ราคาน้ำมันเดือนกันยายนปรับลดลงเป็นครั้งแรก หลังจากที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 4 เดือนติดต่อกัน

ราคาน้ำมันเดือนกันยายนปรับลดลงเป็นครั้งแรก หลังจากที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 4 เดือนติดต่อกันจากจุดต่ำสุดในเดือนเมษายน สถานการณ์ความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด จากการระบาดของเชื้อ COVID-19 รอบสองทั่วโลก

ราคาน้ำมันดิบในเดือนสิงหาคม  ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากมาตรการที่หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายหลังจากวิกฤติ COVID-19 รวมถึงแรงหนุนระยะสั้นจากเหตุพายุเฮอริเคนพัดเข้าแถบแคริบเบียนและอ่าวเม็กซิโก  ส่งผลให้การผลิตน้ำมันดิบทั้งหมดของสหรัฐฯ หยุดชะงักประมาณ 1-2 สัปดาห์  การผลิตน้ำมันดิบลดลงราวร้อยละ 17 ขณะที่กลุ่มประเทศโอเปคและพันธมิตรได้ปฏิบัติตามข้อตกลงการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบอย่างเคร่งครัด  และสหรัฐอเมริกาก็ยังคงปรับลดการผลิตเพื่อรักษาระดับสมดุลราคาน้ำมัน  โดย ซาอุดีอารัมโค ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในซาอุดิอาระเบีย ประกาศปรับลดราคาน้ำมันดิบที่จะส่งมอบในเดือนตุลาคมมากกว่าที่คาด  แต่การระบาดของเชื้อ COVID-19 รอบสองของหลายๆประเทศทั่วโลกช่วงปลายเดือนสิงหาคม ยังคงทำให้การฟื้นตัวการใช้น้ำมันดิบชะลอตัวลง  รวมถึงสำนักงานพลังงานทั้ง IEA, EIA และ OPEC ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์การใช้น้ำมันโลกในปีนี้ลดลง ส่งผลให้เดือนกันยายนราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับลดลง แต่อย่างไรก็ตามควบคุมการผลิตน้ำมันดิบอย่างมีประสิทธิภาพของกลุ่มประเทศโอเปคและพันธมิตรจะยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคา

การประชุมย่อยในเดือนกันยายนที่ผ่านมาในระดับรัฐมนตรี ของกลุ่มประเทศโอเปคและพันธมิตร (Joint Ministerial Monitoring Committee : JMMC) เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิต และพิจารณาร่วมกันถึงโควต้าในการปรับเพิ่มหรือลดเพื่อรักษาสมดุลตลาด ที่ประชุมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมติข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตที่ 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน หรือคิดเป็น 8% ของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงสิ้นปี 2563 แต่ได้ขยายเวลาให้ประเทศที่ผลิตเกินข้อตกลง เช่น อิรัก ไนจีเรีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น ต้องร่วมกันลดกำลังการผลิตชดเชยร่วมกันภายในสิ้นปีจากที่สิ้นสุดเดือนกันยายนนี้ ทั้งกลุ่มได้กำชับการลดกำลังการผลิตอย่างเคร่งครัด ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือกันเป็นอย่างดีของกลุ่มโอเปคและพันธมิตร เพื่อรักษาระดับราคาน้ำมัน ทั้งนี้การผลิตน้ำมันดิบในลิเบีย จะเริ่มกลับสู่ตลาดอีกครั้ง หลังพลเอกคาลิฟา ฮัฟทาร์ หัวหน้ากลุ่มต่อต้านรัฐบาลลิเบีย ประกาศจะยุติการปิดล้อมหลุมขุดเจาะและท่อขนส่งน้ำมันดิบในประเทศเป็นระยะเวลา 1 เดือน หลังเจรจาต่อรองผลประโยชน์กับทางรัฐบาลลิเบียสำเร็จ

สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาด ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันของหลายประเทศ รวมถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งขณะนี้โจ ไบเดน คู่แข่งได้มีคะแนนนำประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์