วราวุธ ห่วงใยผู้ประสบอุทกภัย สั่งที่ปรึกษายุทธพล ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

วราวุธ ห่วงใยผู้ประสบอุทกภัย สั่งที่ปรึกษายุทธพล ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

 

นับจากพายุ “โพดุล” และ พายุ “คาจิกิ” พัดเข้าประเทศไทยตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา ก่อให้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและทรัพย์สินเสียหายไปเป็นจำนวนมาก โดยมีหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนได้ให้การสนับสนุนและยื่นมือช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานสำคัญที่ได้เตรียมกำลังพลและอุปกรณ์ เครื่องมือในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และได้ลงพื้นที่ประสบภัยอย่างจริงจังนับแต่เกิดเหตุอุทกภัย และสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด นั้น

วราวุธ ห่วงใยผู้ประสบอุทกภัย สั่งที่ปรึกษายุทธพล ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

เมื่อวันที่10 กันยายน 2562 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้นายโสภณ ทองดี ผู้ตรวจราชการกระทรวง ในฐานะโฆษกประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและตรวจเยี่ยมให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทส. ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย พร้อมแจกถุงยังชีพ จำนวน 400 ถุง น้ำดื่ม 400 แกลลอน ให้กับประชาชนผู้ประสบภัย ในพื้นที่ บ. หัวตะพาน ต. หัวตะพาน อ. หัวตะพาน จ. อำนาจเจริญ และ บ. โนนหัน บ. คำน้ำสร้าง บ. แจ้งน้อย บ. ท่าเยี่ยม ต. ค้อเหนือ อ. เมือง จ. ยโสธร พร้อมทั้ง ได้ฝากให้กำลังใจแก่พี่น้องประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่ดังกล่าว และพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

วราวุธ ห่วงใยผู้ประสบอุทกภัย สั่งที่ปรึกษายุทธพล ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

ในการนี้ นายโสภณ ทองดี โฆษกประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดยโสธร ได้ลงพื้นที่ตามข้อสั่งการของ รมว. ทส. โดยในการลงพื้นที่ พบว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ที่ตรวจเยี่ยมทั้ง4จุด โดยรวมมีแนวโน้มลดลงไปในทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง แต่จากรายงานของกรมทรัพยากรน้ำทราบว่า ยังมีพื้นที่ที่ยังประสบภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ใน 32 จังหวัด อีกทั้ง ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 19 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และได้ประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย 25 จังหวัด ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ มีหลายพื้นที่จะยังคงมีฝนตกหนักและมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานสังกัด ทส. ประสานบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ และให้รายงานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทราบทุกวันจนกว่าสถานการณ์จะยุติ

ด้านนายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวที่ห้องประชุม 201 อาคาร ทส.ว่า “ท่านรัฐมนตรี

วราวุธ ห่วงใยผู้ประสบอุทกภัย สั่งที่ปรึกษายุทธพล ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

วราวุธมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย โดยได้กำชับให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดในพื้นที่ประสบภัย จัดอุปกรณ์และสรรพกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เตรียมแผนต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหลังสถานการณ์น้ำท่วมสิ้นสุดด้วย ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอย้ำเพื่อความมั่นใจว่า ทุกหน่วยงานภายใต้สังกัด ทส. มีความพร้อมทั้งอุปกรณ์และสรรพกำลังในการให้ความช่วยเหลือ และจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนในทุกสถานการณ์และตนจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมราษฎรอีกหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น"นายยุทธพลที่ปรึกษาฯกระทรวง กล่าวแสดงความห่วงใย ในที่สุด