Dow เดินหน้าเป้าทำงานใหม่เพื่อความยั่งยืน จับมือ ทช. และ IUCN

Dow เดินหน้าเป้าทำงานใหม่เพื่อความยั่งยืน จับมือ ทช. และ IUCN

Dow เดินหน้าเป้าทำงานใหม่เพื่อความยั่งยืน จับมือ ทช. และ IUCN ผุด Dow & Thailand Mangrove Alliance สู้โลกร้อน ลดขยะพลาสติก

กลุ่ม บริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) เร่งเครื่องเดินหน้าเป้าการทำงานใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวทั่วโลกเมื่อเร็ว ๆ นี้ มุ่งสู่การเป็นบริษัทด้านแมททีเรียล ไซแอนซ์ (Materials Science) หรือ วัสดุศาสตร์ ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากที่สุดในโลก โดยเน้นลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และขยะพลาสติก เตรียมเปิดโครงการ Dow & Thailand Mangrove Alliance หรือ “ดาว - เครือข่ายชายฝั่ง รักษ์พิทักษ์ป่าชายเลน เพื่อความยั่งยืน” ขับเคลื่อนโรดแมปยกระดับการอนุรักษ์ป่าชายเลนอ่าวไทย-อันดามันอย่างมีส่วนร่วม โดยร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) เตรียมเปิดตัวป่าชายเลนปากน้ำประแส จังหวัดระยอง เป็นพื้นที่นำร่องในปีนี้ ก่อนขยายไปยังป่าชายเลนที่สำคัญในจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ

 

นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “เพื่อมุ่งหน้าสู่วิสัยทัศน์ในการเป็นบริษัทด้านแมททีเรียล ไซแอนซ์ ที่ยั่งยืนที่สุดในโลก ในปีนี้เราได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มเติมในการทำงานที่ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีกโดยประกาศว่า Dow จะบรรลุเป้าก๊าซเรือนกระจกสุทธิเท่ากับศูนย์ (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 ซึ่งหมายความว่า ผลิตภัณฑ์และโครงการต่าง ๆ ของ Dow รวมกันจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่าก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจาก Dow และยังมีเป้าด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยเรามุ่งมั่นที่จะทำให้พลาสติกจำนวน 1 ล้านตันทั่วโลกถูกเก็บกลับเพื่อนำมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลภายในปี 2573 รวมทั้งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Dow ที่นำไปผลิตเป็นแพคเกจจิ้งจะต้องสามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ภายในปี 2578

เพื่อเดินหน้าผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมายของ Dow ทั่วโลกอย่างเป็นรูปธรรม กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย จึงได้ต่อยอดโครงการด้านป่าชายเลนและขยะพลาสติกที่ดำเนินการมาแล้วอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ “Dow & Thailand Mangrove Alliance” ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) เพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์ป่าชายเลนอย่างครบวงจรและมีส่วนร่วม ซึ่งป่าชายเลนได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพในการลดคาร์บอนซึ่งก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนได้มากกว่าป่าไม้ชนิดอื่น ๆ โดยจะมีการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ห้องเรียนมีชีวิตในป่าชายเลนและเป็นต้นแบบการจัดการขยะในพื้นที่ รวมทั้งเผยแพร่ความรู้ด้านการคัดแยกขยะเพื่อลดขยะทะเล ยิ่งไปกว่านั้น เราจะมุ่งเน้นการสร้างกลไกทางเศรษฐศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์จากคาร์บอนเครดิตเป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมให้ชุมชนและประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วม โดยจะมีพิธีเปิดตัวโครงการเร็ว ๆ นี้”

 

โครงการฯ ดังกล่าวกำหนดแผนงาน (Roadmap) ระยะ 5 ปีนับตั้งแต่ พ.ศ. 2563-2567 โดยมีเป้าหมายร่วมกันที่จะอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพของป่าชายเลน ส่งเสริมให้มีการฟื้นฟูป่าชายเลนด้วยวิธีการที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) การสร้างรายได้ให้กับชุมชนจากกิจกรรมการอนุรักษ์ รวมทั้งช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกที่หลุดรอดลงสู่ทะเล โดยทุกองค์กรจะวางระบบและสร้างเครือข่ายในการฟื้นฟูและดูแลป่าชายเลนให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมอย่างสมดุล  

         

ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและขยะพลาสติก ถือเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดย Dow ในฐานะหนึ่งในบริษัทด้านแมททีเรียล ไซแอนซ์ ที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ร่วมกับพันธมิตรทั่วโลก และมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะนำไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะมีส่วนสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาโลกร้อนและช่วยลดขยะพลาสติกที่จะเกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในประเทศไทย กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้ร่วมกับทุกภาคส่วนดำเนินโครงการด้านการอนุรักษ์ป่าชายเลนอย่างต่อเนื่องมามากกว่า 11 ปี และ โครงการด้านการจัดการขยะพลาสติกมากกว่า 17 ปี

เกี่ยวกับ ‘ดาว

ดาว (DOW) เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านแมททีเรียล ไซแอนซ์ (Materials Science) ซึ่งพัฒนาและผลิตวัสดุชนิดต่าง ๆ ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นเลิศด้านนวัตกรรม เอาใจใส่ต่อลูกค้า ให้การยอมรับบุคลากรที่หลากหลาย  และให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากที่สุดในโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นส์ทางวิทยาศาสตร์ของดาวได้แก่ พลาสติกชนิดต่าง ๆ เคมีภัณฑ์เพื่ออุตสาหกรรม สารเคลือบผิว และซิลิโคน ซึ่งเน้นสร้างความแตกต่างเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง เช่น บรรจุภัณฑ์ การก่อสร้าง และการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ปัจจุบัน Dow มีฐานการผลิต 109 แห่งใน 31 ประเทศ และมีพนักงานประมาณ 36,500 คน โดยมียอดขายในปี 2562 ประมาณ 43 พันล้านดอลลาห์สหรัฐฯ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dow ได้ที่ www.dow.com หรือ ติดตามเฟซบุ๊ก www.facebook.com/DowThailandGroup/