อโรม่าจับมือฮาริโอะ กรุ๊ป เปิดตัวฮาริโอะ คาเฟ่ โชว์การชงกาแฟ

อโรม่าจับมือฮาริโอะ กรุ๊ป เปิดตัวฮาริโอะ คาเฟ่ โชว์การชงกาแฟ

โชว์ศิลปะการชงกาแฟกับ Slow Bar แบบชิค  แอนด์ คูลแนวเจแปนนิส แห่งที่ 3 ของโลกจากค่ายฮาริโอะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ดื่มกาแฟในชุมชน

        

อโรม่า กรุ๊ป ตอกย้ำศักยภาพผู้นำธุรกิจกาแฟและเครื่องดื่มครบวงจร ร่วมมือกับฮาริโอะเจ้าของแบรนด์อุปกรณ์การชงกาแฟระดับโลก เปิดตัว Hario Café Bangkok ต่อยอดพัฒนาตลาดการดื่มกาแฟ Specialty ระดับพรีเมี่ยม ในราคาที่เข้าถึงได้ ด้วยประสบการณ์ที่พิเศษสุดจากบาริสต้ามืออาชีพ ที่คอยแนะนำการดื่มกาแฟด้วยเทคนิคการชงทั้งแบบ drip, syphon, cold brew ประจำที่ร้านตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการเครื่องดื่มพิเศษ อื่นๆ ที่ พร้อมเสิร์ฟให้สำหรับคนที่ไม่ใช่คอกาแฟ ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ ในแบบ Slow life แต่ครบคุณภาพ มั่นใจศักยภาพการเติบโตของตลาดกาแฟที่โตต่อเนื่อง ในระดับ 10-15 % ต่อปี เพราะเทรนด์การดื่มกาแฟยังเป็นกระแสที่แรง   แม้ว่าสถานการณ์ขณะนี้ จะอยู่ในระยะที่คนไทย ยังหวั่นวิตกกับสภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต และทรัพย์สิน รวมถึงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเป็นอย่างมาก  ซึ่งนักการตลาดต้องเร่งเตรียมแผนและทำการบ้านอย่างหนักหลังเหตุการณ์คลี่คลายในปีนี้  

 

นายกิจจา วงศ์วารี กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือ อโรม่า กรุ๊ป (Aroma Group)ผู้นำธุรกิจกาแฟคั่วบด และเครื่องดื่มแบบครบวงจร เปิดเผยถึงความร่วมมือกับกลุ่มฮาริโอะในครั้งนี้ว่า “เพราะเรามองว่า ปัจจุบันการดื่มกาแฟของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก จากที่เคยดื่มกาแฟสำเร็จรูปในบ้าน หรือในที่ทำงาน ตามมาด้วยรูปแบบร้านกาแฟสมัยใหม่ พร้อมอุปกรณ์การชงที่ทันสมัย สะดวกรวดเร็ว มีที่นั่งพัก พบปะพูดคุยทั้งเรื่องส่วนตัว หรือทำงานนอกออฟฟิศ  และร้านกาแฟคั่วบดอีกมากมายในเวลาต่อมา  ล้วนแล้วแต่บ่งบอกถึงการพัฒนาประสบการณ์ดื่มกาแฟที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ การเปิดตัวของร้านกาแฟ Specialty Coffee ที่แต่ละร้านจะสรรรหาเมล็ดกาแฟคุณภาพจากแหล่งต่าง ๆ มาคั่วตามกรรมวิธีเฉพาะ พร้อมใช้วิธีการชงแบบคลาสสิก อาทิ Coffee Press หรือ เพิ่มความพิเศษแบบ Syphon มาเสริฟให้บริการลูกค้า ดูจะเป็นประเด็นที่เด่นชัด ชี้ให้เห็นถึงความพร้อมที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับการดื่มกาแฟของคนไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย และเชื่อว่าเทรนด์ความนิยมกาแฟพิเศษนี้จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น สอดรับไปกับการแสวงหาวิถีชีวิตคุณภาพแบบสโลว์ไลฟ์ ของคนเมือง”

 

ความร่วมมือกับฮาริโอะ กรุ๊ป  ผู้นำของอุปกรณ์การชงกาแฟคุณภาพระดับเวิลด์คลาส ที่มีศักยภาพ ทั้งในด้านสินค้าและบุคคลากรในตลาดมานานเกือบ 100 ปี จากประเทศญี่ปุ่น ในการเปิดตัว Hario Café Bangkok ร้านกาแฟ specialty ในรูปแบบ Slow Bar แบบชิค  แอนด์ คูลแนวเจแปนนิส ซึ่งนับเป็นสาขาที่ 3 ของโลก ต่อจากญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย ในครั้งนี้ของกลุ่มอโรม่า จึงถือเป็นโอกาสอันดี เพราะนอกจากจะเป็นการร่วมมือกันผลักดันให้ผู้ที่สนใจ หรือรักการดื่มกาแฟกลุ่ม specialty  เติบโตเพิ่มมากขึ้นด้วยการมอบประสบการณ์ที่ดีในการดื่มกาแฟ specialty จากบาริสต้ามืออาชีพใน Hario Café  พร้อมคัดสรรเมล็ดกาแฟระดับพรีเมี่ยมจากแหล่งถิ่นต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงเมล็ดกาแฟพิเศษ หายาก ตาม Seasonal มาคอยบริการให้ลูกค้าได้สัมผัสเมล็ดพิเศษๆ ใหม่ๆ อยู่เสมอ หรือจะเลือกดื่ม   house blend ตัวหลักที่ได้รับรางวัลเหรียญทอง  จาก International Coffee Tasting Competition 2019 อย่าง Victory Series : Infinity Blend เป็นกาแฟ และ House Blend ต่าง ๆเฉพาะที่ Hario Café Bangkok เท่านั้น เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ที่สุดพิเศษในคาเฟ่แบบ slow bar แห่งนี้ ที่พร้อมโชว์ศิลปะการชงทั้งแบบ drip, syphon, cold brew  มาเสิร์ฟให้ลูกค้า พร้อมกลุ่มเครื่องดื่ม อื่น ๆ  อีกหลากหลายเมนู  ที่เข้ามาร่วมสร้างสีสัน สำหรับคนที่ไม่ใช่คอกาแฟ ได้สนุกไปกับการดื่ม ในราคาที่เข้าถึงได้ ควบคู่ไปกับการให้ความรู้กับลูกค้าเสมือนเป็น Coffee Community  โดยลูกค้า สามารถพูดคุยสอบถามข้อมูลต่างๆกับบาริสต้า ที่คอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง อาทิ กรณีหากลูกค้าอยากจะดริปเอง หรือสนใจอยากการศึกษากรรมวิธีการชงกาแฟ แบบง่าย ๆ ด้วยตัวเอง รวมถึง ขั้นตอนต่างๆ ในการทำเครื่องดื่ม กับบาริสต้าที่คอยสอน และดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมให้คำปรึกษา แนะนำ การใช้อุปกรณ์การชงที่ทันสมัย จากการสร้างสรรค์และพัฒนาโดย  Hario ที่บาริสต้าใช้ประจำอยู่ที่ร้าน ให้ลูกค้าที่สนใจ สามารถหาซื้อไปใช้ในการรังสรรค์เครื่องดื่มด้วยตัวเองที่บ้านได้โดยสะดวก แม้เพิ่มเริ่มหัด”นายกิจจา กล่าวและเพิ่มเติมว่า

 

อย่างไรก็ดี เนื่องจากสภาพโดยรวมของตลาดในขณะนี้ ยังอยู่ในช่วงการชะลอจากผลกระทบภาวะการแผ่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งในระหว่างนี้ คงต้องรอดูนโยบายการฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อีกครั้ง แต่ก็เชื่อว่า ตลาดร้านกาแฟในปีนี้  อัตราการเติบโตน่าจะอยู่ใน ราว 10-15% ทุก ๆปี ด้วยศักยภาพของตลาดที่ยังอยู่ในกระแสที่ดี และพฤติกรรมการดื่มรวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ขยายฐานลูกค้าอายุน้อยลงจากอดีต สำหรับกลุ่มอโรม่า ในปีนี้น่าจะเติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว อีกประมาณ 20 %  จากการขยายฐานกลุ่มพันธมิตรต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ และทีมงานที่มีศักยภาพเฉพาะทาง  ตามแผนงาน ที่ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนา เพื่อเป็นแบบอย่าง และแรงบันดาลใจ ให้กับธุรกิจกาแฟไทย ที่นำพาความสำเร็จ และประสบการณ์สดใหม่เกี่ยวกับธุรกิจกาแฟมามอบให้กับลูกค้า พร้อมพัฒนาศักยภาพด้วยการนำเทรนด์และแนวคิดใหม่ๆเข้ามา เพื่อทำให้สินค้าและบริการของครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจกาแฟยิ่งขึ้น”นายกิจจากล่าวสรุป

Aroma Group คือผู้นำธุรกิจกาแฟคั่วบด และเครื่องดื่มแบบครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญ และสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ธุรกิจของเราครอบคลุมตลอดต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การคัดสรรและจัดจำหน่ายวัตถุดิบชั้นดี การจำหน่ายเครื่องมือ และอุปกรณ์คุณภาพสูง สถาบันสอนพัฒนาธุรกิจร้านกาแฟ ไปจนกระทั่งธุรกิจร้านกาแฟเพื่อรังสรรค์รสชาติกาแฟชั้นเลิศให้แก่ผู้บริโภค จวบจนทุกวันนี้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมาย เช่น โรงแรมชั้นนำ ร้านอาหาร ซูปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านเบเกอรี่ ทั้งจากตัวแทนจำหน่ายสินค้า Aroma กว่า 2,000 ราย ร้านค้าปลีกกว่า 7,000 ร้านค้า และ Aroma shop กว่า 30 ร้านค้า พร้อมเสียงตอบรับที่มากขึ้นทุกวัน