ใช้ชีวิตต่อ Move On สู่โลก New Normal อย่างราบรื่น

ใช้ชีวิตต่อ Move On สู่โลก New Normal อย่างราบรื่น

ทรูมันนี่ แนะหมั่นเรียนรู้ มีสติใช้จ่าย เพื่อสร้าง Hybrid-Life ผ่านวิกฤติโควิดไปด้วยกัน

 

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในวิกฤตมีโอกาส การระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบในวงกว้างกับทุกคน ทุกธุรกิจ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีและวิธีการใช้ชีวิตและการทำงาน การเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้กระตุ้นให้เกิดการยอมรับและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างก้าวกระโดดเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ หรือ New Normal Lifestyle ที่คนต้องคงระยะห่างและให้ความใส่ใจเรื่องสุขอนามัยมากขึ้น  

 

โดยข้อมูลการวิเคราะห์จาก Mindshare ได้ระบุว่าสองพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปแล้วและอาจไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกก็คือเรื่อง การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในชีวิตประจำวัน และ การใส่ใจสุขภาพ เพราะเป็นสิ่งที่หลายคนได้ถูกผลักดันให้เรียนรู้และมีประสบการณ์กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อต้องถูกจำกัดให้สร้างระยะห่างทางสังคมและใช้ชีวิตอยู่กับบ้านเป็นส่วนใหญ่ ความจำเป็นที่ต้องหาทางออกในการใช้ชีวิต ไม่ว่าเป็นการสั่งอาหาร สั่งของ หาความบันเทิง หรือจับจ่ายใช้สอยแบบเลี่ยงการสัมผัส (Contactless Payment) ได้ทำให้คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่มองเทคโนโลยีเป็นทางออกทั้งสิ้น

 

และเมื่อตอนนี้ที่สถานการณ์และมาตรการทุกอย่างกำลังคลี่คลายลง และทุกคนกำลังต้องกลับไปใช้ชีวิตปกติในรูปแบบใหม่สไตล์ New Normal เทคโนโลยีก็ยังคงเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราสามารถสร้าง Hybrid-Life ที่ผสานทั้งชีวิตออฟไลน์และออนไลน์พร้อมใส่ใจสุขอนามัยอย่างลงตัว

 

ความเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวย่อมมาพร้อมกับความกังวลใจในการดำเนินชีวิต

จากผลสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้ TrueMoney Wallet ในกลุ่มนักศึกษาและกลุ่มวัยเริ่มทำงาน ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้ใช้หลัก (65% จากจำนวนผู้ใช้งาน TrueMoney Wallet ราว 13 ล้านราย) เผยให้เห็นถึงมุมมองคนรุ่นใหม่ ที่ส่วนใหญ่ยังมีความกังวลกับการใช้ชีวิตท่ามกลางกระแสการปรับตัวและการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์การรับมือโควิด-19 ที่ส่วนใหญ่แม้จะอยากกลับออกไปใช้ชีวิตแต่ก็ยังกลัวกับความเสี่ยงในการกลับมาแพร่ระบาด ส่วนใหญ่มองว่าภาพรวมเศรษฐกิจยังคงถดถอยแต่ก็เชื่อว่าจะฟื้นตัวได้ในอนาคต อันส่งผลให้ความรู้สึกอยากจับจ่ายสินค้าลดลง โดยกลุ่มนักศึกษาที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตนเองมองว่าจะลดการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยมากกว่าคนวัยทำงาน เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง อย่างไรก็ตาม ยอดใช้จ่ายการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet กลับเพิ่มขึ้นสวนกระแส

 

 

การซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์พุ่ง ร้านสะดวกซื้อยังยืนหนึ่ง 

