สลิงชอท กรุ๊ป แตกไลน์ธุรกิจใหม่บุกตลาด Wellness

ดร.สุทธิโสพรรณ ช่วยวงศ์ญาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด บริษัทที่ปรึกษาให้บริการด้านการพัฒนาผู้นำและการพัฒนาองค์กร เปิดเผยว่า สลิงชอท กรุ๊ป ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ Leadership Wellness ขึ้นเป็นรายแรกของประเทศไทย หลังพบว่าผู้นำในปัจจุบันหันมาใส่ใจตนเองตามเทรนด์สุขภาพ ซึ่งหากศึกษาตลาดสุขภาพในระดับโลกจะพบว่าเป็นธุรกิจที่โตเร็วกว่าเศรษฐกิจโลกโดยรวม สำหรับสัดส่วนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ธุรกิจความงามและชะลอวัย 25% ตามมาด้วยธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพและลดน้ำหนัก 16% ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 15% ส่วนด้านสุขภาพของผู้นำและในที่ทำงานมีเพียง 1% เท่านั้น จึงถือเป็นตลาดใหม่ที่จะเข้าไปเจาะเพื่อให้ความรู้และสร้างการเติบโต อย่างไรก็ตาม คาดว่าธุรกิจใหม่ดังกล่าวนั้น จะเป็นช่วยให้บริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 30% ในปีนี้

สำหรับ กลุ่มเป้าหมายของ Leadership Wellness นั้น จะเน้นไปยังผู้นำองค์กรที่มีนโยบายสร้าง Wellness Culture และกลุ่มผู้บริหารที่เคยอยู่ในหลักสูตรExecutive Coaching โดยตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้ จะมีผู้บริการระดับสูงเข้าร่วมโปรแกรมจำนวน 60 คน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม และก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการนั้น มีผู้สมัครเต็มแล้ว 1 กลุ่ม นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าหมายว่า ในปี 2563 จะมีผู้เข้าร่วม 100 คน อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการธุรกิจของสลิงชอท ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมานั้น ได้มีส่วนให้คำปรึกษาผู้นำองค์กรมามากกว่า 100,500 คน และตั้งเป้าให้ครบ 1 ล้านคนภายในอีก 3 ปี โดยมุ่งเป้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มบุคลากรในองค์ชั้นนำ

ด้านนางมัณฑนา รักษาชัด กรรมการผู้จัดการ กลุ่มกิจการธุรกิจหลัก บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า สำหรับค่าใช้จ่ายโปรแกรม Leadership Wellness นั้น จะเป็นแพ็คเกจ อยู่ที่ราคา 400,000 บาทต่อคนต่อคอร์ส 12 เดือน โดยในแพ็คเกจดังกล่าว ประกอบด้วย ทริปต่างประเทศ 6 วัน 5 คืน, อาหารตลอดทริป, สปา, การโค้ชโดยผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น ทั้งนี้ สัดส่วนของผู้นำที่จะเข้าร่วมโปรแกรม 18 คน จะมีโค้ชผู้เชี่ยวชาญดูแล 1 คน ขณะเดียวกัน ยอมรับว่าการทำตลาดในเมืองไทย อาจจะมีความยาก โดยเฉพาะในเรื่องของการเปลี่ยน Mind Set แต่เชื่อว่าตลาดดังกล่าว จะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน

 

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลวิจัยของ Aro Ha Wellness Retreats ศูนย์ปรับวิธีคิดและวิธีการใช้ชีวิตตามหลักการ Wellness ชั้นนำระดับโลก ชี้ให้เห็นว่าผู้นำที่ผ่านการโค้ชชิ่งจากสถาบันใน 6 วันแรก การใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ที่เข้าร่วมโปรแกรมมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดย 16% มีความเป็นอยู่และมีความสุขมากขึ้นหลังจากผ่านไป 1 เดือน ผลการศึกษายังพบว่าด้านการทำงาน 13% ของผู้เข้าร่วมโปรแกรมมีผลการทำงานที่ดีขึ้น ในด้านของสุขภาพทางร่างกาย พบมีพัฒนาที่ดีขึ้น 22.4% นอกจากนี้ งานวิจัยยังกล่าวถึงความเครียด ซึ่งอีกปัจจัยมีผลต่อ Wellness ซึ่งการเกิดความเครียดฉับพลันจะส่งผลต่อการตัดสินใจ โดยทำให้มีการใช้อารมณ์เป็นพื้นฐานในการตัดสินใจ มากกว่าการตัดสินใจบนพื้นฐานของเป้าหมายทางธุรกิจอันจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดทางธุรกิจจนเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา