยังมีเครื่องมือที่ถือเป็นตัวช่วยสำคัญ เพื่อให้ภาคธุรกิจฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างราบรื่นด้วย ดิจิทัล โซลูชันสำหรับธุรกิจโรงแรม ได้แก่ Digital Invoice and Online Payment ซึ่งเป็นบริการเรียกเก็บค่าสินค้า-บริการและการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ ที่สามารถช่วยบริหารจัดการด้านการเงินสำหรับธุรกิจโรงแรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีต้นทุนที่ต่ำและเพิ่มความสะดวกให้กับทั้งโรงแรมในฐานะผู้รับเงินและลูกค้าของโรงแรมเองในฐานะผู้จ่ายเงิน​

เร่งลดต้นทุน-รักษาคุณภาพบริการ

​ด้าน มาริสา สุโกศล หนุนภักดี รองประธานกรรมการ กลุ่มโรงแรมสุโกศล และนายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้ ถือเป็นการช่วยเติมความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างมากกับผู้ประกอบการโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ๆ เกิดขึ้นหลังโควิดจากทั่วโลก ที่ทางผู้จัดนำมาเล่าให้ฟังพร้อมบทสรุปที่เข้าใจง่าย และแนวคิดทางการตลาดใหม่ ๆ การหารายได้รูปแบบใหม่ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงเพื่อให้เกิดประโยชน์ และเป็นแนวทางการปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดในสถานการณ์นี้

หากมองในภาพรวมของกลุ่มโรงแรมในประเทศ ซึ่งมีซัพพลายจำนวนมาก สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากถึง 39.8 ล้านคน แต่ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเพียง 6.7 ล้านคน ดังนั้น การพึ่งพานักท่องเที่ยวไทยอย่างเดียวจะทำให้อยู่รอดยาก ขณะเดียวกันประเมินว่านักท่องเที่ยวต่างชาติคาดว่าจะทยอยกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 และจะกลับสู่ระดับปกติต้องใช้เวลา 2-3 ปี ดังนั้นธุรกิจจำเป็นที่ต้องปรับตัวให้รับกับทุกสถานการณ์ มุ่งบริหารต้นทุน รักษาคุณภาพด้านการบริการ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้ได้

ช่องทางใหม่สู่การเพิ่มรายได้

วิจักษณ์ วิจักษณ์วงศา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Shan Hotel ในย่านอ่อนนุช  มองว่างานสัมมนา “The Future of Hotels by TMB l Thanachart” นอกจากจะมอบไอเดียใหม่ ๆ เพิ่มให้แล้ว ยังเป็นการตอกย้ำด้วยว่าแนวทางการตลาดรูปแบบใหม่ที่โรงแรมกำลังจะใช้ เป็นแนวทางที่ถูกต้อง และช่วยให้ความคิดต่าง ๆ ที่มีอยู่ ถูกเรียบเรียงเพื่อให้ชัดเจนมากขึ้น

​“ผมมองว่าการที่ธนาคารเริ่มผันตัวเองจากคู่ค้ามาเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ประกอบการนั้นเป็นเรื่องดี ขณะเดียวกันผู้ประกอบการโรงแรมเอง เรามองว่า เรื่องการหารายได้เป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องหาวิธีการใหม่ ๆ หรือช่องทางใหม่ ๆ ซึ่งจากการได้เข้าร่วมสัมมนา ถือว่าได้ประโยชน์สูงมากสำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตโควิด ยอมรับว่าทีมงานได้รีเสิร์ชมาดีมาก สามารถนำไปย่อยใช้ได้จริงกับธุรกิจโรงแรมเรา เช่น การมองหาพาร์ทเนอร์ใหม่ ๆ ในการทำแคมเปญการตลาด ซึ่งเรามองกลุ่ม Wellness ไว้ ดูว่าจะมีความร่วมมือกันอย่างไร เพื่อลูกค้ามาใช้บริการ Wellness แล้ว จะมาพักที่โรงแรมของเราด้วย” วิจักษณ์กล่าว

การสัมมนา “The Future of Hotels by TMB l Thanachart”  จึงตอกย้ำแนวทางของ “ทีเอ็มบีและธนชาต” ที่พร้อมเป็นพันธมิตรสนับสนุนให้ทุกธุรกิจบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ ปรับตัวให้อยู่รอดได้ในทุกสถานการณ์ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็มีความเชื่อมั่นธนาคารที่แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์วิกฤต ธนาคารยังดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่ เพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกันและเติบโตอย่างยั่งยืน