อาการของโรคเข่าเสื่อม

อาการของโรคเข่าเสื่อม

ผู้สูงวัยที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่จะพบในผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก มีหน้าท้องยื่น ใช้งานเข่าหนัก เช่น เดินมาก ใส่รองเท้าส้นสูงบ่อยครั้ง

 

เข่าเสื่อม เป็นอาการที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้สูงวัยที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่จะพบในผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก มีหน้าท้องยื่น ใช้งานเข่าหนัก เช่น เดินมาก ใส่รองเท้าส้นสูงบ่อยครั้ง เข่าเคยกระแทก หรือเคยเกิดอุบัติเหตุที่เข่า อาการไม่ได้รุนแรงทันที แต่จะค่อยๆ ปวดและมีอาการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น ได้ยินเสียงกร๊อบแกร๊บเวลาเคลื่อนไหว เวลางอหรือเหยียดเข่าจะปวดเสียวแปล๊บใต้ลูกสะบ้าหรือในเข่าลึกๆ หรือปวดแปล๊บเหมือนเข็มทิ่มในเข่าลึกๆ เวลาเคลื่อนไหวแบบบิดเข่าจะปวดหรือเสียวในข้อเข่าหรือใต้ลูกสะบ้าเวลาลงน้ำหนักที่เข่าเต็มที่เมื่อเดินขึ้นหรือลงบันได ฯลฯ

คุณเพ็ญพิชชากร แสนคำ นักกายภาพบำบัด จากคลินิกกายภาพบำบัดอริยะ ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี)   ได้ให้ข้อมูลว่า ข้อเข่าเป็นข้อต่อที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย เพราะต้องแบกรับน้ำหนักตัวของเราไว้ทั้งหมด เวลาเดินเข่าต้องรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 เท่าของน้ำหนักตัวเรา เมื่อเดินขึ้นบันได เข่าจะต้องรับน้ำหนักเพิ่มเป็น 3-4 เท่าของน้ำหนักตัวเรา นั่นแปลว่าเราต้องสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงและสมดุลให้มาก เพื่อให้เข่าสามารถแบกรับน้ำหนักทั้งหมดของเราให้ไหว ซึ่งท่านที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือปวดเข่า มีแนวโน้มอาการข้อเข่าเสื่อม แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือเข้ารับการตรวจ X-Ray ร่างกาย หากพบว่าช่องว่างระหว่างกระดูกข้อเข่าแคบลง กระดูกผิวข้อบางลง หรืออาจพบกระดูกงอก เหล่านี้คือผลจากภาวะเข่าเสื่อม

ลักษณะอาการของโรคเข่าเสื่อม จะมีลักษณะดังนี้

  1. ปวดเข่า โดยปกติจะปวดเมื่อมีการเคลื่อนไหว หรือมีการเดินลงน้ำหนัก แต่เมื่อพักจะดีขึ้น หรือเมื่อนั่งในท่างอเข่า พับเข่านานๆ จะปวดในข้อเข่า เปลี่ยนท่าทางจะดีขึ้น จังหวะแรกที่จะขยับเข่า เหยียดออกจะปวดมาก ถ้าอาการค่อนข้างรุนแรงแล้วจะปวดตลอดเวลา
    2. ข้อติดแข็ง ส่วนมากจะพบในตอนเช้าเมื่อตื่นนอนใหม่ๆ หรือเมื่ออยู่ในท่าทางใดท่าทางหนึ่งนานๆ ต่อเนื่องโดยไม่ได้ขยับ
    3. บวมรอบข้อเข่า อาจพบร่วมกับอาการแดงและร้อนเมื่อลองคลำบริเวณรอบเข่า
    4. มีการผิดรูปของข้อเข่า ซึ่งเกิดจากผิวข้อ (Cartilage) บางลง แล้วตัวกระดูกมีการเสียดสีกัน จนเกิดกระดูกงอก ทำให้เข่าผิดรูปและขยายตัว จึงพบว่าผู้ที่มีเข่าเสื่อมรุนแรงรอบข้อเข่าจะใหญ่ขึ้น
    5. มีเสียงดังภายในข้อเข่าเมื่อมีการเคลื่อนไหว ซึ่งเสียงที่เกิดขึ้นอาจมาจากการเสียดสีของผิวข้อภายในข้อเข่า

ท่านใดมีลักษณะอาการเพียง 3 ใน 5 ข้อ ก็จัดได้ว่ามีแนวโน้มเป็นอาการของข้อเข่าเสื่อม ซึ่งหากเข่าเสื่อมแล้วต้องผ่าตัดเลยไหม เสื่อมแล้วยังรักษาได้ด้วยหรือ

คำตอบคือ รักษาได้หากไม่รุนแรงมากถึงขั้นทรมานตลอดเวลา ความเสื่อมที่เกิดไปแล้ว เราทำให้หายเสื่อมไม่ได้ แต่เราสามารรักษาสภาพข้อต่อหมอนรองข้อเข่าที่มีอยู่ให้ทำงานได้เต็มที่ไม่ให้เสื่อมหรือทรุดมากขึ้น โดยใช้วิธีสร้างกำลังกล้ามเนื้อที่เป็นตัวอุ้มข้อเข่าให้แข็งแรง ให้สมดุล ให้ทนพอต่อการรับน้ำหนักของร่างกาย ซึ่งหากเป็นคนน้ำหนักมากก็ต้องลดน้ำหนัก ช่วงที่ปวดมากต้องพัก อย่าลงน้ำหนักมากให้บาดเจ็บเพิ่ม หน้าที่หลักของกล้ามเนื้อคือ ใช้เคลื่อนไหวส่วนหนึ่งและใช้พยุงข้อต่อต่างๆ อีกส่วนหนึ่งจึงต้องสร้างให้ถูกกับหน้าที่ของแต่ละมัดกล้ามเนื้อ ให้หล่อเลี้ยงเข่าได้เพิ่มขึ้น เพราะเวลาปวดกล้ามเนื้อก็มักเกร็งรั้งไปหมดทั้งน่องและสะโพก เมื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ส่วนที่เกร็งก็จะคลาย ยิ่งทำให้การไหลเวียนดีขึ้น สำหรับส่วนที่ต้องสร้างความแข็งแรงคือ กล้ามเนื้อ เพื่อให้เคลื่อนไหว เดินได้คล่อง สร้างกล้ามเนื้อมัดที่พยุงข้อให้แข็งแรง

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นการปรับโครงสร้างร่างกายให้สู่สมดุลและสามารถแก้อาการของคนที่ปวดเข่าจากเข่าเสื่อมได้คะ ในเป็นกรณีที่ไม่รุนแรงมากถึงขั้นเข่าผิดรูปมาก และปวดตลอดเวลาทั้งตอนพักและตอนใช้งาน อันนี้ก็คงต้องประเมินกันอีกทีคะว่าจะดูแลรักษากันในแนวทางไหนถึงจะเหมาะสมกับความรุนแรงที่เป็นอยู่คะ

สอบถามรายละเอียดได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เสาวณี (ดาว) 081 830 4299