นิทรรศการ "MØDVLXXR"

นิทรรศการ "MØDVLXXR"

จัดแสดงระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม – 30 กันยายน พ.ศ.2562 ชั้น G ห้องนิทรรศการหมุนเวียน 3 พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA BANGKOK)

 

พิธีเปิดนิทรรศการ    : วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ.2562 เวลา 14.00 น.

 

MØDVLXXR คืองานศิลป์ไตรภาคว่าด้วยการสำรวจความเสื่อมของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์หลอนและความมืดมนผ่านวิดีโอและภาพนิ่ง ปลุกเร้าด้วยทัศนียภาพของเสียงเชิงทดลอง

 

ผลงานโสตทัศนศิลป์ถูกติดตั้งในพื้นที่คับแคบชวนอึดอัดเพื่อกระตุ้นสภาวะจิตใจแบบปิดกั้นตัวเองและความแปรปรวนสองขั้วของศิลปิน

ภาค 1:

ไฮเวย์ในทะเลทรายและความมืด (Dark Desert Highway)  ชายชาวพื้นเมืองอเมริกันสอนผมเรื่องพลังของต้นตะบองเพชรและลำโพง

ผมพบเธอที่นั่น ..... ในอิกซ์ลาน

ภาค 2: SVRREVLSM  เผ่าพันธุ์แปลงกายที่แฝงเร้นในเงาแห่งความมืด

ภาค 3: ZYQ จิตใจอันซับซ้อนของหญิงผู้โดดเดี่ยว

 

เกี่ยวกับศิลปิน

0010x0010 เป็นศิลปินโสตทัศนศิลป์ เกิดที่เมืองเฮลมอนด์ในนอร์ดบราบันต์ ทางใต้ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ภูมิภาคเดียวกับวินเซนต์ แวน โก๊ะ (Vincent Van Gogh) 

 

0010x0010 เป็นลูกชายคนเดียว แม่เป็นชาวยุโรปและพ่อเป็นชาวเมลานีเซียน ทั้งคู่หย่ากันเมื่อเขาอายุได้ 4 ขวบ ถือเป็นจุดจบของบทแรกของชีวิตวัยเด็กที่เต็มไปด้วยความบอบช้ำทางจิตใจและปัญหา อย่างไรก็ตามถึงเขาจะมีพลังด้านลบและความมืดมนรายล้อม เขาก็ยังชอบชีวิตของตัวเองในช่วงที่โตขึ้นมา

 

ไลฟ์สไตล์ของแม่และพ่อเลี้ยงทำให้เขามีอิสระมากแบบไม่มีใครมาควบคุม ในบ้านมักเต็มไปด้วยรูปของคนที่เป็นตัวอย่างในเรื่องแปลก ๆ ทั้งศิลปิน คนติดยา ไปจนถึงอาชญากรตัวฉกาจ ซึ่งนำเขาไปสู่อีกวัฒนธรรมของยาเสพติด เงิน เซ็กส์ ฆาตกรรม รวมถึงดนตรี ภาพยนตร์ ศิลปะ แฟชั่น และอาหารที่ดีที่สุดเท่าที่หาได้ ในช่วงนั้นเขาเริ่มเป็นโรคอารมณ์สองขั้วและมีอาการอารมณ์แปรปรวน ทำให้เขาสร้างมโนทัศน์เกี่ยวกับการอยู่ในโลกหลายใบไปพร้อม ๆ กัน ผ่านตัวตนต่าง ๆ ซึ่งเป็นวิธีหลบหนีความเป็นจริงที่บ้านของเขา วิธีคิดนี้นำไปสู่การค้นพบความชื่นชอบการสร้างสรรค์และมีอิทธิพลต่องานของเขาจนถึงทุกวันนี้

เขากล่าวไว้ว่า "ช่วงเวลาที่ผมโต มันเหมือนหนังที่ผสมความบ้าระหว่างเควนติน ทารันติโน่ กัสปาร์ โน และมาร์ติน สกอร์เซซี แต่ผมรู้สึกว่าความสุดโต่งในชีวิตวัยเด็กคือองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของความเป็นผมทุกวันนี้และสิ่งที่ผมมองหาในชีวิตและศิลปะ ผมไม่คุ้นกับ "ความปกติ" และ "กิจวัตร" เพราะฉะนั้นโดยสัญชาตญาณ ผมมักจะไปในที่ที่อึดอัด ที่ที่สามารถก้าวไปข้างหน้าเพื่อเติบโต แทนที่จะตกอยู่ในวังวนเดิม ๆ"

 

เมื่ออายุได้ 18 ปี เขาแยกออกมาอยู่คนเดียว เซ็นสัญญางานเพลงชิ้นแรก ซื้ออุปกรณ์โดยขอเบิกเงินล่วงหน้า และเริ่มออกผลงานและแสดงเพลงแดนซ์ใต้ดิน หลังจากตระเวนแสดงตามโรงละครและผจญภัยช่วงสั้นๆ ในฐานะศิลปินของค่าย MCA/Universal ในลอนดอน เขาย้ายไปอยู่ลอสแอนเจลิสเพื่อมุ่งทำงานในสายอาชีพใหม่ด้านทัศนศิลป์ ภาพยนตร์ การถ่ายภาพ และการตัดต่อ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การทำงานแค่ในโปรเจกต์ทัศนศิลป์ไม่น่าพอใจเท่าที่ควร เขาจึงกลับไปทำเพลงใต้ดินอีกครั้ง ในช่วงนี้เขาเริ่มผสมผสานงานทัศนศิลป์เข้ากับงานออกแบบดนตรีและเสียงในสไตล์ของตัวเอง ก่อเกิดเป็นสิ่งที่เราได้ดูและฟังในวันนี้

 

ผลงานด้านดนตรีมากมายในปัจจุบันของเขาแสดงให้เห็นถึงเสียงอันเป็นเอกลักษณ์เมื่อเทียบกับศิลปินร่วมสมัยคนอื่นๆ และได้รับการสนับสนุนจากดีเจระดับแนวหน้าทั่วโลก เช่น เอมิลี่ เลนส์ (Amelie Lens) แด็กซ์ เจ (Dax J) และเอลเลน แอลเลี่ยน (Ellen Allien) เป็นต้น เราอาจได้ยินดนตรีของเขาในคลับ Berghain เทศกาลดนตรี Tomorrowland ช่อง Boiler Room สถานีวิทยุ BBC Radio 1 รวมทั้งในภาพยนตร์ เช่น Compulsion ที่อนาเลห์ ทิปตัน (Analeigh Tipton) แสดงนำ

 

องค์ประกอบทั้งหมดเหล่านี้ได้หล่อหลอม 0010x0010 ให้กลายเป็นศิลปินที่ประณีต มีเอกลักษณ์ และมีความสามารถในการผสมผสานความรู้ในสาขาต่างๆ ให้กลายเป็นประสบการณ์ด้านสื่อผสมที่เข้มข้น และขยายขอบเขตของศิลปะร่วมสมัยใหม่เป็นสไตล์ที่เขาเรียกว่า "Future Surrealism" (ศิลปะเหนือจริงแห่งอนาคต)

 

ตัวอย่าง VDO : https://www.youtube.com/watch?v=_58DWJ2dVvM