‘ชมรมเยาวชนสร้างชาติ’

‘ชมรมเยาวชนสร้างชาติ’

‘ชมรมเยาวชนสร้างชาติ’ สร้างคนดี คนเก่ง คนกล้า ให้ประเทศไทยพัฒนายั่งยืน

คำพูดที่ว่า “เด็กในวันนี้ คือผู้ใหญ่ในวันหน้า” ยังเป็นจริงเสมอ เพราะหากเราช่วยกันพัฒนาเยาวชนของชาติให้เป็นคนดี คนเก่ง คนกล้า เชื่อได้เลยว่าเด็กเหล่านี้จะเติบโตเป็นผู้นำที่ดีและนำพาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างแน่นอน 

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ในฐานะประธานสถาบันการสร้างชาติ ผู้ก่อตั้งสถาบันฯ เล่าถึงความเป็นมาว่า… “ความคิดเรื่องสถาบันการสร้างชาติ เกิดขึ้นตอนที่ผมเป็นนักวิชาการอาวุโสของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งผมได้พูดคุยกับเพื่อนอาจารย์ว่า ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา จะมีแค่ 13 ประเทศเท่านั้นที่เปลี่ยนผ่านจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูง นั่นสะท้อนให้เห็นว่า ผู้นำทั้งหลายทั่วโลกอาจจะนำพาประเทศไปสู่ความรุ่งเรืองไม่ค่อยเป็นสักเท่าไร แม้จะมีอำนาจ แต่ก็อาจจะจัดการไม่ได้ ส่วนหนึ่งมาจากฐานรากคือประชาชนนั้นไม่แข็งแรง เราจึงเกิดความคิดในการตั้งหลักสูตรการสร้างชาติขึ้นมา โดยผมขอเริ่มต้นที่ประเทศไทยก่อน

แรกเริ่มเราจะเลือกคนที่เป็นผู้นำในวงการต่างๆ เช่น นายกรัฐมนตรี รองนายกฯ ปลัดกระทรวง อธิบดี ทหาร ตำรวจ ซีอีโอ พระสงฆ์ ฯลฯ ให้มาเรียนหลักสูตรนี้ก่อน โดยมีจำนวน 123 คนต่อรุ่น เพื่อจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเจริญขึ้น และเป็นต้นแบบของประเทศอื่นๆ ซึ่งสถาบันการสร้างชาตินี้จะเป็นที่รวบรวมบุคคลที่มีจิตใจดีงาม คนดี คนเก่ง คนกล้า จึงนำไปสู่ ‘หลักสูตรนักบริหารระดับสูงเพื่อการสร้างชาติ’ (นสช.) ที่เปิดให้ผู้ใหญ่มาเรียนแค่สัปดาห์ละ 1 วันเป็นเวลา 5 เดือน เพื่อผู้เรียนจะได้นำแก่นสาระและหลักคิดไปประยุกต์ใช้กับชีวิตตัวเอง ครอบครัว ธุรกิจ หรือหน่วยงานที่ตัวเองสังกัดได้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้เรียนทั้งหมด 1,230 คน (รุ่นที่ 1-10) ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 11 แล้ว ต่อมาก็ได้มีหลักสูตรต่างๆ อีก เช่น วัดสร้างชาติ, เยาวชนสร้างชาติ เป็นต้น”

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน จึงขอโฟกัสไปที่ ‘หลักสูตรเยาวชนสร้างชาติ’ เพราะเล็งเห็นว่าถ้าอยากให้ประเทศชาติเจริญยั่งยืน ก็ต้องโฟกัสไปที่เยาวชนก่อน เพราะเด็กเหล่านี้จะกลายเป็นผู้นำประเทศในอนาคต สถาบันจึงเลือกเด็กมาปั้นให้เป็นคนเรียนเก่ง มีความคิดความอ่าน ทำวิจัยได้ สร้างนวัตกรรมเป็น มีภาวะผู้นำ มีคุณธรรม บริหารเป็น สื่อสารเก่ง สามารถรวมเพื่อนๆ เพื่อตั้งชมรมเยาวชนสร้างชาติ และช่วยกันขับเคลื่อนสิ่งดีๆ เพื่อสังคมต่อไปได้

“จุดเริ่มต้นคือ เราเลือกเด็กๆ จากโรงเรียนละ 3 คน จนกลายเป็นโรงเรียนละหลายร้อยคน โดยทำมาแล้ว 2,800 โรงเรียน จึงมีเยาวชนนับแสนที่มีโอกาสได้เข้ามาร่วมชายคาโครงการเยาวชนสร้างชาติ ซึ่งวัตถุประสงค์สำคัญก็คือ เราต้องการให้เด็กมาฝึกการเรียนรู้ ฝึกทักษะ ความสามารถ เป็นคนดี มีคุณธรรม เพื่อจะไปเป็นเยาวชนต้นแบบในการสร้างชาติให้กับเยาวชนส่วนที่เหลือในประเทศ ซึ่งพวกเขาจะไม่ทำหน้าที่เพียงแค่เป็นนักเรียนและเติบโตไปประกอบอาชีพเท่านั้น แต่ยังทำประโยชน์ต่อสังคมอย่างมีอุดมการณ์อีกด้วย

