ราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อยหลังโอเปกและพันธมิตรยืดระยะเวลาการลดกำลังการผลิต

ราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อยหลังโอเปกและพันธมิตรยืดระยะเวลาการลดกำลังการผลิต

ราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อยหลังโอเปกและพันธมิตรยืดระยะเวลาการลดกำลังการผลิต แต่ตลาดยังกังวลโควิด-19 ระบาดรอบสอง

ราคาน้ำมันดิบในเดือนมิถุนายนปรับเพิ่มขึ้น ภายหลังการฟื้นตัวของสถานการณ์เศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด -19 เป็นผลจากมาตรการผ่อนคลายล็อคดาวน์ของนานาประเทศ ประกอบกับสัญญาณเศรษฐกิจต่างๆ ที่สะท้อนว่าอุปสงค์น้ำมันกำลังฟื้นตัวตาม แต่ราคายังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อการระบาดระลอกสองของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายประเทศ ที่ยังคงมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาทรงตัวต่อเนื่อง

ราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อยหลังโอเปกและพันธมิตรยืดระยะเวลาการลดกำลังการผลิต

ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน แม้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว

ในการประชุมเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 กลุ่มคณะกรรมการร่วมตรวจสอบในระดับรัฐมนตรี (Joint Ministerial Monitoring Committee หรือ JMMC) เพื่อติดตามผลการปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส)  ได้มีมติทำการปรับลดกำลังการผลิตลงมาอยู่ที่ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือนสิงหาคม – ธันวาคม 2563  ซึ่งลดจากระดับ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 ธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ตัดสินใจคงมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม โดยนางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB ระบุว่า เศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ยังมีความไม่แน่นอนและแตกต่างกันไปในแต่ละอุตสาหกรรม

ราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อยหลังโอเปกและพันธมิตรยืดระยะเวลาการลดกำลังการผลิต

ในส่วนของอุปสงค์ สหรัฐอเมริกาเริ่มกลับมาใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น โดยรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (US Energy Information Administration หรือ EIA) ฉบับล่าสุด ระบุว่าปริมาณการใช้เชื้อเพลิงเหลวในเดือนมิถุนายนเพิ่มสูงขึ้นถึง 17.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน  โดยคาดการณ์ว่าปริมาณการใช้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและอาจสูงถึง 18.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งหลังของปีจากการที่เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น (จากระดับ 17.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงครึ่งปีแรก)

นอกจากนี้ EIA ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกปี 2563  โดยเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ในเดือนก่อนหน้าถึง 0.36 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตามความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกยังคงมีแนวโน้มลดลงจากปีก่อนถึง 8.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 92.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน และจะยังไม่สามารถกลับสู่ระดับก่อนการเกิดวิกฤตโควิด-19 จนถึงปี 2565  

ทั้งนี้ ให้จับตาดูจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ของหลายประเทศ เนื่องจากการระบาดระลอกสองมีโอกาสทำให้หลายประเทศต้องออกมาตรการล็อคดาวน์อีกครั้ง นอกจากนั้นยังควรจับตาดูสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และตัวเลขเศรษฐกิจของโลกต่อไป