บีทีเอส กรุ๊ปฯ ผงาดคว้า “Transport Deal of the Year (Thailand)”

บีทีเอส กรุ๊ปฯ ผงาดคว้า “Transport Deal of the Year (Thailand)”

“Transport Deal of the Year (Thailand)” ของ The Asset นิตยสารการเงินชั้นนำแห่งเอเชีย จากการออกหุ้นกู้สีเขียว (Green Bond) ครั้งที่ 2

บีทีเอส กรุ๊ปฯ ผงาดคว้า “Transport Deal of the Year (Thailand)” ของ The Asset นิตยสารการเงินชั้นนำแห่งเอเชีย จากการออกหุ้นกู้สีเขียว (Green Bond) ครั้งที่ 2 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านระบบขนส่งมวลชนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ในปี 2007 คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC) ได้เผยแพร่รายงานผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน ส่งผลให้กองทุนบำนาญของสวีเดนเริ่มมีการพิจารณาถึงการลงทุนที่จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ จึงก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างธนาคาร SEB (Sandinaviska Enskilda Banken AB), องค์กร CICERO (the Centre for International Climate and Environmental Research) และธนาคารโลก (World Bank) ที่จะศึกษาวิธีการจัดหาแหล่งเงินทุนที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงให้แก่นักลงทุนและสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สิ่งแวดล้อมได้

ในปี 2008 หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือ หุ้นกู้สีเขียว (Green Bond) แรกจึงถือกำเนิดขึ้น โดยธนาคารโลก (World Bank) ที่ระดมเงินทุนเพื่อใช้ในโครงการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในประเทศต่างๆ ซึ่ง Green Bond ถือเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของโลก เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงการทำงานร่วมกันของนักลงทุน, นักวิทยาศาสตร์, ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ และผู้กำหนดนโยบาย และได้เป็นจุดเริ่มต้นของ Green Bond Principles ของ ICMA                 (the International Capital Markets Associations) นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาตลาด Green Bond มีการเติบโตเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมีการตระหนักถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และอยากสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ดังนั้น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส กรุ๊ปฯ ที่มีนโยบายการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน และการยึดมั่นในการดููแลรักษาสิ่งแวดล้อม จึงได้ริเริ่มออก หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือ หุ้นกู้สีเขียว (Green Bond) เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเงินอย่างหนึ่งที่มีส่วนช่วยสนับสนุนการลดภาวะโลกร้อน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปได้มีโอกาสในการลงทุนในโครงการต่างๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการรถไฟฟ้า โดยออก Green bond ชุดแรกของประเทศไทยที่เสนอขายภายใต้เกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 ชนิดไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน
และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่ารวมไม่เกิน 13,000 ล้านบาท เพื่อใช้ชำระคืนหนี้จากการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้า               โมโนเรลสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) และรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) โดยการออก Green Bond ครั้งนี้ ยังได้รับรางวัล “Best Green Bond ประจำปี 2019ในประเภท Best Deal หมวดธุรกิจขนส่งและโครงสร้างพื้นฐาน ในงาน The Asset Triple A Sustainable Capital Markets Regional Awards 2019  

ล่าสุดบีทีเอส กรุ๊ปฯ ได้ออก Green Bond ครั้งที่ 2 อายุ 2 - 10 ปี จำนวน 8,600 ล้านบาท เมื่อ                          เดือนพฤศจิกายน 2563 เพื่อใช้ชำระคืนหนี้คงค้างและลงทุนเพิ่มเติมในโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพู                           และสายสีเหลือง ยังได้รับรางวัล Transport Deal of the Year (Thailand)” จาก The Asset Triple A Infrastructure Awards 2021 จัดทำโดย The Asset นิตยสารการเงินชั้นนำแห่งเอเชียอีกครั้ง เนื่องจากระบบขนส่งมวลชนดังกล่าว เป็นระบบพลังงานไฟฟ้า ลดการใช้รถยนต์ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)  และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยรางวัลนี้จะพิจารณาจากตราสารหนี้ในหมวดระบบขนส่งมวลชนที่มีความโดดเด่นในการระดมทุน เน้นในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านความยั่งยืน (Sustainable Infrastructure)  

นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “Green Bond” ได้รับความสนใจจากนักลงทุนในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ทำให้ทางบีทีเอส กรุ๊ปฯ ต้องออกหุ้นกู้ดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน และทั้งสองรางวัลที่บีทีเอส กรุ๊ปฯ ได้รับก็สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการรักษาสมดุล ระหว่างการรักษาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ควบคู่กับการมีจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมตามหลักบรรษัทภิบาล โดยส่งผ่านนโยบายจากระดับองค์กรไปสู่พนักงาน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ และนำวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ            มาใช้งาน“   

นอกจากนี้การดำเนินงานของบีทีเอส กรุ๊ปฯ ยังเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ และระดับสากลอีกมากมาย
ทั้งการได้รับคัดเลือกให้อยู่ในดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ (DJSI) เป็นระยะเวลา 3 ปี ติดต่อกัน (2561-2563),
การได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่ 1 ของโลก ในกลุ่มการขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม และล่าสุดเป็นบริษัทในกลุ่มขนส่งทางรางแห่งแรกและแห่งเดียว ที่ได้รับการรับรองว่าเป็นบริษัทที่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ carbon neutral transportation company (โดยได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกแห่งประเทศไทย)

                                                                                                                                               

                                                                                                                                                                                                ขอขอบคุณ

       สำนักสื่อสารองค์กร