ที่ผ่านมาโครงการเยาวชนสร้างชาติจัดมาแล้ว 8 ครั้ง และครั้งล่าสุดที่กำลังจะจัดขึ้นก็คือ ‘โครงการเยาวชนสร้างชาติ ครั้งที่ 9’ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 7-9 ส.ค.2563 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม โดยคัดเลือกเยาวชนจาก 4 จังหวัดในภาคอีสานคือ ขอนแก่น มหาสารคาม ชัยภูมิ และนครราชสีมา จำนวน 350 โรงเรียน โรงเรียนละ 3 คน (รวม 1,050 คน) ครูอาจารย์ 350 คน และผู้อำนวยการอีก 350 คนจากโรงเรียนเหล่านี้ มาเข้าอบรมร่วมกัน อบรมแยกกัน แล้วยังมีพี่เลี้ยงที่เป็นเยาวชนสร้างชาติรุ่นพี่เข้ามาช่วย รวมทั้งผู้มีเกียรติจากหน่วยงานในท้องถิ่นด้วย”

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เสริมว่า การจัดโครงการเยาวชนสร้างชาติที่ผ่านมา ได้มีการจัดค่ายเยาวชนเวียนกันไปจนครบทุกภาคของประเทศไทยแล้ว สำหรับครั้งที่ 10 ก็อาจจะเวียนไปจัดในภาคเหนืออีกครั้ง โดยมีทั้งระดับมัธยม อาชีวะ และมหาวิทยาลัย

“เกณฑ์การคัดเลือกเด็กคือ เราจะให้ ผอ.แต่ละโรงเรียนสมัครเข้าร่วมโครงการก่อน จากนั้นจะให้คัดเลือกเด็กนักเรียนมาโรงเรียนละ 3 คน ใครสมัครเร็ว คุณสมบัติครบ จะได้สิทธิ์ก่อน โดยเราจะเลือกเด็กที่ใฝ่ดีซึ่งสามารถเป็นเยาวชนต้นแบบในอนาคตได้ เพื่อนำมาเติมทักษะความเก่ง ความกล้าที่จะยืนหยัดในการทำสิ่งที่ดีเข้าไปให้ คือเราอยากให้เยาวชนที่เข้าอบรมกับเราเป็นต้นแบบที่ดี เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว โดยมีรุ่นพี่ที่เป็นบัณฑิตครูอาสา 1 คน จากทุก 15 โรงเรียน รวม 100 กว่าคนทั่วประเทศเข้ามาช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด

ตามด้วย Cap-Corner Project ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ที่มีคุณค่าคู่ควรกับการที่เยาวชนจะลงมือทำ โดยเราสอนเด็ก   ยิงปืนนัดเดียวให้ได้นกทุกฝูง ทำน้อยแต่ได้มาก ได้ผลลัพธ์เลอเลิศ จึงทำให้เด็กเกิดความคิดสร้างสรรค์  เกิดความสามารถในการค้นคว้าวิจัยที่เก่งขึ้น สร้างนวัตกรรมได้ ปฏิบัติและวัดผลเป็น ทั้งหมดนี้คือประโยชน์ที่เด็กจะได้รับ เพื่อให้พวกเขามีความเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพสูงอย่างที่ประเทศชาติอยากได้ ฉะนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าเยาวชนที่เข้ามาร่วมโครงการนี้จะกลายเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคตได้”

ที่สำคัญเด็กเหล่านี้ยังสามารถต่อยอดไปสร้างชมรมสร้างชาติในท้องถิ่นของพวกเขาได้อีกด้วย อาทิ ชมรมเพื่อการพัฒนาและกำจัดขยะในโรงเรียน แล้วนำขยะเหล่านั้นมาแปลงเป็นพลังงานที่มีคุณภาพ เป็นต้น ก็แล้วแต่ว่าชมรมที่เด็กตั้งขึ้นนั้นจะเน้นการพัฒนาในเรื่องใด ซึ่งถ้ามี 2,800 ชมรม ก็เท่ากับมี 2,800 โปรเจ็กต์นำร่องที่พวกเขาทำไปล่วงหน้าแล้วนั่นเอง

“โปรเจ็กต์เหล่านี้จะมีการจัดประกวดประจำปี เพื่อจะดูว่าโปรเจ็กต์ไหนเป็นโปรเจ็กต์ที่เลอเลิศ ซึ่งคนทั่วไปสามารถทำตามได้ แล้วยังมีโครงการการประชุมนานาชาติเพื่อการสร้างชาติทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันจะเป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดยจัดเวียนไปตามประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยที่จะมีผู้นำประเทศอย่างนายกรัฐมนตรีมาร่วมด้วย และในงานนั้นก็จะมีการมอบรางวัลให้เยาวชน รวมทั้งมอบรางวัลให้กับผู้นำประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นบุคคลระดับโลกที่จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนได้

ในการอบรมแต่ละครั้ง ผู้เข้าอบรมสามารถเข้าอบรมได้ฟรี แต่เนื่องจากเราเป็นมูลนิธิที่ไม่แสวงหากำไร เราก็จะมีผู้ใหญ่ใจดีใจบุญคอยช่วยสนับสนุนทั้งทุนทรัพย์และบุคลากรที่มีความรู้เข้ามาช่วยในการอบรมแต่ละครั้งด้วย นอกจากนี้ยังมีองค์กรต่างๆ อย่างองค์กรนักศึกษา และองค์กรทั่วไปเข้ามาช่วยเหลือด้วยเช่นกัน พูดง่ายๆ ว่าทุกคนอยากเห็นประเทศชาติเจริญก้าวหน้า จึงเข้ามาช่วยเหลือกันเยอะมาก ฉะนั้นเลยถือว่าได้ประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมไปด้วย”

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถาม โทร.0-2711-7474, 09-7050-9368 อีเมล : nbiyouthclub@gmail.com