“มื้อเที่ยงอิ่มใจ สู้ภัยโควิด 19”ไฮสปีดสายตะวันออกเชื่อมสามนามบิน จับมือ การรถไฟแห่งประเทศไทย

“มื้อเที่ยงอิ่มใจ สู้ภัยโควิด 19”ไฮสปีดสายตะวันออกเชื่อมสามนามบิน จับมือ การรถไฟแห่งประเทศไทย

นำอาหารพร้อมน้ำดื่มสนับสนุนบุคลากรและพนักงาน โรงงานมักกะสัน สร้างรอยยิ้ม และกำลังใจให้แก่กัน

บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด นำโดย นายเหว่ยเหวย หวง ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ และนายภัคพงศ์ พัฒนมาศ รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ และหัวหน้าฝ่ายการตลาด และตัวแทนพนักงานบริษัท ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย นำโดย ดร. ศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน จัดกิจกรรม “มื้อเที่ยงอิ่มใจ สู้ภัยโควิด 19 @โรงงานมักกะสัน” นำข้าวกล่องพร้อมรับประทานและน้ำดื่มจากซีพีแรม จำนวน 1,000 ชุด มอบให้กับบุคลากร และพนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่โรงงานมักกะสัน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย หวังช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่เดินขึ้นในปัจจุบัน สร้างรอยยิ้ม และเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปได้ด้วยกัน

สำหรับกิจกรรม “มื้อเที่ยงอิ่มใจสู้ภัยโควิด-19 ณ โรงงานมักกะสัน” เกิดขึ้นจากความห่วงใยของ บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด และการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการส่งต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีที่มีให้กับชาวโรงงานมักกะสันและครอบครัวอย่างทั่วถึง โดยภายในงานผู้บริหารจากทั้งสององค์กรได้ร่วมกันเตรียมอาหาร ตลอดจนตักอาหารมอบ และร่วมรับประทานอาหารกับพนักงานในโรงงานอย่างเป็นกันเอง

“ผมเชื่อมั่นเหลือเกินว่าอาหารที่พวกเราร่วมกันรับประทานด้วยกันในวันนี้จะไม่เพียงให้ทั้งความอิ่มท้อง แต่ยังสร้างความอิ่มใจแก่พวกเราทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเราชาวรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบินทุกคน เพราะไมตรีที่ได้รับจากทุกท่านนั้นมีความหมายต่อพวกเรามาก ต้องขอขอบคุณ การรถไฟแห่งประเทศไทย และพี่น้องชาวรถไฟทุกท่านที่เปิดโอกาสให้เราได้เข้ามาร่วมทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ และอบอุ่นใจเช่นนี้ ผมขอขอบคุณทุกท่านสำหรับความร่วมมือ และสนับสนุนการดำเนินงานของพวกเรามาโดยตลอด ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมดี ๆ ที่เราจัดร่วมกันในวันนี้จะสามารถต่อยอดไปสู่กิจกรรมอันดีอื่น ๆ อีกมากมายในอนาคตของทั้งสององค์กร ที่มีเป้าหมายในการดำเนินงานเดียวกัน คือการพัฒนาและสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ และประชาชนชาวไทย เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป” นายเหว่ยเหวย หวง กล่าวปิดท้าย