CEO นักกีฬา บริหารงานบนหลักการความมีวินัย และการทุ่มเท

CEO นักกีฬา บริหารงานบนหลักการความมีวินัย และการทุ่มเท

พร้อมศึกษาตลาดเฉพาะกลุ่ม รุกตลาดคลัสเตอร์ โฮม บ้านเพื่อครอบครัวใหญ่ฉีกกลุ่ม Brand Royalty มั่นใจลูกค้ายุคใหม่ตัดสินใจซื้อเพราะคุณภาพ

     

 

แกรนด์ ทรีนี้ตี้ เลือดใหม่อสังหา เน้นWork Smart พร้อมด้วยWork Hard เพื่อส่งมอบบ้านที่พร้อมตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ ฉีกกลุ่ม Brand Royalty มั่นใจลูกค้ายุคใหม่ตัดสินใจซื้อเพราะคุณภาพ และความคุ้มค่า หลักคิดการบริหาร คิดแทนผู้บริโภค ทำการบ้านให้หนัก รู้ให้จริง แล้วก้าวลงสนามอย่างมั่นใจ สู้ศึกอสังหาฯ

 

นายดิษย์ฐา จิราศิริวรภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ ทรีนีตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด นักบริหารเลือดใหม่ที่พร้อมก้าวสู้ความสำเร็จ กับแนวทางการบริหารด้วยการยึดหลักความทุ่มเท อดทน และ Work Hard ความสำเร็จที่มาด้วยความใส่ใจ   เพราะเชื่อว่าแนวคิดการบริหาร การทำงานของแต่ละคนอาจจะมีที่มาที่ไปที่แตกต่างกัน บางคนความเป็นนักบริหารเกิดมากับสายเลือด บางคนเกิดมาจากภาระหน้าที่ แต่อย่างไรก็ตามทุกคนต้องหาแนวทางการทำงานที่เหมาะ และเป็นตัวเองเพื่อไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือนำพาทีม นำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ สำหรับแกรนด์ ทรีนีตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ ผมเป็นผู้บริหารที่นำเอาแนวทางการบริหารจากบทเรียนในวัยเด็กมาเป็นแรงขับเคลื่อนในการบริหารองค์กรในยุคที่เศรษฐกิจต้องการความโดดเด่นและเหนือกว่าเพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภค

 

 นอกจากWork Smart แล้ว ต้องWork Hardด้วย แนวคิด Work Hard มาจากความเป็นตัวตนของผมที่ถูกฝึก ทุ่มเท เมื่อสมัยวัยเด็ก ผมเป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่ลงแข่งขันระดับประเทศมาตลอด ทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่หลังจากการเรียนไปกับการฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขัน เริ่มว่ายน้ำเพื่อที่จะแข่งขันตั้งแต่อายุ 6 ปี จนถึงประมาณอายุ 18 ปี เป็นช่วงเวลาที่ต้องทุ่มเททั้งกำลังกาย กำลังใจ อีกทั้งต้องมีวินัยในการฝึกซ้อมอย่างมาก เพราะแพ้ชนะวัดกันแค่เสี้ยววินาที เรื่องของอันดับเป็นเรื่องที่ต้องเอาชนะ แต่เหนือสิ่งอื่นก็คือการชนะใจตนเองที่ในแต่ละวันเราต้องพาตัวเองไปเพื่อฝึกฝนอย่างหนัก ในขณะที่เพื่อน ๆ คนอื่นมีกิจกรรมหลังเลิกเรียนได้หลากหลาย แต่ผมต้องมุ่งมั่นเพียงสิ่งเดียวคือการสร้างสถิติ ไม่สามารถวอกแวก หรือล้มเลิก และช่วงเวลานั้นเองที่หล่อหลอมจนทำให้วันนี้เราได้เข้าใจกับคำว่า ทุ่มเท เข้าใจกับการ Work Hard เชื่อว่าการตั้งใจทำแบบใช้เวลาทั้งหมดฝึกซ้อม ลงสนามจริง มันจะสร้างความสำเร็จให้เราได้

         การ   Work Hard ลงสนามจริงกับการเป็นผู้บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในระยะแรกเราเริ่มจากการเก็งกำไรที่ดิน เชื่อในศักยภาพของทำเล ทำเลที่ดีสร้างมูลค่าได้ ทำเลที่ดีสร้างผลที่ดีกับเราได้ ในช่วงเริ่มต้นของการเข้าอสังหา ฯ เราเริ่มจากการซื้อที่ดินมา และแบ่งขายจนสามรถเกิดเป็นกำไรต่อยอดในระยะเวลาสั้น ๆ อีกทั้งช่วงเวลานั้นได้มีโอกาสในการศึกษา หาข้อมูลเกี่ยวกับการก่อสร้าง และการออกแบบเสริมด้วย หลาย ๆ องค์ประกอบที่ลงตัวจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่างที่ต่อยอดมาจนกล้าขึ้นเป็นนักพัฒนาอสังหา ฯ ในวันนี้   อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว การฝึกซ้อมอย่างทุ่มเทสำคัญต่อการแข่งขันมาก ส่งผลให้เติบโตมาและมีแนวคิดว่า การทำงานหนักมากพอทำการบ้านมากพอ จะทำให้มีความพร้อมความมั่นใจที่มากกว่าได้เปรียบกว่าเสมอ