โดยข้อมูลจาก Paysafe ระบุว่า 42% ของผู้บริโภคทั่วโลกหันมาช็อปออนไลน์เมื่อไม่สามารถไปที่หน้าร้านเหมือนปกติได้ โดย 15% ช็อปปิ้งผ่าน Digital Wallet เป็นครั้งแรก และ Digital Wallet ได้รับความนิยมในการใช้จ่ายออนไลน์สูงเป็นอันดับ 3 ที่ 39% รองจากบัตรเครดิต (44%) และบัตรเดบิต (42%) สะท้อนให้เห็นแนวโน้มการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ที่ยังคงดำเนินต่อไปและมีรูปแบบการใช้จ่ายแบบ Contactless Payment เพิ่มสูงขึ้น

 

โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา TrueMoney Wallet มียอดดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มขึ้น +20% ในขณะที่มูลค่าการใช้จ่ายโดยรวมโตถึง +25% โดยมียอดเติบโตของการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์และการซื้อหาดิจิทัลคอนเทนต์อยู่ที่ +10-25% ในขณะที่ร้านสะดวกซื้อยังเป็นช่องทางอันดับ 1 ของกลุ่มวัยเริ่มต้นทำงานที่จะเพิ่มการจ่ายเงินผ่าน e-Wallet ซื้อสินค้ามากที่สุดถึง 74% รองลงมาคือ ช่องทางออนไลน์ (54%) และซูเปอร์มาร์เก็ต (34%) ย้ำให้เห็นว่าวันนี้ e-Wallet เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ซึ่งในอนาคตจะเป็นมากกว่าแค่ช่องทางการจ่ายเงิน และรับบทบาทมากขึ้นในการเป็นช่องทางโปรโมทให้กับร้านค้าต่าง ๆ โดยล่าสุดทรูมันนี่ได้เปิดตัวฟีเจอร์ “มินิแอปฯ” (Mini-App) ที่เป็นเสมือนหน้าร้าน Online Stores ภายในแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ทให้สำหรับพาร์ทเนอร์ อีกทั้งยังเพิ่ม section โปรโมทสินค้าและข้อเสนอไฮไลท์ ที่เหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้พาร์ทเนอร์นำสินค้ามาวางหน้าร้านอีกด้วย

 

 

Move on การใช้ชีวิต (ต่อ) ในโลก New Normal & Lifestyle

ต่อจากนี้หลังจาก Unlock และเมื่อทุกคนกลับไปใช้ชีวิตแบบ New Normal สามสิ่งหลักที่เกิดขึ้นแล้วและจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตปกติก็คือ การซื้อขายสินค้าผ่านออนไลน์ (e-Commerce) การเรียนรู้ผ่านออนไลน์ (e-Learning) และการทำงานจากบ้าน (Work From Home) ซึ่งล้วนใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วย และถ้าใครยังไม่คุ้นชินก็คงต้องพยายามเรียนรู้เพื่อที่จะ Move on เพราะแน่นอนว่าเราคงต้องอยู่กับไวรัส COVID-19 ไปอีกนานกว่าจะมีวัคซีนได้ใช้ทั่วกัน โดยสำหรับในเรื่องนี้ ทรูมันนี่ ก็มีข้อแนะนำดีๆ ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการใช้ชีวิตแบบ New Normal ให้ราบรื่นโดยแนะให้หมั่นเรียนรู้ มีสติใช้จ่าย สร้าง Hybrid-Life ผ่านโควิดไปด้วยกัน ดังนี้

 

