คอลลาเจนไม่ได้มีประโยชน์แค่ผิว มารู้จักกับคอลลาเจนไทพ์ทู

คอลลาเจนไม่ได้มีประโยชน์แค่ผิว มารู้จักกับคอลลาเจนไทพ์ทู

คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบหลักของผิว โดยมีองค์ประกอบถึง 30% ของโปรตีนในร่างกาย แต่ไม่ใช่แค่เพียงเท่านั้น

คอลลาเจนยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของข้อและกระดูกอ่อนอีกด้วย โดยตามธรรมชาติเมื่อเราอายุมากขึ้น อัตราการสร้างคอลลาเจนจะเริ่มลดลงประมาณ ร้อยละ 1.5  ในทุกๆปีซึ่งมีผลทำให้ผิวหนังเริ่มเหี่ยวลง และส่งผลต่อสุขภาพข้อ โดยอาจจะไม่สามารถทำกิจกรรมหนักๆ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง กระโดด ยืนนานๆ ได้เหมือนเดิม

ภาวะการเกิดข้อเสื่อม ข้ออักเสบ

บริเวณข้อต่อต่างๆ มีโครงสร้างหลักที่เป็นเซลล์กระดูกอ่อนและสารนอกเซลล์ (Matrix) ได้แก่คอลลาเจนไทพ์ทู (Collagen Type II)และ โปรตีโอไกลแคน จำพวกแอกกริแคน (Aggrecan) ซึ่งทำหน้าที่รับแรงกระแทกและให้ความยืดหยุ่นกับข้อต่อ ถ้ากระดูกอ่อนที่ฉาบผิวกระดูกข้อต่อไว้เสื่อมสภาพหรือบางลง จะทำให้มีการเสียดสีกันเมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการลุก นั่ง ยืน หรือเดิน จนทำให้เกิดการอักเสบ และเกิดภาวะข้อเสื่อมได้(osteoarthritis)

อายุ 40 ขึ้นไปมีภาวะเสี่ยงเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม

ในกลุ่มผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปเสี่ยงเป็นโรคข้อเสื่อม พบมากในกลุ่มผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า โดยเฉพาะช่วงวัยทอง รวมไปถึงผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก นักกีฬาที่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุบริเวณข้อและผู้ที่ออกกำลังกายหนักๆ ซึ่งอาจเริ่มมีสัญญาณเตือนของโรค เช่นปวดข้อเข่า รู้สึกเมื่อย ตึงที่น่องและข้อพับเข่า เหยียด-งอเข่าได้ไม่สุด มีเสียงดังในข้อเวลาขยับข้อเข่าจากการเสียดสีกันของผิวข้อที่ไม่เรียบ

คอลลาเจนไทพ์ทู(Collagen Type II) ทางเลือกใหม่สำหรับการดูแลสุขภาพข้อ

การศึกษาวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับโครงสร้างและการทำงานของ คอลลาเจนไทพ์ทูต่อสุขภาพข้อ พบว่าคอลลาเจนไทพ์ทูมีประโยชน์คือ

    เป็นสารตั้งต้นที่ใช้ในการสร้างกระดูกอ่อนและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของส่วนประกอบที่อยู่ในบริเวณข้อ ช่วยเพิ่มระดับของ กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำหล่อเลี้ยงในข้อช่วยกระตุ้นการทำงานของ Chondrocytes ซึ่งเป็นเซลล์ที่ช่วยในการผลิตองค์ประกอบของโครงสร้างต่างๆของกระดูกอ่อนที่อยู่ภายในข้อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่มาย่อยสลายน้ำหล่อเลี้ยงข้อ

คอลลาเจนไทพ์ทูช่วยให้อาการของโรคข้อเข่าเสื่อมลดลง

การศึกษาในระดับคลินิกที่ผ่านมานั้นแสดงให้เห็นว่า คอลลาเจนไทพ์ทูสามารถช่วยลดปัญหาข้อเสื่อมได้ในปี 2009 CrowlyD.C. และคณะ ได้ทำการศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของคอลลาเจนไทพ์ทู ในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมโดยให้ทานเปรียบเทียบกับกลูโคซามีนและคอนดรอยติน

ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มที่รับประทานคอลลาเจนไทพ์ทูจะมีอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมลดลงมากกว่ากลุ่มที่รับประทานกลูโคซามีนร่วมกับคอนดรอยตินอย่างมีนัยสำคัญ โดยกลุ่มที่รับประทานคอลลาเจนไทพ์ทูมี WOMAC Score, VAS Score และ Lequesne Score ลดลง 33%, 40% และ 20% ตามลำดับส่วนกลุ่มที่รับประทานกลูโคซามีนร่วมกับคอนดรอยติน มีค่าลดลงเพียง 14%, 15.4% และ 6% ตามลำดับเท่านั้น และในกลุ่มที่ทานคอลลาเจนไทพ์ทูพบมีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นน้อยกว่ากลุ่มที่รับประทานกลูโคซามีนร่วมกับคอนดรอยตินอีกด้วย

โรคข้อเสื่อมส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง ไม่สามารถทำกิจกรรมที่เคลื่อนไหวร่างกายได้ดีเหมือนเดิม ดังนั้นไม่ควรมองข้ามการดูแลสุขภาพข้อ โดยการควบคุมน้ำหนักตัว ไม่ให้อ้วน หลีกเลี่ยงการยกของหนักและการออกกำลังกายที่หักโหมเกินไป หรืองอเข่ามากๆ เป็นเวลานาน แนะนำให้รับประทานสารอาหารที่เหมาะสม หรืออาจเลือกรับประทานสารสกัดจากธรรมชาติจำพวก คอลลาเจนไทพ์ทู (Collagen Type II) รวมไปถึงสารต้านอนุมูลอิสระเช่น วิตามินซี เสริม เพราะมีส่วนช่วยชะลอความเสื่อมและยืดอายุการใช้งานข้อต่อต่างๆ ในร่างกายเช่น ข้อเข่า สะโพก ได้ไปอีกนาน

Reference

Ronca F, et al., “Anti-inflammatory activity of chondroitin sulfate”, Osteoarthritis Cartilage suppl.6(A) : 14-21(1998) Uebelhart D. Clinical review of chondroitin sulfate in osteoarthritis. Osteoarthritis Cartilage 16 suppl 3:S19-21 Epub 2008 Jul 31. (2008) Sheldon, E “A randomized double blind clinical pilot trial evaluating the safety and efficacy of hydrolyzed collagen type II (Biocell Collagen) in adults with osteoarthritis” Maiami Research Associates.  April 25, 2003. Crowley D.C. & et al, Safety and efficacy of undenatured type II collagen in the treatment of osteoarthritis of the knee: a clinical trial. Int. J. Med. Sci.2009; 6(6):312