 

ต้องทำการบ้านหนัก และเข้าใจตลาด  ในช่วงวิกฤตแบบนี้ ผู้ประกอบการอสังหาฯ ทุกรายต่างมุ่งพัฒนาสินค้าให้ดีที่สุด รวมถึงงัดกลยุทธ์การตลาดทุกอย่างออกมาแข่งขันกัน แต่เมื่อเราได้ศึกษาพฤติกรรมลูกค้า พบว่ากลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบันนี้ (Gen Y , Gen Z) ไม่ใช่กลุ่มที่เลือกซื้อจาก Brand loyalty แต่จะให้ความสำคัญกับตัวสินค้าเป็นอย่าง ๆ หรือเรียกได้ว่าไม่ติด Brand แต่จะเลือกสิ่งที่คุ้มค่าและเหมาะสมที่สุด ท่ามกลางวิถีชีวิตในปัจจุบันที่เร่งรีบและต้องแข่งขันกับเวลา ซึ่งในยุคปัจจุบันที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ (รีวิว) ได้อย่างง่ายดาย ยิ่งทำให้ทุก ๆ ดีเวลลอปเปอร์ที่ทำการบ้านมากพอ มีโอกาสที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เทียบเท่ากันหมด ดังนั้น สิ่งที่เรา (แกรนด์ ทรีนีตี้) ทำ คือการค้นหาความต้องการให้ตรงกกลุ่มที่สุด และทำการบ้านอย่างหนักเพื่อสร้างบ้านที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในยุคปัจจุบัน ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในแง่ความสะดวก หรือความคุ้มค่า

 

แกรนด์ ทรีนีตี้ รุกหนักมาก ปี 2564 ตลาดคลัสเตอร์โฮม  ภาพรวมธุรกิจของ แกรนด์ ทรีนีตี้ ในปี 2021 ยังคงเป็นในเรื่องของการพัฒนาโครงการบ้านแนวราบทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดตามแผนงานที่ได้วางไว้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการเปิดตัวบางโครงการออกไปในระยะเวลาสั้น ๆ บ้าง โดยช่วงปี 2021 จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ เป็นโครงการบ้านแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม ราคาขายเริ่มต้น 2.9-4.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวมอยู่ที่ประมาณ 750 ล้านบาท  และจะสามารถทยอยเปิดให้ชมบ้านตัวอย่างได้ช่วงไตรมาสที่ 3-4 ปีนี้ บริษัทฯ คาดว่ายอดขายจะเริ่มเข้ามามากขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 พร้อมทั้งตั้งเป้าอัตราการเติบโตยอดขายราว 20% พร้อมกันนี้จะได้พบกับบ้านตัวอย่างโครงการ วัน แอททีเลียร์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ พหลโยธิน  Luxury Cluster Home 4.5 ชั้น การออกแบบสไตล์ Model Classic และโครงการ วัน แอททีเลียร์ สตรีวิทยา บ้านแฝด 3 ชั้น New Modern Luxury  ทางด้านตลาดคลัสเตอร์ โฮม ที่เราเริ่มพัฒนามาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา เรามองว่าตลาดนี้ หากเราจัดสรรฟังก์ชันได้ลงตัว บนทำเลที่มีศักยภาพ ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางครบคัน ราคาที่คุ้มค่าที่สุด ยิ่งตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในยุคปัจจุบันและอนาคต

 

 แกรนด์ ทรีนีตี้ ต้องมอง มุมลึก VS มุมกว้าง ทั้งนี้เราต้องการสร้างแบรนด์ แกรนด์ ทรีนีตี้ ให้เป็นที่รู้จักของตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ เป็นแบรนด์ที่มีบุคลิกชัดเจนในธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ อยากพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ และที่สำคัญต้องสร้างคุณค่าให้กับวงการนี้ ให้กับลูกค้าของเรา โดยวางเป้าแผนธุรกิจระยะสั้นภายใน 3-5 ปีนี้ ให้มีการเปิดตัวอย่างน้อยปีละ 1-3 โครงการ เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี วางเป้ารายได้ และยอดขายไม่ต่ำกว่าปีละ 500 ล้านบาท

โลกในยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ในอุตสาหกรรมอสังหาฯ ก็เช่นกัน คิดว่าการคิดค้นนวัตกรรม หรือฟังก์ชันบ้านใหม่ๆออกมา เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยในโลกยุคปัจจุบันและอนาคตที่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับแกรนด์ ทรีนีตี้ ในฐานะผู้บริหาร และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เชื่อว่ากรอบความคิดแบบใหม่ ๆ จะสามารถสร้างบ้านเพื่อรูปแบบการอยู่อาศัยที่มีความสุขมากขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น อุ่นใจมากขึ้นที่ได้อยู่อาศัยในบ้านภายใต้แนวคิดใหม่ ๆ และเหมาะกับทุกคนในครอบครัวที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน เรียกว่าครอบคลุมทุกความต้องการของคนในครอบครัว

 

และจากแนวคิดการออกแบบในมุมมองใหม่ๆนี้ ทำให้แกรนด์ ทรีนีตี้ได้รับรางวัล Winner “Best Housing Landscape Architectural Design” และรางวัล Highly Commended “Best Housing Architectural Design” ในงาน Thailand Property Awards 2020 จากโครงการ “One Atelier Private Residence Phaholyothin” ถือเป็นผลงานที่การันตีความใส่ใจอย่างพิถีพิถันในการออกแบบโครงการให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่(New Normal) มากที่สุด ซึ่งรางวัลที่ได้รับมาเป็นกำลังใจให้กับทีมงานมุ่งมั่นพัฒนาโครงการในอนาคตให้ดีที่สุดต่อไป

 

สายสตรอง กับ ไตรกีฬา เวลาว่างจากการบริหาร หลังจากทุ่มเทอย่างหนักไปกับการทำงานบริหาร เมื่อมีเวลาว่างเลยมักจัดสรรเวลาไปออกกำลังกายอย่างจริงจังอีกครั้ง โดยต่อยอดจากเดิมที่เป็นนักกีฬาว่ายน้ำ ตอนนี้หันมาฝึกฝนไตรกีฬา (ว่าย ปั่น วิ่ง) ซึ่งเป็นกีฬาอีกหนึ่งประเภทที่ต้อง Work Hard (อีกแล้ว) ต้องทุ่มฝึกซ้อมอย่างหนัก เพราะต้องใช้ความทรหดอดทนของร่างกายพอสมควร การวางแผนฝึกซ้อม และวางแผนการแข่งขันก็เป็นสิ่งสำคัญ เช่น ต้องว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และวิ่ง โดยใช้กำลังและเวลาเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสมกับพละกำลังที่เรามีอยู่และจบการแข่งขันด้วยเวลาที่ดีที่สุด จุดนี้เองที่ได้เอาหลักการบริหารกลับไปใช้กับกีฬา เพราะงานบริหารอสังหาฯ สอนให้รู้ว่า ที่ดินคือทรัพยากรที่มีค่าต้องบริหารให้เกิดมูลค่าสูงสุดให้ได้ ส่วนไตรกีฬา “กำลังแรงกายของเรา” ที่มีทั้งหมดจะต้องบริหารจัดการอย่างไรให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด

มุมมองนักบริหาร VS ปัจจัยเชิงเศรษฐกิจ  ในปี 2021 หรืออีก 2-3 ปีข้างหน้าต่อจากนี้ คิดว่าเรื่องแรก คือโรคระบาด COVID-19 ยังคงเป็นปัจจัยด้านลบที่สำคัญ ที่ส่งผลต่อทุกอุตสาหกรรม และจะส่งผลต่อกำลังซื้อที่อยู่อาศัยอย่างมาก อีกทั้งการเดินทางระหว่างประเทศทั่วโลกถูกหยุดลง ฉุดกระแสเศรษฐกิจโลก เรื่องที่สองคือการโยกย้ายฐานผลิตของอุตสาหกรรมหลัก ๆ ไปประเทศเพื่อนบ้านเนื่องจากปัจจัยส่งเสริมด้านการค้าภายในประเทศ อุปสรรคทั้ง 2 เรื่องนี้ น่าจะเป็นเรื่องหลัก ๆ ที่ส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศไทยในช่วง 1-5ปี หรืออาจเป็น 10 ปีต่อจากนี้อย่างแน่นอน หากยังไม่มีปัจจัยบวกอื่น ๆ เข้ามาเสริม ทางด้าน แกรนด์ ทรีนีตี้ ใช้หลักการ มุ่งค้นหาพฤติกรรมและความต้องการให้ตรงกกลุ่มที่สุด ทำการบ้านอย่างหนักเพื่อสรรสร้างบ้านและโครงการที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในยุคปัจจุบัน ให้ได้มากที่สุด