  • หมั่นเรียนรู้ reskill & upskill ตนเอง หนึ่งในวิถีการใช้ชีวิตที่ช่วยสร้างความมั่นใจก็คือ “การใฝ่รู้” และเปิดรับอะไรใหม่ ๆ ที่มีประโยชน์ในการใช้ชีวิต อาทิ เรียนรู้การใช้แอปฯ ต่างๆ ทั้ง Food Delivery, ออกกำลังกาย, ช็อปออนไลน์, คอร์สการเรียนรู้สกิลใหม่ๆ อาทิ ภาษา, การปรึกษาแพทย์ผ่านออนไลน์, การท่องเที่ยวแบบ Virtual รวมไปถึงการใช้แอปฯ e-Wallet ซึ่งในเรื่องนี้ก็สอดคล้องกับข้อมูลจาก We Are Social ที่เผยว่า คนใช้เวลากับแอปฯ ต่าง ๆ ที่มีบนมือถือมากขึ้นถึง 36% ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด
  • มีสติใช้จ่าย ไม่หลงเชื่ออะไรง่าย ๆ สติคือเกราะป้องกันชั้นดีในยุค New Normal ที่หลาย ๆ ชีวิตกำลังมีความลำบากและต้องดิ้นรนทุกวิถีทาง การหลงผิดจากการเสพย์ข่าวสารที่บิดเบือน หรือการถูกหลอกล่อด้วยเงินทองในการลงทุน เป็นสิ่งที่เหล่ามิจฉาชีพนำมาซ้ำเติมใครต่อใครหลายคนในช่วงนี้ตามที่เห็นบนพื้นที่ข่าว เพราะมีคนที่ไม่คุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีมาเป็นผู้ใช้ใหม่ที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารกลโกงเยอะ ดังนั้นการจะเสพย์ข่าวสาร ลงทุนอะไร หรือใช้จ่ายอะไรต้องใช้สติ คิดวิเคราะห์ให้ถี่ถ้วน เพราะไม่ใช่เราเองที่เรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัล มิจฉาชีพก็เช่นกัน โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 มีเว็บไซต์และเพจปลอมในรูปแบบ Phishing ที่เกี่ยวกับโควิด-19 พุ่งสูงถึง 30%
  • สร้าง Hybrid-Life ผ่านโควิดไปด้วยกัน การนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้กับไลฟ์สไตล์ของตนเองคือสิ่งที่จะทำให้เราผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน ตั้งแต่ตื่นนอน เช็คข่าวสารผ่านโซเชียล สั่งอาหารเช้าผ่าน Food Delivery เดินทางไปทำงานโดยเช็คเส้นทางบน Digital Map ทำงานผ่านวิดีโอคอล รวมถึงการใช้จ่ายเสี่ยงสัมผัส “เงินสด” ที่กำลังเป็นเทรนด์สุขภาพที่เกิดขึ้นทั่วโลก ข้อมูลจาก Mastercard เผยว่าคนทั่วโลก 79% หันมาใช้ Contactless Payment ในช่วงโควิด-19 ทั้งหมดนี้คือนวัตกรรมที่อยู่รอบตัวเราในยุค New Normal และควบคู่ไปกับการเว้นระยะห่าง รักษาความสะอาด เตรียมอุปกรณ์ป้องกันให้พร้อม ยึดมั่นในมาตรการของสถานที่ต่าง ๆ

 

 

เมื่อสถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เชื่อว่าประสบการณ์ที่ได้รับครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญของผู้บริโภคในการเข้าถึงดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่ไม่เคยลองมาก่อนนอกเหนือไปจากเรื่องสุขภาพที่ต้องกังวล การใช้งานเทคโนโลยีที่หลายคนเคยมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แท้จริงแล้วสามารถนำมาใช้อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย และช่วยเติมเต็มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคที่ทุกคนต้องปรับตัวให้พร้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี

 

เกี่ยวกับ TrueMoney (ทรูมันนี่)

TrueMoney คือผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มุ่งเน้นให้บริการทางการเงินแก่ผู้คนรวมไปถึงผู้ที่เข้าไม่ถึงบริการของสถาบันทางการเงิน โดยให้บริการใน 6 ประเทศในภูมิภาคได้แก่ ประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

 

TrueMoney ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2546 และเข้าเป็นธุรกิจหนึ่งของบริษัท Ascend Money ในปี พ.ศ. 2557 และเป็นพันธมิตรกับบริษัท Ant Financial Services Group ใน พ.ศ. 2559 ปัจจุบัน ทรูมันนี่ ให้บริการด้านการเงินที่หลากหลายผ่าน TrueMoney Wallet แอปพลิเคชั่นอีวอลเล็ทที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่ช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้การใช้จ่ายเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ ทรูมันนี่ ยังมีเครือข่ายตัวแทนที่ครอบคลุมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการบริการรับชำระเงินแบบออฟไลน์ทั้งหมดนี้เพื่อมอบความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับหลายล้านคนเพื่อก้าวล้ำไปสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น