แกะกล่องกองทุนใหม่

แกะกล่องกองทุนใหม่

ทางเลือกการลงทุนเพื่ออนาคตที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี

SSF คือ Super Savings Fund หรือกองทุนรวมเพื่อการออม มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว ด้วยการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากภาครัฐ   ถือเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนหลังจากสิทธิลดหย่อนภาษีของกองทุน LTF ได้สิ้นสุดลงในปี 2562

พอมาถึงช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัฐบาลได้กำหนดมาตรการสร้างความเชื่อมั่นในระบบตลาดทุน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเพิ่มกองทุนที่เรียกว่า SSFX หรือ กองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ ที่ให้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเพิ่มขึ้นมา แยกจากวงเงินลงทุนใน SSF ด้วย

สรุปง่ายๆ ตอนนี้เรามีกองทุนรวมที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอยู่ 3 กลุ่ม คือ SSFX / SSF และ RMF ที่มีอยู่เดิม ลองมาดูรายละเอียดของกองทุนทั้งสามกลุ่มนี้เปรียบเทียบกัน

แกะกล่องกองทุนใหม่

รายละเอียดสำคัญของกองทุน SSFX และ SSF

  • กองทุน SSF สามารถลดหย่อนภาษีสูงสุดได้ถึง 30% ของเงินได้ที่พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 2 แสนบาท และเมื่อรวมวงเงินลงทุนกับ RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนกบข., ประกันบำนาญ, กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ ต้องไม่เกิน 5 แสนบาท ต่างจาก SSFX ที่แยกวงเงินลงทุนที่จะได้รับสิทธิลดภาษีต่างหาก ไม่ต้องนำไปรวมกับการลงทุนอื่นใดเลย และไม่ว่าคุณจะมีเงินได้รวมทั้งปีเท่าไหร่ ก็สามารถลงทุน SSFX ได้สูงสุด 200,000 บาท
  • กองทุน SSF มีหลากหลายนโยบายการลงทุนให้เลือก เหมือนกองทุนรวมทั่วไปที่มีตั้งแต่กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ระดับความเสี่ยงต่ำ ไปจนถึงกองทุนที่ลงทุนหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ REITs ซึ่งมีความเสี่ยงสูง เป็นต้น ส่วน SSFX จะเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าหน่วยลงทุน
  • ไม่กำหนดขั้นต่ำในการซื้อหน่วยลงทุน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่เริ่มทำงานใหม่ได้เริ่มสะสมเงินออมจากการซื้อกองทุนรวมได้มากขึ้น รวมถึงไม่บังคับให้ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี จึงไม่ต้องคอยกังวลว่าจะผิดเงื่อนไขจากช่วงที่ไม่ได้ลงทุน เนื่องจากมีเงินออมที่ไม่แน่นอน หรือยังไม่พร้อมที่จะลงทุนต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานจนเกษียณ
  • การลงทุนใน SSF และ SSFXกำหนดให้ระยะการถือครองกองทุนนาน 10 ปีแบบวันชนวัน เช่น หากลงทุนวันที่ 1 มิถุนายน 2563 จะครบกำหนดขายคืนได้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2573 ซึ่งกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุนจะได้รับการยกเว้นภาษี
  • SSF ให้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ 5 ปี (ปี 2563 – 2567) หลังจากนั้นกระทรวงการคลังจะพิจารณาเงื่อนไขเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง ส่วน SSFX เปิดให้ลงทุนรับสิทธิลดภาษีได้ถึง 30 มิถุนายนนี้เท่านั้น

ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับกองทุน SSFX / SSF

ถาม : ประโยชน์ของการคงเงินลงทุนไว้ 10 ปี มีความน่าสนใจอย่างไร

ตอบ : การถือครองกองทุน SSFX/SSF มีกำหนด 10 ปีโดยนับแบบวันชนวัน จะช่วยสร้างวินัยการลงทุน ลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน  และได้รับประโยชน์จากพลังของดอกเบี้ยทบต้น รวมทั้งช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้ เนื่องจากผู้ลงทุนไม่สามารถนำเงินลงทุนออกมาใช้ก่อนครบกำหนดระยะเวลาถือครองนั่นเอง

 

ถาม : SSFX / SSF  เหมาะกับใคร ?

ตอบ : เหมาะกับวัยทำงาน ผู้ที่มีเงินได้เข้าเกณฑ์เสียภาษี  และต้องการออมเพื่อเป้าหมายต่างๆ ในอนาคต   ซึ่งอาจไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการออมเพื่อการเกษียณเพียงอย่างเดียว 

เนื่องจาก SSF มีหลากหลายนโยบายให้เลือกลงทุน ดังนั้นไม่ว่าจะรับความเสี่ยงได้มากหรือน้อย ก็สามารถเลือก SSF ที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่รับได้ เช่น

  • ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำอาจเน้นSSF ที่ลงทุนในตราสารหนี้เป็นสัดส่วนหลักของพอร์ต
  • ผู้ที่รับความเสี่ยงปานกลาง อาจเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน SSF ที่เป็นกองทุนหุ้นหรือลงทุนในกองทุนผสม
  • ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง อาจเน้นลงทุนในกองทุนหุ้นในประเทศหรือต่างประเทศ

หรือหากต้องการกระจายความเสี่ยง ก็สามารถเลือกลงทุน SSF ได้มากกว่าหนึ่งกองทุนด้วย

ส่วน SSFX จะเหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและมองเห็นโอกาสเติบโตของหุ้นไทย รวมถึงผู้ที่ลงทุนใน SSF, RMF, PVD และประกันบำนาญจนเต็มวงเงิน 500,000 บาทแล้ว และต้องการใช้สิทธิลดภาษีเพิ่มเติม เพราะ SSFX มีวงเงินลงทุนที่นำไปลดภาษีที่แยกออกมาจากการลงทุนกลุ่มดังกล่าว

 

ตัวอย่างวิธีการวางแผนลงทุนในกองทุน SSF 

แกะกล่องกองทุนใหม่

แกะกล่องกองทุนใหม่

จะเห็นว่า หากนาย A ลงทุนใน SSF 30% ของเงินได้ จะสามารถประหยัดภาษีได้ถึง 20,750 บาทเลยทีเดียว

 

 

สรุป

กองทุน SSFX /SSF และ RMF เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการลงทุนเพื่ออนาคต พร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษีของคนในวัยทำงาน หากเลือกให้เหมาะสมกับเป้าหมาย วัตถุประสงค์ในการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่รับได้  จะช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าได้เตรียมเงินส่วนหนึ่งรอไว้สำหรับอนาคตแล้ว

 

SSFX/SSF เป็นกองทุนเพื่อส่งเสริมการออม  ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า  เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนการตัดสินใจลงทุน / ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน

 

>> โปรโมชั่นกองทุน SSFX บลจ.กรุงศรี คลิก <<    

 

>> ข้อมูลกองทุน KFS100SSFX คลิก <<      

 

สอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนเพิ่มเติม รวมถึงขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.กรุงศรี

โทร. 02-657-5757 หรือ  ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา