"อ.ส.ค." ปลื้มคว้ารางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น 5 ปีซ้อน

"อ.ส.ค." ปลื้มคว้ารางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น 5 ปีซ้อน

"อ.ส.ค." ปลื้มคว้ารางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น 5 ปีซ้อน โชว์ความเป็นเลิศผู้นำองค์กรมีสมรรถนะสูงด้วยหลักธรรมาภิบาล  


               
เป็นประจำทุกปีที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)จัดงานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นประจำปี 2562 (SOE Award) เพื่อเผยแพร่และประกาศให้สาธารณชนและสังคมได้รับทราบถึงผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจดีเด่นในด้านต่างๆ อันจะเป็นการสร้างความภาคภูมิใจ สร้างขวัญและกำลังใจให้รัฐวิสาหกิจในการปฏิบัติงาน รวมทั้งช่วยส่งเสริมให้รัฐวิสาหกิจมีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและนำองค์กรมุ่งสู่ความเป็นเลิศ   โดยปีนี้ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "พลังรัฐวิสาหกิจไทย สู่มิติใหม่ด้วยดิจิทัล (HONOR  THROUGH  DIGITAL TRANSFORMATION)" โดยได้รับเกียรติจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานภายในงาน พร้อมทั้งมอบรางวัลและมอบนโยบายให้แก่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ โดยการจัดงานในปีนี้มีการมอบรางวัลทั้งสิ้น 10 ประเภทรางวัล  โดยองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศ (อ.ส.ค.)รัฐวิสาหกิจภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  นับเป็น 1ในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจดีเด่นในปีนี้ที่สามารถคว้ารางวัลประเภทการพัฒนาองค์กรดีเด่น ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล 
             
ดร.ณรงค์ฤทธิ์    วงศ์สุวรรณ   ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.)   กล่าวว่า  จากความมุ่งมั่นในการพัฒนาและเสริมสร้างการบริหารจัดการและวัฒนธรรมการทํางานเพื่อนำพาองค์กรก้าวสู่องค์กรที่มีหลักธรรมาภิบาล  โดยมุ่งเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในอาชีพการเลี้ยงโคนมและอุตสาหกรรมนมไทยอย่างต่อเนื่อง     ด้วยการพัฒนาความสามารถบุคลากรทุกระดับตั้งแต่ผู้บริหารสายอำนวยการ   สายกิจการโคนมและสายอุตสาหกรรมนมให้มีความรู้   ความเข้าใจเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการเลี้ยงโคนมอย่างมีคุณภาพมาตรฐาน และจัดการความรู้ให้บุคลากรมุ่งสู่องค์กรนวัตกรรม (Knowledge Management)   

เพื่อผลักดันอ.ส.ค.ก้าวสู่วิสัยทัศน์ "นมแห่งชาติภายในปี 2564 ด้วยการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่ทันสมัย มีความโปร่งใส"และยุทธศาสตร์อ.ส.ค.ระยะ 20ปี พร้อมก้าวสู่การเป็น "องค์กรที่เป็นศูนย์กลางการบริหารอุตสาหกรรมโคนมของประเทศ" และการบริหารพัฒนาทรัพยากรบุคคลยุคใหม่ที่เน้นความทันสมัยและความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล  ด้วยการพัฒนาระบบทรัพยากรบุคคลให้มีความทันสมัยและมีมาตรฐาน   ด้วยหลักการดังกล่าวทำให้อ.ส.ค.สามารถคว้ารางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นประเภท "รางวัลพัฒนาองค์กรดีเด่นด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล" ประจำปี 2562 จากพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในงานประกาศรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นหรือ SOE Award ประจำปี 2562   ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "พลังรัฐวิสาหกิจไทย สู่มิติใหม่ด้วยดิจิทัล HONOR  THROUGH  DIGITAL TRANSFORMATION"  เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2562  ณ ห้องบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์   โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ที่ผ่านมา      

สำหรับงานดังกล่าวจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)   โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่และประกาศให้สาธารณชนและสังคมได้รับทราบถึงผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจที่ดีเด่นในด้านต่างๆ อันจะเป็นการสร้างความภาคภูมิใจ สร้างขวัญและกำลังใจให้รัฐวิสาหกิจในการปฏิบัติงาน รวมทั้งช่วยส่งเสริมให้รัฐวิสาหกิจมีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและนำองค์กรสู่ความเป็นเลิศ  ทั้งนี้  ที่ผ่านมา อ.ส.ค.ได้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นด้านการบริหารจัดการสารสนเทศ 2 ปีซ้อนมาแล้ว คือในปี 2558 และปี 2559 และจากการเดินหน้าพัฒนาองค์กรมาอย่างต่อเนื่องทำให้ปีที่ 2560  ได้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นด้านพัฒนาองค์กรดีเด่นในภาพรวม และ2561 รางวัลพัฒนาองค์กรดีเด่น ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และรางวัลความร่วมมือเพื่อการพัฒนาดีเด่น ด้านการยกระดับการบริหารจัดการ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 5 ที่อ.ส.ค.สามารถคว้ารางวัลอันมีเกียรติดังกล่าวเป็นผลสำเร็จ        

 "รางวัลดังกล่าวถือเป็นความภาคภูมิใจของพนักงานอ.ส.ค.เป็นอย่างมากและถือเป็นขวัญกำลังใจสำคัญในการที่อ.ส.ค.จะเดินหน้าขับเคลื่อนพัฒนาองค์กรให้แข่งแกร่งทางด้านธุรกิจ  ควบคู่กับการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคนมการพัฒนาอุตสาหกรรมนมไทยให้เป็นที่ยอมรับและเป็นอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืนคู่สังคมไทย  โดยเฉพาะการทำหน้าที่ในการส่งเสริมและสืบสานโคนมอาชีพพระราชปณิธานให้คงอยู่กับคนไทยตลอดกาล "ดร.ณรงค์ฤทธิ์    กล่าว

ดร.ณรงค์ฤทธิ์  กล่าวอีกว่า  ที่ผ่านมาอ.ส.ค.ได้มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง   ตั้งแต่สายกิจการโคนม  ผลิตภัณฑ์นม  โรงงานเพื่อสร้างแบรนด์และการสื่อสารแบรนด์ให้เข้าในชัดเจนมากยิ่งขึ้น  ตลอดจนสืบสานโคนมอาชีพพระราชทานให้เข้มแข็ง มั่นคง และสามารถสร้างแบรนด์นมไทย-เดนมาร์คให้เป็นที่ยอมรับและครองใจผู้บริโภคอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการบริหารจัดการองค์กรให้เป็นองค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูง (HPO) ด้วยหลักธรรมาภิบาล   เพื่อเตรียมในการก้าวสู่ผู้นำด้านอุตสาหกรรมนมของประเทศและกำลังก้าวสู่ผู้นำอุตสาหกรรมนมของอาเซียนในอนาคต   

อาทิ   การปั้นนักส่งเสริมมืออาชีพหรือสมาร์ทออฟฟิศเซอร์ (Smart Officer) ให้มีความเป็นเลิศและสามารถปฏิบัติงานส่งเสริมการเลี้ยงโคนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ทั้งยังมีศักยภาพในการให้ความรู้ด้านระบบการจัดการฟาร์มสมัยใหม่แก่ผู้เลี้ยงโคนม   ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละไม่น้อยกว่า 5% ขณะเดียวกันเร่งฟื้นฟูโครงการนักเรียนฟาร์ม รุ่นละ 12 คน เพื่อต่อยอดและพัฒนานักส่งเสริมการเลี้ยงโคนมช่วยถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกร เพื่อทดแทนนักส่งเสริมรุ่นเก่าซึ่งมีอายุสูงขึ้น พร้อมสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่
 
นอกจากนี้ ด้านการบริหารความเสี่ยงที่ดีต้องให้คนในองค์กรที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ ตรวจสอบ ประเมินความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับองค์กรอยู่เสมอ   อีกทั้งร่วมกันวางแผนป้องกันและควบคุมให้เหมาะสมกับภารกิจ เพื่อลดสภาพปัญหาหรือหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจสร้างความเสียหายหรือความสูญเสียให้กับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่สุด  พร้อมดำเนินการวิจัยและพัฒนานำไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม    ทั้งยังมุ่งสร้างความสามารถการแข่งขันเพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ   เช่น ฟาร์มโคนมออร์แกนิก, ศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนม, ศูนย์วิจัย, โรงงานผลิตภัณฑ์นมมาตรฐานสูง, ตลาดจำหน่ายสินค้า  เป็นต้น" ดร.ณรงค์ฤทธิ์  กล่าว