แลคตาซอย ลุยทำตลาดช่วงโค้งสุดท้ายของปี

แลคตาซอย ลุยทำตลาดช่วงโค้งสุดท้ายของปี

จัดแคมเปญ “เติมพลัง...เติมความสุข ที่คุณเลือกได้” เปิดให้ลูกค้าและร้านค้านำใบเสร็จมาแลกของสุดชิค และลุ้นชิงโชคจับรางวัลใหญ่

 

 

แลคตาซอย ลุยตลาดช่วงโค้งสุดท้ายของปี ทุ่มงบ 15 ล้านบาท จัดแคมเปญ “เติมพลัง...เติมความสุข ที่คุณเลือกได้” เปิดให้ลูกค้าและร้านค้านำใบเสร็จมาแลกของสุดชิค และลุ้นชิงโชคจับรางวัลใหญ่ เผยหลังจากนี้ยังมีอีกหลายแคมเปญจ่อคิวกระตุ้นตลาด เน้นกลยุทธ์ใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละแคมเปญ เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคแบบเจาะลึก มั่นใจปีนี้ยอดขายเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

 

นางสาวมัลลิกา จิรพัฒนกุล ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายขาย  บริษัท แลคตาซอย จำกัด เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ว่า แลคตาซอยยังคงเดินหน้าจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้จัดแคมเปญ “เติมพลัง...เติมความสุข ที่คุณเลือกได้” วางงบการตลาดสำหรับแคมเปญนี้ไว้ที่ 15 ล้านบาท เปิดให้ทั้งผู้บริโภคและร้านค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์แลคตาซอยจากที่ใดก็ได้ เพียงแค่นำใบเสร็จมาลงทะเบียนผ่าน www.lactasoyshop.com กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน เพื่อยืนยันในระบบและรับคะแนนสะสม โดยคะแนนที่ได้นั้น  สามารถนำมาแลกของรางวัลได้ทุกวัน หรือหากไม่ต้องการแลกของรางวัล สามารถนำ 100 คะแนน มาแลกรับ 1 สิทธิ์ในการลุ้นจับรางวัลชิงโชคได้อีกด้วย

สำหรับรางวัลในแคมเปญ “เติมพลัง...เติมความสุข ที่คุณเลือกได้” มีทั้งสิ้นกว่า 10,000 รางวัล โดยมีรางวัลสุดว้าวที่แลคตาซอยจัดเตรียมมาเอาใจขาช้อปให้ได้ร่วมลุ้นกัน ไม่ว่าจะเป็นทองคำหนัก 1 สลึง รถมอเตอร์ไซค์ เสื้อยืดที่ออกแบบลายเป็นพิเศษจากแลคตาซอยและอักขระ (Akara)  รวมทั้งคูปอง และกิฟท์เซ็ทจากแลคตาซอยอีกมากมาย โดยสามารถเริ่มสะสมคะแนนได้ตั้งแต่ 5 ต.ค.- 14 ธ.ค. 63 แลกของรางวัลได้ตั้งแต่ 16 ต.ค.-14 ธ.ค.63 และจับรางวัลชิงโชคในวันที่ 18 ธ.ค. 63

 “แคมเปญนี้นับเป็นการคืนกำไรให้กับทั้งผู้บริโภคและร้านค้า โดยรางวัลที่แลคตาซอยเตรียมมานั้นเรียกได้ว่าจะต้องถูกใจอย่างแน่นอน ซึ่งบริษัทยังคงเดินหน้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้จะมีอีกหลายแคมเปญและกิจกรรมที่แลคตาซอยจะปล่อยตามมาอีก เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดและปลุกกำลังซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ดี สำหรับภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 แต่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์โดยมุ่งทำตลาดออนไลน์มากขึ้น ใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับแต่ละแคมเปญเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคแบบเจาะลึกและสอดรับกับวิถีชีวิต New Normal ส่วนทิศทางในครึ่งปีหลังบริษัทยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าในปีนี้จะสามารถทำยอดขายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้” นางสาวมัลลิกา กล่าว