รวมพลังเปลี่ยนโลก รางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่19

รวมพลังเปลี่ยนโลก รางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่19

 

ธรรมชาติล้วนเปรียบดั่งแก่นกลางที่เชื่อมโยงทุกสรรพชีวิตไม่ว่าจะเป็นการดำรงชีพ หรือใช้สอยทรัพยากร ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างความตระหนัก และสำนึกอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อุทิศตนเองในการปกปักษ์ และรักษาเหง้ารากทางทรัพยากรของโลกเหล่านี้เอาไว้ด้วยความมุ่งมั่น บางคนใช้ชีวิตเข้าแลก บางชุมชนใช้เวลากว่าชั่วอายุเพื่อรักษาสมบัติธรรมชาติไว้ให้ลูกหลาน

รวมพลังเปลี่ยนโลก รางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่19

รางวัลลูกโลกสีเขียว เป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ 1 ล้านไร่ของ ปตท. จึงได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2542 เพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ 72 พรรษา โดยมีจุดหมายเพื่อสนับสนุน เป็นกำลังใจยกย่องและเผยแพร่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของบุคคล และองค์กรให้เป็นที่รับรู้ในสังคมวงกว้าง เป็นเยี่ยงอย่างของการประกอบสิ่งที่ดีงามในสังคมไทย ก่อนจะจัดตั้ง "สถาบันลูกโลกสีเขียว" ขึ้นเพื่อบริหารงานในเวลาต่อมา

รวมพลังเปลี่ยนโลก รางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่19

รางวัลูกโลกสีเขียว มีการจัดต่อเนื่องกันมาปีนี้เป็นปีที่ 19 ในหัวข้อ "วิถีพอเพียง แบ่งปัน ผูกพัน ดิน น้ำ ป่า" ซึ่งเปิดรับสมัครและสรรหาผลงานประเภทชุมชน บุคคล กลุ่มเยาวชน ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2560 สำหรับประเภทงานเขียน ความเรียงเยาวชน และสื่อมวลชน เปิดรับผลงานจนถึงเดือนพฤษภาคม 2561 โดยมีการจัดกิจกรรม และงานมอบรางวัลขึ้นในวันที่ 11-12 กรกฎาคม 2562 ณ อาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่

รวมพลังเปลี่ยนโลก รางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่19

ภายในงาน ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการสถาบันลูกโลกสีเขียวได้บรรยายปาฐกถาพิเศษเรื่อง "พลังเปลี่ยนโลก#เราเปลี่ยนโลกเปลี่ยน" กระตุ้นให้ "คน" เป็นผู้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเอง ลดผลกระทบต่อโลก และนำไปสู่การสร้างพลังร่วม โดยเฉพาะพลังของเยาวชนที่จุดประกายเคลื่อนไหวและลงมือทำจริงในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น เป็นผลที่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม

"หมดเวลาที่เราจะมานั่งโทษกันว่า ใครหรืออะไร เป็นสาเหตุที่ทำให้โลกร้อนขึ้น สิ่งที่ต้องทำตอนนี้เพื่อฟื้นโลกให้เรามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ คือ "เปลี่ยนตัวเรา" เพื่อให้โลกเปลี่ยนไปในทางที่ดี เราไม่สามารถคิดแบบนิยายวิทยาศาสตร์ว่าต้องมองหา "โลกใหม่" ปฏิบัติการกู้โลกเป็นเรื่องใหญ่ จะทำได้แค่ไหน จะใช้งบประมาณมหาศาลเพียงใด ไม่อาจรู้ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำได้เดี๋ยวนี้ ขณะนี้ คือ "เปลี่ยนตัวเรา" โดยเริ่มจากเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อให้เกิดการสร้างวัฒนธรรมใหม่ ที่จะทำให้ชีวิตต่างๆ ในโลกอยู่ได้เพราะถ้าชีวิตต่างๆ ในมหาสมุทรอยู่ไม่ได้ คนก็อยู่ไม่ได้ ธารน้ำแข็งละลาย ไม่ใช่เรื่องไกลตัวคนเมืองร้อนอย่างประเทศไทยอีกแล้ว

ดังนั้นขอให้เรามั่นใจในการกระทำของเรา และเชื่อมั่นในตัวเราที่จะเป็น "พลังเปลี่ยนโลก" เพราะเมื่อเราเปลี่ยน โลกก็จะเปลี่ยน และเป็นโลกที่ดีกว่าเดิม ทั้งในปัจจุบันและอนาคต"

รวมพลังเปลี่ยนโลก รางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่19

สำหรับ "พิธีประกาศผลและมอบรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 19" ได้รับเกียรติจาก อานันท์ ปันยารชุน ประธานกรรมการกิตติมศักดิ์ สถาบันลูกโลกสีเขียว และ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการสถาบันลูกโลกสีเขียวเป็นผู้มอบรางวัล จากผลงานที่สมัครเข้ารับการพิจารณาและการสรรหาจำนวนทั้งสิ้น 376 ผลงาน คณะกรรมการ รางวัลลูกโลกสีเขียวได้ลงพื้นที่พิจารณาผลงานตลอดปี 2561 จนถึงต้นปี 2562 และตัดสินมอบ "รางวัลลูกโลกสีเขียว" ครั้งที่ 19 แก่ผลงานทรงคุณค่าจำนวน 36 ผลงานจาก 7 ประเภท ได้แก่ ชุมชน บุคคล กลุ่มเยาวชน งานเขียน ความเรียงเยาวชน สื่อมวลชน และ "สิปปนนท์ เกตุทัต รางวัลแห่งความยั่งยืน" ซึ่งผู้รับรางวัลจะได้รับโล่รางวัลพร้อมเกียรติบัตร และเงินรางวัลเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,005,000 บาท

โดย ดร.สุเมธ ได้กล่าวแก่ผู้รับรางวัลว่า "สถานการณ์โลกในขณะนี้ จำเป็นต้องมี "คนดีดี" อย่างท่านทั้งหลายจำนวนมาก รางวัลลูกโลกสีเขียว ก็จะยืนเคียงข้างเพื่อหนุนเสริมการทำงาน และเป็นกำลังใจให้"

รวมพลังเปลี่ยนโลก รางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่19

ทั้งนี้ ชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ยืนยันถึงความตั้งใจจริงสำหรับการสนับสนุนภารกิจของสถาบันลูกโลกสีเขียว ในการมอบรางวัลแก่ผู้ที่อุทิศตนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเพื่อประโยชน์ของสาธารณะ

รวมพลังเปลี่ยนโลก รางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่19

"นับตั้งแต่ปี 2542 ที่ได้มีการจัดพิธีมอบ "รางวัลลูกโลกสีเขียว" ขึ้น เพื่อยกย่อง เชิดชู บุคคล ชุมชน เยาวชน และสื่อมวลชน ผู้มีจิตสาธารณะในการร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรของประเทศ ทั้ง ดิน น้ำ ป่า และสิ่งแวดล้อม จนเกิดผลสำเร็จอย่างประจักษ์ ล้วนเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ดีว่าเราทุกคนตระหนักอยู่เสมอ ถึงหน้าที่ในฐานะสมาชิกของโลก ที่ต้องการร่วมประคับประคอง แก้ปัญหา ฟื้นฟู และรักษาทรัพยากรของโลก เพื่อดำรงไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน อันจะดำรงประโยชน์ต่อชีวิตของคนและชุมชนอย่างแท้จริง เป็น "พลังเปลี่ยนโลก" สำคัญ ที่ จะขับเคลื่อนประเทศไทย ให้กลับมีความสมบูรณ์ เป็นอู่ข้าว อู่น้ำ ของพี่น้องไทยสร้างชุมชนและประเทศไทย ให้มีความผาสุก ด้วยวิถีชีวิตพอเพียง บนฐานทรัพยากรที่ทุกคนต่างตระหนักถึงคุณค่า รู้ใช้ รู้รักษา เปลี่ยนตนเอง เพื่ออนาคตทรัพยากรที่สมบูรณ์ต่อไป"

รวมพลังเปลี่ยนโลก รางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่19

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีเวทีเสวนา "ยกเลิกไม้หวงห้ามตามมาตรา 7 มีแต่ได้กับได้จริงหรือ"เพื่อไขความเห็นมุมมองจากภาครัฐ ชุมชน สู่มุมมองธุรกิจเสวนา Green Talk "รับไม้ ต่อมือ"ในแนวคิดและการลงมือปฏิบัติจากรุ่นสู่รุ่นห้องเสวนาย่อยรายภาคเพื่อจุดพลังในการรักษ์โลกตามวิถีของแต่ละภาค และกิจกรรม "ลานภาค"ที่รวมความโดดเด่นของคุณค่าจากทรัพยากรดิน น้ำ คลอง ป่า คน พร้อมด้วยลานสัมมะปิหลากหลายเมนูจากภาคต่างๆ 

รวมพลังเปลี่ยนโลก รางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่19

การก้าวสู่ปีที่ 21 ของสถาบันลูกโลกสีเขียว ยังคงเดินหน้าในภารกิจเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมกำลังใจ เชิดชู ผู้ที่ได้อุทิศตนเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชนและประเทศไทย 

เป็นต้นแบบของคนที่จะส่งต่อ "พลังเปลี่ยนโลก" สู่คนรุ่นต่อไป เพื่อให้เป็นพลังที่เข้มแข็งในการขับเคลื่อนสังคมและชุมชนของตน จนไปสู่ระดับประเทศในอนาคต